(Jeban's talk ) ผิวสวยด้วย วิตามินซี จากผลไม้กัน

hy "Vitamin C"?

หนึ่งในวิตามินยอดนิยมตลอดกาลคงจะหนีไม่พ้นวิตามินซี เราสามารถหาผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของวิตามิซีได้ไม่ยาก แต่การจะหาผลิตภัณฑ์ที่มีวิตามินซีในรูปแบบปละปริมาณเข้มข้นจริง ๆ นั้นเหมือนการงมเข็มในโอ่งทั่วราชบุรี (ก็ยังดีที่หาง่ายกว่าหาในทะเล) เหตุผลที่เป็นเช่นนั้นก็คือวิตามินซีมีอยู่หลายรูปแบบ ซึงมีคุณสมบัติและประสิทธิภาพมากน้อยไม่เท่ากัน ยังมีปัจจัยเรื่องความเข้มข้น ค่า pH และความเหมาะสมของบรรจุภัณฑ์เข้ามาเกี่ยวข้องอีกด้วย

การที่จะได้รับประโยชน์สูงสุดจากวิตามินซีนั้นไม่ใช่ว่ามีเงินแล้วเดินสุ่มเข้าไปซื้อที่เคาเตอร์ตามคำโฆษณาก็จะได้ของดีมีประสิทธิภาพมาใช้ แต่จำเป็นต้องรู้ข้อมูลพื้นฐานกันสักหน่อยว่า Vitamin C ตัวไหนที่เราควรมองหา และคาดหวังประสิทธิภาพอะไรได้บ้าง


ประเภทของ Vitamin C


Vitamin C ในรูปแบบดั้งเดิมก็คือ Ascorbic Acid/ L- Ascorbic Acid (AA) ซึ่งไม่เสถียรและเสื่อม ( Oxidize) ได้ง่ายเมื่อโดนแสง ออกซิเจน รวมถึง “น้ำ” การทำผลิตภัณฑ์วิตามินซีจึงมีข้อจำกัดมากมายทั้งต้องกำหนดสูตรให้ดี บรรจุภัณฑ์เหมาะสม วิตามินซีรุปแบบ Ascorbic ทำงานด้วยค่า pH เป็นกรด และต้องการความเข้มข้นสูง (5-20%) ซึ่งอาจเกิดการระคายเคืองได้ในบางคน ซึ่งผู้ที่ไม่เข้าใจอาจมองว่าอาการแสบยิบๆ ร้อนผ่าน เป็นอาหาร "แพ้" ได้

เนื่องจากวิตามินซีรูปแบบดั้งเดิมมีข้อจำกัดมากมาย ไม่ว่าจะเรื่องค่า pH ที่อาจก่อการระคายเคืองผิวได้ ความเสถียรต่ำเกิดการ Oxidize ได้ง่ายจึงทำให้อายุการเก็บรักษาของผลิตภัณฑ์น้อยลง (ต้นทุนของผลิตภัณฑ์จึงสูงขึ้น) จึงได้มีการพัฒนาวิตามินซีรูปแบบใหม่ ๆ ขึ้นมา

ข้อดีหลัก ๆ ของอนุพันธ์วิตามินซี ก็คือเรื่องความเสถียรและคงทนต่อแสงและออกซิเจนมากกว่า Ascorbic Acid (แต่ก็ยังคงต้องใช้บรรจุภัณฑ์ที่เหมาะสมอย่างหลอดบีบทึบแสงหรือขวดปั้มทึบแสงเพื่อลดโอกาสที่วิตามินจะสัมผัสออกซิเจนให้มากที่สุดอยู่ดี) ข้อดีอีกข้อคือไม่จำเป็นต้องใช้ความเป็นกรดในการทำงาน จึงออ่นโยนกว่า รูปแบบของ อนุพันธ์วิตามินซี ที่ปูเป้ให้ความเชื่อใจเพราะมีงานวิจัยรองรับแน่นหนาได้แก่ Magnesium Ascorbyl Phosphate (MAP) และ Tetrahexyldecyl Ascorbate/ Ascorbyl Tetraisopalmitate (VC-IP)

