ขอระบายในฐานะคนขายของ =''=

กระทู้ทีไรมีแต่เรื่องระบายอารมณ์ ต้องขอโทษด้วยนะคะ TT"

 

เรื่องเพิ่งเกิดม่ะกี้สดๆร้อนๆ แถมแสบๆในใจด้วยค่ะ

คือลูกค้า(คู่สามีภรรยา)จะซื้อหุ่นเหล็กน่ะค่ะ เป็นหุ่นของญี่ปุ่น ซึ่งพอจะเชคของเนี่ยะ ต้องสวมถุงมือผ้าชามัวร์(แพงมว้าก)

ไม่งั้นจะเป็นขมแมวติด เนื้อโลหะจะไม่วาว

เรื่องของเรื่องคือ พฤติกรรมเค้ามากกว่าน่ะค่ะ เราจะเป็นคนคิดเงินเพราะรอบคอบสุด 

ทีนี้ตอนเรายืนแคชเชียร์ พวกเค้าก็เชคของไป ซึ่งเราโทรศัพท์อยู่ พอวางสายเสร็จปุ๊ป

ลูกค้าอินเดียถามว่ามาดามตุสโซ่อยู่ไหน เราก็ตอบไปค่ะ คุยๆกันอยู่

ลูกค้าที่เป็นสามีเค้่าแทรกว่า "ขอผ้าชามัวร์หน่อยเด่ะ" เราเลยยกมือน้อยๆบอก เดี๋ยวซักครู่นะคะ

แต่ลูกที่เป็นภรรยารอไม่ได้หรืออย่างไร ยกแขนมาท้าวเคาน์เตอร์ แล้วจ้องเราอ่ะค่ะ

แล้วพูดแบบเหมือนเราเป็นคนใช้เค้า " เฮ่ย... น้อง! ขอผ้าชามัวร์หน่อยไม่ได้เหรอ"

เราก็หันไปบอกยิ้มๆว่าซักครู่นะคะเหมือนเดิม แต่ในใจนี่ก่นด่าสะบาเรเห้มาก

พอตอบลูกค้าอินเดียเสร็จ เราก็หันไปหยิบผ้า พอตอนหันมาจะแกะถุงเอาผ้าออกมาใ้ห้ เห็นคนสามีทำถอนหายใจ เสียงดังแบบตั้งใจให้ได้ยิน ส่วนคนภรรยาทำเบะปาก แขนข้างนึงท้าวเคาน์เตอร์ อีกข้างท้าวเอว แล้วสั่นตัว พอนึกออกใช่มั้ยคะ เวลาไม่พอใจใครแล้วทำประชดให้เห็นชัดๆ

เราเลยยืนผ้าให้พี่ชาย แล้วเดินหนีออกมาเลยค่ะ(หนีไปนั่งในลืบ) ซึ่งระหว่างเดินไปได้ยินคุณพ่อถามว่าโอเคนะครับ

คู่นั้นเค้าเสียงอ่อนเสียงหวานว่า ได้เลยครับ ดีเลย ของนิ้งมาก พอพี่ชายแนะนำวิธีเก็บ ดูตั้งใจมาก ดูเจียมตัว

 

เรารู้สึกปริ๊ดหนักมาก แบบโกรธมากๆ ไม่รู้จะโกรธยังไงแล้ว 

 

ที่มาเล่าให้ฟังเนี่ยะ อยากให้ใครก็ได้ที่กำลังจะเป็นลูกค้าของแบรนด์ หรือร้านใดก็ตาม ช่วยคำนึงจิตใจของพนักงานในร้านค้าด้วยนะคะ ถ้าคุณพูดดี พนักงานก็จะมีกำลังใจในการบริิการ แล้วจะเทคแคร์ให้สุดใจ อย่าทำเหมือนพวกพนักงานมีฐานะต่ำกว่า เพราะเราเคยเจอพนักงานคนนึงค่ะ เป็นลูกคนรวย(แอบดูนามสกุล)แต่ไม่ได้ถึงขนาดมีคฤหาสน์กว้างร้อยกิโล แต่ก็มีฐานะจนเรียกมีเงินไม่ขาดมือ เราถามเค้าว่าทำไมมาทำงาน อยู่เฉยๆก็มีตังใช้ไม่ใช่หรอ เค้าบอกว่าอยากเรียนรู้ อยากรู้ว่าพนักงานต้องใช้ความอดทนเท่าไหร่ในการรับมือลูกค้า ทั้งๆทีอยู่บ้านเค้ามีคนรองมือรองเท้าตลอด คนเราทุกคนมีฐานะเท่าเทียมกัน ในความหมายที่เราว่าคือศักดื์ศรีและคุณค่า ไม่ใช่เงินทอง 

หลายคนอาจจะแย้งว่าไม่มี service mind แล้วจะทำทำไม ซึ่งมันเป็นกับบางคนค่ะ หากคุณปฏบัติตัวไม่ดีก่อน ใครที่ไหนจะอยากดีตอบ ถูกมั้ยคะ

 

ยาวไปหน่อย แต่อยากให้อ่าน อยากให้ใจเขาใจเรา ถนอมน้ำใจกัน

แต่หากสาวๆเจอคนประเภทนี้แล้วแก้ไม่หาย มันคงเป็นที่สัน....

