เมื่อตัวแม่ลา(แมร์) ปะทะ ตัวแม่ชา(แนล) ^_^

สวัสดีค่ะ เพิ่งจะลองเขียนรีวิวเป็นครั้งแรก จริงๆ อยากเขียนนานนนนแล้นนน

เพราะว่าได้ลองเครื่องสำอางค์เคาน์เตอร์แบรนด์มาก ล๊ายยย หลายยี่ห้อ ชนิดที่ว่าอะไรว่าดี ก็ลองไปตามนั้น

หลงเพ้อฝันกับคำโฆษณาแบบว่า คิดว่าจะได้ผิวแบบพรีเซนเตอร์ชัวร์ๆ อารมณ์ ... อิ่มเอิบ ฉ่ำน้ำ เปล่งปลั่ง ไร้ริ้วรอย

 ... โอ๊ย ไม่คิดถึงสภาพสังขารตัวเองเลยง่ะ 

 

ผลที่ได้คือกองเครื่องสำอางค์ที่โตมากเรียกว่าใช้แทนเตียงนอนได้(รองรับน้ำตา ของความเสียดายตังค์ )

เอาล่ะ งั้นเราก็ไม่ควรเสียเงินฟรีๆ แบ่งปันข้อมูลดีๆ กับเพื่อนๆ สมาชิกดีกว่า ... เริ่มเลยนะฮ๊าาาาา

 

เรื่องเดิม

อายุ 30 กลางๆ  แหะ แหะ

1. เป็นคนผิวผสม มีรูขุมขนกว้างบริเวณ T-Zone  เป็นสิวง่ายมาก

2. เป็นคนผิ้วแพ้ง่าย และที่แพ้มากๆ ก็คือ น้ำมันหอมระเหย ... โดยเฉพาะ  ลาเวนเดอร์ ค่า เจอกันทีไร ก็จุดขึ้นทุกที

(บทเรียนก็คือ หลีกเลี่ยงคำว่า mineral oil อย่างเดียวไม่ด้ายยยย อ่านส่วนผสมทุกครั้งนะจ๊ะ จะเจอ oil อย่างอื่น เช่น canola , jojoba , olive , sweet almond, lavender ก็ฉุกคิดซักนิด "เราจะแพ้มั้ยหว่า" ....

อ้าว นอกเรื่องอีกแระ

 

เรื่องมันมีอยู่ว่า

 

เราได้ดันไปอ่านเจอ review ในMagazine ว่า Chanel ตัว Hydra Beauty มันดีมากกกก

ซึ่งเคยใช้อยู่แล้วตอนท้อง ก็เลยโฉบไปทันทีที่เคาน์เตอร์ประจำที่เซ็นทรัลชิดลม ค่ะ ... ปรากฎว่า ดูผิวกันไป คุยกันมา    BA  เค้าก็ยกเซตตัวแม่มาให้เลย ... Chanel Sublimage  แม่จ้าว... รวมๆ ก็ 4 หมื่นก่าๆๆๆ ได้

  นึกในใจ ไม่ซื้อ ไม่ซื้อ ไม่มีทาง เราไม่มีทางตกหลุมอันนี้เด็ดขาด

ทำเหมือนเดิม test ให้ที่ท้องแขน ....อ๊า ... คุณขา เนื้อครีมมันซึมเข้าไปในผิวแบบหายแว๊บซะงั้น

 และมันก็ห๊อมหอมหอมมว๊ากกกกกกก
  ลูบไปนี่ มันเนียน แน่น โอ้ว... ต่อมอยากทำงานทันที

ส่ายหน้าไปมาอยู่หลายหน เรียกสติคืนมา ... น้องคะ ซื้อบลัช กับ lipstick ไปแล้วน้องช่วยแถม sample ตัวนี้ได้มั้ยล่ะ ... เผื่อว่าดีจริง เด๋วจะกลับมาซื้อแน่นอน