 

--------------------------------------------------------------------------------------------------------

ผิวสวยด้วยผลไม้ ที่มีวิตามินซี

 

1. ส้ม
ส้มซึ่งมีหลายชนิดและเลือกรับประทานได้ ผลที่มีรสเปรี้ยวหรือหวาน มักจะมีแคลเซียม โปแทสเซียม ไวตามินเอ และไวตามินซี มากเป็นพิเศษซึ่งทำให้ส้มนั้น อุดมไปด้วยสารต่อต้านอนุมูลอิสระซึ่งจะช่วยบำรุงผิวพรรณให้สดใสดูอ่อนไวตลอดเวลา

 

 

 

2 มะนาว
นับเป็นผลไม้ที่มีคุณค่า นิยมใช้เป็นเครื่องปรุงรส นอกจากนี้ยังถือว่ามีคุณค่าทางโภชนาการและทางการแพทย์ด้วย ซึ่งมะนาวนั้นอุดมไปด้วยวิตามินซี ซึ่งมีประโยชน์ต่อผิว และยังช่วยทำความสะอาดตับซึ่งทำหน้าที่กำจัดของเสียออกจากร่างกายได้อีกด้วย

 

 

 3 ฝรั่ง
ฝรั่ง ขีดมีวิตามินซีสูงถึง180 มิลลิกรัม วิตามินซีมีบทบาทในการสร้างคอลลาเจนที่ทำให้ผิวพรรณบนใบหน้าของคุณเต่งตึงไม่แก่ก่อนวัยซึ่งคอยบำรุงเนื้อเยื่อเกี่ยวพันหรือคอลลาเจนตัวเดียวกับที่ทำให้หน้าสาวๆอย่างเราเต่งตึงนี่แหละค่ะ นอกจากนี้น้ำต้มผลฝรั่งตากแห้ง มีฤทธิ์แก้คออักเสบ เสียงแห้งด้วยค่ะ

 

 

 

 

 

 

4 กล้วย
กล้วยทุกชนิดนั้นดีต่อสุขภาพแต่แนะนำให้ทานกล้วยไข่ค่ะ ซึ่งกล้วยไข่นั้นมีสารต้านอนุมูลอิสระหรือเบต้าแคโรทีนมากกว่ากล้วยอื่นๆเป็นพิเศษค่ะ ซึ่งช่วยทำให้ผิวนั้นไม่เหี่ยวย่นไปตามวัยค่ะ 

 

 

 

 

5 กีวี
กีวีซึ่งมีวิตามินอีมากสุดจากการวิจัยค่ะ และประกอบด้วยวิตามินซีที่เป็นประโยชน์ต่อการสร้างคอลลาเจนอีกด้วยค่ะ

 

 

 

 

 

6 แครอต
แครอตนั้นอุดมไปด้วยสารเบต้าแคโรทีนในปริมาณสูงที่สุดในบรรดาผักสีส้มด้วยกันค่ะ และเมื่อเข้าสู่ร่างกายจะเปลี่ยนสภาพเป็นวิตามินเอ ซึ่งมีประโยชน์ต่อสายตา ทำให้มองเห็นในที่มืดและรักษาโรคตาฟางได้อีกดวยค่ะ และนอกจากนี้ยังมีสารต้านอนุมูลอิสระซึ่งช่วยกำจัดอนุมูลอิสระที่เกิดจากควันบุหรี่และแสงแดดที่แรงจัดได้ค่ะ

 

 

 

 

 

 

 

7 อะโวคาโด
อะโวคาโด้นั้นเมื่อทานเข้าไปจะทำให้ใบหน้าดูอ่อนกว่าวัยค่ะ เพราะวิตามินบีในอะโวคาโด จะทำให้ร่างกายเกิดความต้านทานในรูปแบบต่างๆ รวมถึงการปกป้องผิวหน้าจากมลพิษได้ด้วยค่ะ และการกินอะโวคาโดวันละผลจะช่วยทำให้ร่างกายได้รับวิตามินอีที่ร่างกายต้องการเพียงพอในแต่ละวันค่ะ