ถ้าเราไม่ได้อยู่ฐานะผู้ค้า คงใส่พ่นเ็นกะปอมซิลล่าใส่ให้หน้าไหม้ แต่ก็ได้แค่ติดค่ะ ฮ่ะๆๆ (หัวเราะทั้งน้ำตา)

 

ปล.ได้ระบายแล้วดีขึ้นเยอะเลย 

Discussion (10)

ตอนนี้ไม่ได้คิดอะไรแ้ล้วหรอกค่ะ แต่แค่โมโหอยากหาที่ระบาย จะกริ๊ดก็ไม่ได้ อยู่ในห้าง 

เราจะด่าก็ได้นะคะ พอ่กับพี่ชายก็ไม่ว่าอะไร แต่เราเลือกไม่ทำเอง ไม่อยากให้ใครมามองว่าวีนแตก

 

จบกันแล้ว ก็จบกันไปค่ะ มันโมโหแค่ช่วงสั้นๆ ผ่านไปไม่กี่ชม.ก็ลืม

เพราะเรายังต้องเจอลูกค้าอีกหลายประเภท ถ้ายังต้องทำงานอยู่

 

ก็เข้าใจว่าต้องทำจิตใจให้เข้มแข็ง แต่เจอมากๆมันทำให้เสียสุขภาพจิตนะคะ

ไงสาวๆที่ทำงานบริการต้องพักผ่อนบ้างนะคะ สุขภาพจิตจะได้สดใส เย่ๆ

ตอนมีร้านใหม่ๆ ก็ปรี๊ดแตก ด่ากลับไม่ยั้งเหมือนกันคะ  แต่พอเริ่มโตขึ้น เจอลูกค้าเลวๆ เยอะ เลยปลงคะ อาการปลง คือ พอเค้าก้าวออกไปแล้ว ก็ไม่คิดต่อแล้วคะ แต่ถ้าเป็นสมัยเพิ่งเปิดตอนนั้น 26 ก็จะเก็บมานอนคิดมาก นอนไม่หลับทั้งคืนก็มี ถามตัวเองว่า เราผิดหรอๆๆๆ แล้วสุดท้าย ก็ไม่เกิดอะไรขึ้นมาค่ะ มีแต่จะทำให้หน้าแก่ก่อนวัย  แต่มันก็เป็นประสบการณ์สอน ให้เราพัฒนาตัวเองนะคะ 

ดังนั้น ให้คิดเหมือน ความเห็น 8 คะ ไม่แสดงสันดานต่ำกับใครก็พอ เริ่มจากเราดีที่สุดคะ อย่าไปหวังอะไรกับคนอื่นเลย  

 

เสริมนิด  พวกแขกส่วนใหญ่ เอาแต่ใจ เอาเปรียบ เห็นแก่ตัวสุดๆ ไม่รู้ทำไมนะคะ แต่ที่เจอมาก็จริงๆ

เราเลือกลูกค้าหรือคนที่จะเจอกับเราไม่ได้นะคะ สำคัญที่ใจเรา ต้องไม่รับความหยาบคายนั้นเข้ามา เค้าทำอะไรคุณไม่ได้หรอก  ใครแสดงสันดานต่ำ ความต่ำมันก็อยู่ที่ตัวเค้าเอง ไม่ได้มาเปื้อนตัวคุณนี่นา ถึงเราไม่เคยเป็นคนขาย แต่เราคิดว่า ไม่ว่าจะเจอคนแบบไหน เราวางตัวให้ดี สำคัญกว่า ทำตัวให้มีจิตใจเข้มแข็ง รูปแบบไหน เราก็รับได้ แล้วก็จบไป สบายใจกว่านะ

ถึงว่าเค้าถึงอยู่ด้วยกันได้

พอเห็นคุณเป็นพนักงานเลยมาทำกิริยาต่ำแบบนี้กับคุณงั้นเหรอ

สองคนนี้ถ้าเป็นลูกค้าวันนะ วันด่ากลับทันที

แต่คุณไม่โต้ตอบเขากลับนะดีแล้วล่ะค่ะ