น้องเค้าคนประจำอยู่แล้ว ก็ ขยิบตากันนิดหน่อย บอกว่า OK ค่า (คิดเฉพาะราคาครีม ตัว samples ที่ให้มาก็น่าจะราวๆ 2 พันได้แล้วค่ะ )

 

กลับมาบ้าน ก็กวาดไอ้ที่รกๆ หน้ากระจกทิ้ง วางมันไว้ อาบน้ำล้างหน้าอย่างสบายใจ รีบมาทดลอง เค้าให้ sublimage nanolotion  หยดใส่สำลี กดๆ เบาๆ บนหน้า .... แล้วรอดูผลแป๊บนึง ว่าแดงรึเปล่า ... ไม่มี effect ใดๆ รู้สึกว่ามันชุ่มชื้น และ ห๊อมมมมมมมม  แล้วก็ต่อ

,  la creme texture fine(ผิวผสม ถ้าผิวแห้งใช้ la creme universalle)  ปาดไป โอ้ว ให้ผลเหมือนที่ท้องแขน

คือ เนียน นุ่ม และ ซึมหายแว๊บไปในผิวอย่างเร็ว แต่ไม่แห้งนะคะ มันสบายผิว และ หอมมมมมมม แบบว่าคนข้างๆ เดินผ่านมา ขอหอมซักทีเลย เพราะมันหอมมาก

เอาล่ะ แล้วก็เกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝัน  ... ดิฉันรีบตรงกลับไปที่เคาน์เตอร์ อาการเบลอๆ ออกมาก็ปรากฎว่า นี่ฉันถอยมันมาทั้งเซต ดังภาพนี่ล่ะค่ะ

 

ราคาก็ลด 10% ตามบัตรแพลตินั่ม ไม่มีส่วนร่วมกับรายการอะไรทั้งสิ้นกับห้าง (เบื่อก็ตรงนี้ล่ะ)  อ้อ .. แต่เอาไปแลก beauty coupon ได้นิดหน่อย พอไม่ให้เสียกำลังใจ 

 

ผลปรากฎก็คือ มันสุดยอดดดดด มากกกก ขอบอกเลยว่า ใครสู้ไหว  และมีสภาพผิวแบบแด๊นนะคะ ลองเลยค่ะ เชียร์ ๆๆๆ แต่ราคามันก็ปวดตับเอาการอยู่ ...

 

ขอแนะนำว่า ... ให้ลอง tester ดูก่อน ลองซื้อทาง net ก็ได้ เห็นเค้ามีขายกันว่อนๆ หรือลองไปขอที่เคาน์เตอร์ดู (ถ้าได้ก็โชคดีหลาย ) 

 

ทีนี้ เพื่อให้เกิดประโยชน์มากกว่า ก็เลยเอามาแชร์ประสบการณ์การใช้  เปรียบเทียบกับ ตัวแม่เก่า (ลาแมร์) ซึ่งเป็นเหมือนยาสามัญประจำบ้านอยู่แล้ว

 ลองอ่านละกันนะ

เมื่อตัวแม่ลา(แมร์ ) ปะทะ ตัวแม่ ชา(แนล)  

 

แม่ลา(แมร์ ) ตัวเก่าก่อนนะคะ

เพิ่งสอยตัวใหม่มา   แหะ แหะ

เขาบอกว่า คุณสมบัติเหมือน creme de la mer เป๊ะ แต่ว่าไม่ต้องวอร์มครีมให้เมื่อยมือ (และให้เสียครีมซึมเข้ามือจนมือจะนุ่มกว่าหน้าแล้วเนี่ย 55555) 

เราก็เลยเลือกขนาดกระปุกต่างกัน มาโชว์จะได้เห็นความแตกต่าง

 กับเนื้อครีม 3 แบบ เล็กคือ creme la mer กลางคือ soft cream ใหญ่ คือ gel de la mer