 

 

 

 

 8 มะเขือเทศ
มะเขือเทศมีเบต้าแคโรทีนมากค่ะและสามารถรักษาสิว สมานผิวหน้าให้เต่งตึง โดยใช้น้ำมะเขือเทศพอกหน้า หรือนำมะเขือเทศสุกฝานบาง ๆ แปะบนใบหน้า จะช่วยให้ผิวหน้าอ่อนนุ่มได้ค่ัะ มะเขือเทศนั้นมีสรรพคุณทางยาค่อนข้างสูงค่ะ เพราะมะเขือเทศมีวิตามินพี ซึ่งจะช่วยป้องกันการแข็งตัวของหลอดเลือด นอกจากนี้มะเขือเทศยังมีฤทธิ์ขับปัสสาวะจึงสามารถแก้อาการความดัน และมะเขือเทศมีวิตามินเอจึงสามารถรักษาโรคตาได้ค่ะ เท่านั้นยังไม่พอค่ะ ยังมีอีกหนึ่งอย่างคือมีวิตามินซีมากทำให้สามารถป้องกันและรักษาโรคลักปิดลักเปิดและช่วยการช่วยระบบการย่อยและช่วยการขับถ่ายอุจจาระอีกด้วย

 

 

 9 ทุเรียน

คงแปลกใจใช่ไหมหล่ะคะทำไมถึงมีทุเรียนติดมาด้วย ซึ่งทุเรียนนั้นถึงแม้อาจจะอ้วนแต่ว่าเนื้อทุเรียนนั้นมีความร้อน ทำให้แก้โรคผิวหนังหรือทำให้ฝี-หนอง แห้งและเนื้อทุเรียนมีฤทธิ์ขับพยาธิอีกด้วยค่ะ ส่วนเปลือกหนามทุเรียนนั้นนำมาสับแล้วแช่ในน้ำปูนใสสามารถใช้ชะล้างแผลที่เกิดจากน้ำเหลืองเสีย แผลพุพอง หรือนำมาเผาทำถ่าน บดจนเป็นผง คลุกในน้ำมันมะพร้าว หรือน้ำมันงา ลดความบวมพองจากคางทูมได้ค่ะ และยังสามารถเผาเอาควันไล่ยุงและแมลงได้อีกด้วยค่ะ ส่วนใบของทุเรียนนั้นสามารถใช้ต้มน้ำอาบแก้ไข้ แก้ดีซ่านและเป็นส่วนผสมในยาขับพยาธิด้วยค่ะ สุดท้ายรากจากต้นทุเรียนนำไปตัดเป็นข้อ ๆ ต้มให้เดือด ดื่มบรรเทาอาการไข้และรักษาอาการท้องร่วงได้ด้วยค่ะ สารพัดประโยชน์จริงเลยค่ะ(แต่บริโภคแต่พอดีนะคะ)
 

 

 

 

 

 

 

 

**********************************************************************

ประโยชน์ของวิตามินซีกับผิวหน้า      

   วิตามินซีเป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่มีประสิทธิภาพสูง และมีประโยชน์กับผิวหนังคือวิตามินซีเป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่ละลายในน้ำ ได้จะช่วยลดริ้วรอยบนใบหน้า และทำให้ผิวเต่งตึงช่วยป้องกันอันตรายจากรังสียูวีของแสงแดด และช่วยให้เซลล์ผิวหนังได้ปรับสภาพคอลลาเจนซึ่งเป็นใยโปรตีนในหนังแท้ ทำให้ผิวดูสวยงาม ออริเฟลมมีผลิตภัณฑ์แนะนำคือ ออฟติมอล เรเดี้ยนซ์เอเนอร์จี้ แคปซูล ที่บรรจุวิตามินซีเข้มข้น ซึมซาบสู่ผิวได้อย่างรวดเร็ว ช่วยให้ผิวกระจ่างใส
วิตามินซีจึงเป็นส่วนผสมหนึ่งที่นิยมมาใส่ในเครื่องสำอาง เพื่อเป็นสารต้านอนุมูลอิสระ
ที่ช่วยทำให้ผิวดูขาวใสขึ้นและยังช่วยสังเคราะห์คอลลาเจนให้กับผิวพรรณ
นอกจากแคปซูลเข้มข้นแล้ว ยังมีครีมบำรุงเพื่อเสริมสร้างให้ผิวกระจ่างใสยิ่งขึ้นด้วยออฟติมอล เรเดี้ยนซ์ เอเนอร์จี้ ฟลูอิด เป็นครีมบำรุงเนื้อบางเบา ซึมง่าย หรือ ออฟติมอลเรเดี้ยนซ์ เอเนอร์จี้ ครีม ที่มีเนื้อครีมที่เข้มข้นขึ้นเหมาะสำหรับผิวธรรมดาถึงผิวแห้ง
นี่ก็เป็นประโยชน์ของวิตามินซีที่ดีกับร่างกายและผิว ที่ช่วยให้ผิวเปล่งปลั่ง และขาวใสได้โดย


