แว๊กซ์...เพื่อผิวเนียน..สวย..

วิธีการกำจัดขนแบบชั่วคราว
การกำจัดขนด้วยมีดโกนธรรมดา และมีดโกนไฟฟ้า
การโกนเป็นวิธีการกำจัดขนที่ง่าย เร็ว และใช้งบน้อย แถมยังไม่สร้างความเจ็บปวดให้ ยกเว้นบางครั้งที่อาจเกิดรอยขีดข่วนหรือโดนคมมีดบาดเล็กน้อย ในทางกลับกันการโกนขนจะทำให้ขนขึ้นเร็วกว่าวิธีอื่น ดังนั้นถ้าคิดจะใช้วิธีนี้ก็ต้องขยันทำบ่อย ๆ โดยเฉพาะขนบริเวณใต้รักแร้ที่จะงอกเร็วกว่าขนบริเวณขาหรือแขนถึง 2 เท่า แต่ทั้งนี้ก็ขึ้นอยู่กับว่าใครจะมีความหนาแน่นของขนมากกว่ากัน หากใช้มีดโกนไฟฟ้า ต้องให้ผิวหนังบริเวณแห้งก่อน (ต่างจากการโกนด้วยมีดโกนธรรมดาที่ต้องให้ผิวเปียก) เพราะถ้าผิวหนังเปียกอาจทำให้ผิวไหม้หรือถูกไฟช๊อตได้ และควรใช้ระบบ 2 ใบมีด ที่สามารถเปลี่ยนใบมีดได้เพื่อสุขอนามัยที่ดีค่ะ



ชูการ์ริ่งแวกซ์
เป็นการกำจัดขนแบบโบราณ แต่กำลังเป็นที่นิยมในปัจจุบัน เพราะไม่ต้องทนร้อนมากเหมือนการแวกซ์แบบอื่นที่ใช้อุณหภูมิในการละลายขี้ผิ้งสูง น้ำตาลที่เป็นส่วนผสมหลักจะยึดติดแต่เพียงขนเท่านั้น ไม่ทำให้รู้สึกว่าเป็นการรบกวนผิวหนัง ปัจจุบันได้มีการบรรจุแวกซ์ชนิดนี้ลงในกระปุก เพื่อให้ลูกค้าซื้อไปทำเองได้ที่บ้าน เป็นอีกทางเลือกหนึ่งของคนที่ไม่ชอบเข้าร้านบริการ และเป็นการช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายได้อีกทางด้วย
วิธีการแว๊กซ์ด้วยตัวเองที่บ้าน ก่อนอื่นก็ต้องทำความสะอาดผิวบริเวณที่จะแว๊กซ์ก่อน ไม่ว่าจะใช้แว๊กซ์ประเภทใด ปัจจุบันสามารถหาซื้อได้ตามซุปเปอร์มาร์เก็ตลักษณะจะเป็นหลอด หรือเดี๋ยวนี้จะเห็นมีวางขายตามพลาซ่าในห้างสรรพสินค้าเป็นลักษณะแว็กซ์แข็งอยู่ในถ้วยพร้อมไม้พายก็ใช้ได้เหมือนกัน โดยก่อนใช้ก็นำแว็กซ์ไปอุ่นให้ร้อน ใช้แป้งเด็กทาให้ทั่วบริเวณที่จะแว๊กซ์ แล้วใช้ไม้พายทาแว๊กซ์ลงบนผิว ทำทีละจุด พอแว๊กซ์แห้งก็กระตุกออก อาจจะเจ็บบ้างนิดหน่อย แต่ถ้ากระตุกช้าจะเจ็บมากกว่า ทำเสร็จแล้วก็ใช้โลชั่นทาบำรุงให้ทั่ว การแว๊กซ์จะทำให้ขนที่ขึ้นมาใหม่ ค่อย ๆ น้อยลงไปเรื่อย ๆ และไม่ทำให้ผิวบริเวณนั้นดำ