เห็นมั้ยจ๊ะ ซ้ายสุด นี่ดูเหนียวหนุบหนับอารมณ์เหมือนพวกครีมบัวหิมะ (5555)  กลาง ก็ ตัว soft cream ใหญ่ก็ gel

 

 

 

 

 

เค้าว่ามันช่วยปลอบประโลมผิว ช่วยให้ผิวซ่อมแซมตัวเองได้ดี โดยเฉพาะเวลาเป็นแผล หรือเวลาไปเลเซอร์มาเนื้อมันหยุ่นๆ  เป็นพายตัก (ซึ่งใช้ยากอยู่นะ เราไม่ชอบเลย เวลาใช้กลัวครีมเสีย ก็ต้องเอาคอตต้อนบัด ปาดครีมจากพายอีกทีแล้วมาปาดบนหน้า )

ครีมมันหยุ่นๆ ใสๆ ขุ่นๆ กลิ่นเหมือนพวกสปานิดๆ เราเดาว่ามันมีน้ำมันหอมระเหยอะไรซักอย่าง ... คล้ายๆ ลาเวนเดอร์ที่เราแพ้ ... แต่ใช้ตัวนี้แล้วไม่แพ้นะคะ แต่ไม่ค่อยรู้สึกอะไรเท่าไหร่ เท่าที่เค้าโฆษณา (เค้าว่ามันคือ miracle broth แบบเข้มข้น)  เหมือนกับฟิล์มเคลือบผิว แล้วมันก้ทำให้เราใช้ครีมน้อยลง เวลาใช้ ให้ปาดลงผิว แล้วนวดๆๆๆๆ จนมันซึมเข้าผิว แล้วค่อนตบ ลาแมร์ตาม  เราก็เลยเก็บมันไว้ใช้เวลาตากแดดจัดๆ มากๆ หรือทาซัก อาทิตย์ก่อนทำ เลเซอร์ เพราะเชื่อว่ามันช่วยให้ผิวซ่อมตัวได้ดี ... (แม้ลึกๆ ก็ไม่รู้สึกแตกต่างเท่าไหร่ ใช้ๆ ให้หมดไปอ่ะ )

เทพที่สอง เซรั่มตัวแรกของเค้า Regenerating Serum .จำราคาไม่ได้ หมื่นต้นๆ นะคะ

มี miracle broth และทองคำด้วยนะ เวลาใช้อย่าลืมเขย่าขวด ถ้าลืม ทาแล้วก็ส่ายหน้าไปมาละกัน ^_^

อารมณ์คล้ายๆ ครีม แต่เนื้อเบากว่ามาก เซรั่มตัวนี้เนื้อมันเป็นสีเขียวๆ ทาลงไปก็ซึมหายได้ดี และก็รู้สึกผิวหยุ่นๆ แน่นๆ ไม่แสบ ไม่คัน ไม่ขึ้นจุด ใช้แล้วชุ่มชื้น ทำให้ไม่เปลืองครีม (แต่เปลืองครีมดีกว่านะ เพราะครีมมันถูกกว่า 555) เค้าว่าช่วยชะลอการเกิดริ้วรอย และช่วยให้ริ้วรอยตื้นขึ้น กระชับรูขุมขน(นิดหน่อย ถ้ามากต้องตัว radiant serum) และให้ความชุ่มชื้นสูง

ส่วนตัวนะ ถ้าไม่ซีเรียสเรื่องต้องใช้ให้ครบสูตร และไม่ได้มีปัญหาริ้วรอยมากกกกกกกกกก มันก็อาจจะไม่จำเป็นซักเท่าไหร่นะ ใช้แล้วก็ OK แต่ไม่ใช้ก็ไม่ค่อยต่างเท่าไหร่อ่ะค่ะ ... แล้วแต่  แล้วแต่

 

สุดท้าย ตัวใต้ตาeye concentrate :7900

 