1. ช่วยยับยั้งการลำเลียงเม็ดสีขึ้นไปบนผิวหนัง ผิวจะกระจ่างใสขึ้น
2. ช่วยกระตุ้นการสร้างเส้นใยคอลลาเจนจึงช่วยให้ริ้วรอยตื้นขึ้นได้ เมื่อใช้อย่างต่อเนื่อง
3. วิตามินซี ช่วยปกป้องผิวจากกันรังสียูวีได้

 

 


อีกทางเลือกที่จะช่วยให้คุณมีผิวเนียนใสทั้งตัว ก็คือการรับประทานผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร ซึ่งถือว่าสำคัญมาก สำหรับผู้ที่อาจได้รับวิตามินซีไม่เพียงพอ โดยเฉพาะอย่างยิ่งคนที่ไม่ชอบรับประทานผักและผลไม้ ซึ่งเราจะสังเกตได้เลยว่าคนที่ไม่ชอบรับประทานผักจะทำไม่ค่อยเนียนใส เปล่งปลั่งเท่าที่ควร
เมื่อใช้วิธีการรับประทานวิตามินซี ควบคู่กับการใช้ผลิตภัณฑ์บำรุงผิวก็จะช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนให้แก่ผิว โดยวิตามินซีจะช่วยซ่อมแซมเนื้อเยื่อผิวที่เสื่อมโทรมให้ค่อยๆ สร้างเนื้อเยื่อใหม่ขึ้นมาแทนที่ค่ะ
แต่ทางที่ดี การรับประทานผักและผลไม้เป็นประจำทุกวันเป็นสิ่งที่ดีค่ะ เพราะนอกจากจะช่วยเสริมสร้างร่างกายให้แข็งแรงแล้ว ยังช่วยในเรื่องของระบบขับถ่ายด้วยค่ะ และที่สำคัญควรหาเวลาออกกำลังกายอย่างน้อยวันละ 15 นาที หรือ 2-3 ครั้งต่อสัปดาห์นะคะ
เพียงเท่านี้ ผิวหน้าคุณก็จะสวยใส เปล่งปลั่งและ สุขภาพแข็งแรงต้านโรคภัย ต่างๆ ได้อย่างสบายค่ะ

 

 

 

 

 

Discussion (8)

ราคาเท่ารัยค่ะ
เซตวิตามินซีนี้ขายหรอ
ดื่มgiffarine abalone collagen เหมือนเราเลยคะ เราไปทะเลมาคะกลับมาดำมากเครียดจริงๆ ตอนนี้โบกครีม ดื่มกิฟฟารีนควบคู่ไปดู คือมันค่อยๆใสขึ้นนะแต่ไม่ได้ขาวทันที เครียดมากคะตอนนี้ดำต้องบำรุงทุกวิถีทาง

เราก็จะซัดเรียบทุกอย่างเลยจ้า

ขอบคุณสำหรับเคล็ดลับคร่า ตอนี้ลอง Vite Secret ของ Verena เผื่อได้ขาวอมชมพูบ้างไรบ้าง