(Jeban's talk ) Vitamin C


 

เรามารู้จัก "วิตามินซี" กันก่อน

       เรื่องพื้นๆที่เรารู้กันคือวิตามินซี สามารถต้านไข้หวัดได้ มันคือเรื่องจริงคะ และก็มีสิ่งยืนยันได้เมื่อมีผลการวิจัยปี 1970  โดย ดร. ไลนัส พอลลิ่ง ได้รับรางวัลโนเบล ถึง 2 ครั้ง ได้เขียนหนังสือเล่มหนึ่งชื่อ "วิตามินซี กับโรคหวัด" เขากล่าวว่า หากเราได้รับวิตามินซีวันละ 1,000 มิลลิกรัม จะสามารถป้องกันหวัด และถ้าเป็นหวัดแล้วจะช่วยให้หายไวขึ้น โดยจะมีวันป่วยน้อยกว่าคนปกติถึง 60% แต่มีมากกว่านั้นคะ

 

ประโยชน์ของ วิตามินซี

  • เป็นตัวสร้าง คอลาเจน ซึ่งเป็นเส้นใยทำหน้าที่เชื่อมเนื้อเยื้อต่างๆ ไว้ด้วยกัน ทั้งเป็นตัวสร้างกระดูก ฝัน เหงือก และเส้นเลือด
  • ช่วยให้แผลสดและแผลไฟไหม้หายเร็วขึ้น
  • ช่วยให้การดูซึมธาตุเหล็กได้ดีขึ้น
  • ช่วยป้องกันการเปลี่ยนแปลงของเซลล์(Mutation)
  • ช่วยไม่ให้เกิดโรคนอนหลับตาย ในกรณีเด็กอ่อน
  • ช่วยแก้โรคเลือดออกตามไรฟัน
  • ช่วยลดคอเลสเตอรอลในเลือด
  • ช่วยคลายเครียด
  • การฉีดวิตามินในปริมาณสูง สามารถยับยั้ง มะเร็งได้ มีปฏิกิริยา ทำให้เนื้อร้ายซะงักและลดน้ำหนักได้

 

จะพบวิตตามินซีได้ที่ไหน

        จะพบได้มากใน ตระกูล กะหล่ำ กะหล่ำดอก บล็อกโคลี่ กะหล่ำปลี ผักโขน พริกหวาน

ผลไม้ สัปปะรด กล้วย สตอเบอร์รี่ มะเขือเทศ มะละกอ อะเซโรลาเซอรี่ ในผลไม้ที่มีมากที่สุดก็ ฝรั่ง 

วิตามินซี เสริม

การจะเลือกทานให้ได้ปริมานพอเหมาะควรอยู่ที่ 250-500 มล. วันละ 2 ครั้ง การจะเลือกทาน ผักผลไม้ เพื่อให้พอคงในทุกวันเป็นไปได้อยากอยู่ บวกกับบางทีร่างกายอาจมีช่วงที่ต้องการมากกว่าปกติยกตัวอย่างที่พบบ่อยคือพักผ่อนน้อย สภาพอากาศ การทำงาน จึงมีผู้ผลิตได้นำมาให้ผู้บริโภคอย่างเราได้รับประทาน พบและทานง่ายคือในรู้แบบแคปซูล หรือแบบละลายน้ำ


 

โทษของวิตามินซี

       การทานวิตามินซีที่มีส่วนช่วยในการป้องกันเซลล์และเสริมสร้างภูมิต้านทานที่มากเกินไปกับความต้องการของร่างกาย อาจส่งผลให้เป็นนิ้วปัสสาวะได้ ทั้งยังให้หลอกเลือดหัวใจตีบแข็ง และยังทำให้ร่างกายขาดธาตุทองแดงและน้ำย่อยที่สำคัญสำหรับร่างกาย

     

       อย่างไรก็ตามร่างกายอย่างเราก็ได้สร้างระบบที่ช่วยป้องกันไม่ให้ร่างกายได้รับอันตรายจากวิตตามินซีโดยอัตโนมัติ ด้วยการขับออกทางปัสสะวะคะ จึงอยากให้วางใจได้และอยากแนะนำว่าทุกอย่างยังไงก็ควรได้รับอย่างพอดี ปริมาณที่พอเหมาะพอควร ไม่น้อยและไม่ฝืนเยอะจะเกินไปนะคะ

 

 

 

Discussion (0)