มาพร้อมกับ aplicator หัวเงินเย็นๆ เวลาใช้ก็จุ่มหัวเงินลงไป แต้มๆ ใต้ตา แล้วก็วนๆเบาๆ เป็นวงกลมจากหาง ... ไป ... หัว  ข้างละประมาณ 10 ครั้ง แล้วตบทับด้วยครีมลาแมร์อีกที

ตัวนี้ให้ชนะเลิศ 10 เต็ม 10

เดิมใช้ Eye Balm Intense นะจ๊ะ แต่หลังคลอด เลี้ยงลูก นอนดึก ใต้ตามันแพนด้า ก็เลยเปลี่ยนมาเป็นตัวนี้ ดีขึ้นมากกกกกก แม้มันจะไม่ได้ชุ่มชื้นเท่าตัว balm แต่ว่ามันช่วยเรื่องแพนด้าได้ดี แต่ให้ลากเบาๆ ละกันนะ ลากแรงเดี๋ยวมันเรียกตีนกามาล่ะก็ เสร็จแน่

(แอบบบอก... หลังคลอดมาได้ลองใช้ Sisley eye and lip contour , chanel lift , และก็ chanel sublimage  : ยอมยกคะแนนที่หนึ่่งให้กับตัวนี้เลยนะจ๊ะ ... ลองดูนะ ....เอ่อ ... คราวหน้าเอารีวิวซีรีส์ ใต้ตาดีกว่าเนอะ )

โอยเหนื่อยแระ เดี๋ยวไปพักก่อน แล้วจะกลับมารีวิว Chanel อีกรอบ ติดตามด้วยน๊ะจ๊ะ

 

สรุปซีรีส์ ลาแมร์ที่ใช้อย่างนี้นะคะ

0. ล้างเครื่องสำอางค์ Bobbi Brown Cleansing Oil ... ตัวใหม่ ใช้ก็ OK นุ่มดีค่ะ (ใส่สถานะ 0 เพราะไม่ค่อยได้แต่งหน้าซักเท่าไหร่)

1. ล้างหน้า  La Mer Cleansing Gel หรือไม่ตอนนี้เพิ่งหมดไป ก็หยิบๆ เอาแถวๆ หน้ากระจก

2. La Mer Tonic หยดใส่สำลี ตบๆ ปาดๆ เบาๆ

3. La Mer Eye Concentrate ใช้ Applicator หัวเงินจุ่ม แล้วก็ แต้มๆ รอบดวงตา แล้ววนๆๆๆๆ

4. The Concentrate ใช้เฉพาะเวลาตากแดดจัด ๆ หน้าแพ้แรงๆ หรือก่อนเลเซอร์

5. The Regeneratng Serum ใช้บ้างไม่ใช้บ้าง ตามความสะดวก

6. ตอนเช้า  Gel De la Mer แล้วตบๆ  creme de la mer ตรงแก้ม ใต้ตา และก็คอ

    ตอนเย็น La Mer Soft Cream แล้วตบๆ  creme de la mer ตรงแก้ม ใต้ตา และก็คอ

7. กันแดด ใช้ chanel UV Essential ค่า เพราะใช้ลาแมร์ SPF 30 แล้วสิวระเบิดกระจุย

โปรดติดตามตอนต่อไป จะเป็น Chanel Sublimage ล่ะค่ะ

แล้วก็จะเปรียบเทียบกัน เนื้อต่อเนื้อนะ

ขอบคุณค่ะ ที่สละเวลาอ่าน

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

Discussion (9)

ขอเขียนวิธีการใช้อีกทีนะคะ มันสลับกันนิดส์หน่อย แหะ แหะ

1. cleansing gel

2. Tonic

3. Regenerating serum/radiant serum

4. concentrate

5. eye

6. creme de la mer

แต่ละอย่าง มันชั่ง "เลอค่า" มาก !!!!!

สุดยอด !

Chanel ตัวนี้ใช้ดีมากค่ะเคยได้ของมาทดลอง แต่เนื่องจากิายุไม่ถึง พนักงานเลยให้ใช้ตัวhydraคิดมาก ยิ่งครีมทาใต้ตาดีมากค่ั

แง แง ... พิมพ์ซะเหนื่อย part ตรงเปรียบเทียบ ลาแมร์ 3 ตัวมันหายไปจ้อย

สรุปแบบนี้นะคะ

1. ครีมลาแมร์ : เนื้อครีมหนุบหนับ คุณต้องวอร์มโดยเอามันถูๆกันที่ปลายนิ้ว จนมันเปลี่ยนเป็นเนื้อเหมือนเจลใสๆ ประมาณว่ากว่าจะได้ที่ก็ซึมเข้ามือไปเยอะแระ แล้วก็ตบๆ แปะๆ เบาๆ ทั่วๆหน้า จนกว่ามันจะซึม นิ้วเราแห้งแหละค่ะ นั่นแหละแล้วมันจะรู้สึกเหมือนมีอะไรเคลือบอยู่บนผิว วาวๆ โกลว์ๆ เล็กน้อยเป็นพอ ทีนี้ ถ้าเราเกิดใช้เยอะไป... ก็มันแผลบๆ สิคะ ให้เอานิ้วเรานี่แหละ แปะๆ ตรงทึ่รู้สึกว่ามัน เก็บเอาความมันออกมาแปะๆ ตามคอ ตามบ่า ไหล่ ก็จะช่วยให้รู้สึกดีขึ้นนะคะ โดยส่วนตัวแม้มีผิวผสมค่อนข้างมัน ถ้าวอร์มครีมดีๆ ก็สามารถใช้ได้ไม่เกิดสิวอุดตัน หรือระเบิดเห่อแต่อย่างใด (เมื่อก่อนวอร์มไม่ถึง ครีมยังเป็นสีขาวๆ อยู่ก็แปะๆ ลงไป มันก็ลอยมันอยู่บนผิว อย่างนั้น สิวระเบิดอีกตังหาก)

 

2. ซอฟต์ ครีม  : ตัวใหม่ล่าสุด พระเจ้าจอร์จมันยอดมาก เพราะให้ความรู้สึกเหมือนครีม แต่ทว่า คุณไม่ต้องเสียเวลาวอร์มครีม และเสียเวลาแปะๆ จนเมื่อย ... แต่ก็แนะนำให้วอร์มอยู่ดี ..เพียงแต่ใช้การแปะๆ กันที่ปลายนิ้ว ไม่ต้องถูจนมันกลายเป็นน้ำมันใสๆ เหมือนครีม ... ชุ่มชื้นและโกลว์ ดีมากค่ะ

 

3. เจลลาแมร์ : ตัวนี้ให้อารมณ์ matt มากกว่า จนบางทีถ้าอากาศแห้งหรือหนาวมากๆ ตัวเดียวอาจเอาไม่อยู่ได้ แต่ถ้าสำหรับอากาศร้อนบ้านเรา โอเคมาก... เนื้อบางใส อย่างที่เห็น แต่คุณภาพ โอเค แต่ผิวไม่โกลว์ ไม่ฉ่ำ เหมือน 2 ตัวบน ให้ความรู้สึก ผิว matt และสบายผิวมาก  ...วอร์มนิดนึง แปะๆ กันระหว่างนิ้ว และก็ตบๆ แปะๆ ไปบนผิว ซึมหายวับเลยค่ะ ... แต่ใช้แล้วตัวนี้จะเปลืองครีมมากที่สุด เพราะมันซึมดีมาก และก็สบายผิวมากๆ

ทั้ง 3 ตัวนี้ แปะๆ ไปที่ใต้ตาได้เลย ช่วยให้ความชุ่มชื้นดีมากกกกก ค่ะ แนะนำ