ออร์แกนิกแวกซ์
ถ้าผิวแพ้ง่ายควรเลือกวิธีนี้เพราะเป็นขี้ผึ้งที่สกัดจากธรรมชาติ ไม่ทำให้เกิดอาการแพ้ ไม่บวมแดง และไม่คัน

วิธีการกำจัดขนแบบกึ่งถาวร
การกำจัดขนที่เข้าข่ายกำจัดขนถาวรหรือกึ่งถาวร วิธีการกำจัดขนในปัจจุบัน มีอยู่ไม่กี่วิธีที่ได้ผล แบ่งตามความสามารถในการกำจัดขนโดยดูจำนวนขนที่งอกใหม่ต่อจำนวนเส้นขนเดิม จากน้อยไปมากสุด ได้ดังนี้

การกำจัดขนด้วยวิธีจี้ด้วยไฟฟ้า ที่เรียกว่า Epilations คือ การปล่อยคลื่น microwave ไปตามแนวเส้นขน เพื่อทำลายเซลล์สร้างขน โดยมีขั้นตอนดังนี้ 
- ใช้เครื่องมือ ที่เรียกว่า Epiltron ซึ่งมีลักษณะเป็นครีมหนีบเส้นขนทีละเส้น แล้วปล่อยคลื่น mirowave ช่วงสั้น ( แตกต่างกันแล้วแต่ยี่ห้อ)
- มีการขนถ่ายพลังงานไปตามแนวเส้นขน จนถึงบริเวณกระเปาะผม ซึ่งมีโมเลกุลของน้ำ บริเวณ hair shaft เป็นตัวเก็บพลังงาน
- พลังงานที่กักเก็บไว้ ได้แปรสภาพเป็นพลังงานความร้อน ประมาณ 149 องศาฟาเรนไฮต์ ซึ่งมีผลทำให้ เซลล์ขน( papilla cells) ถูกทำลาย และทำให้เกิดการแข็งตัว( Coagulations) ของโปรตีน ทำให้เซลล์ขนและเนื้อเยื่อข้างเคียงแปรสภาพ
- หลังจากนั้น วงจรในการเติบโตของเส้นขน จะหยุดชะงัก จากระยะ anagen ไปยังระยะ Telogen และขนหลุดร่วงไป และวงจรการสร้างขนใหม่ถูกรบกวน ทำให้ขนไม่งอกขึ้นมาใหม่ได้

ดังนั้น จะเห็นได้ว่า หลักการกำจัดขนด้วยวิธี Epilations ค่อนข้างเสียเวลา ทั้งคนไข้และแพทย์ที่รักษา เนื่องจากต้องใช้ครีมคีบขนทีละเส้น ซึ่งทำได้ง่ายถ้าขนบาง และจำนวนไม่มากนัก แต่ถ้าขนดกดำ เส้นใหญ่ เช่น หนวดเครา ต้องเพิ่มพลังงานขึ้นอีก อาจทำให้เกิดความเจ็บปวดได้บ้าง ขณะปล่อยพลังงานเข้าไปที่เส้นขน และพบว่า การกำจัดขนด้วยวิธีนี้ จะเหมาะกับ บริเวณขนที่บาง และปริมาณไม่มาก แต่ก็มีอัตราการเกิดขนได้ใหม่ ภายใน 10 ปี ดังนั้นเมื่อเปรียบเทียบกับการกำจัดขนด้วย IPL ,laser จะได้ผลดีกว่า และสะดวกกว่า

การกำจัดขนถาวรด้วยเลเซอร์ เป็นการรักษาความงามที่มีวิวัฒนาการก้าวหน้ามากกว่าและได้ผลดีกว่าการทำการจี้ด้วยไฟฟ้า เนื่องจากการจี้ด้วยไฟฟ้าหรือ Epilations ต้องใช้เวลามาก และต้องจี้ทีละต่อมขน และต้องมีความชำนาญ ทั้งแพทย์และคนไข้ต้องใช้ความอดทนระดับสูง
- การกำจัดขนด้วยเลเซอร์ ใช้การผ่านลำแสงเฉพาะ และกำหนดขอบเขต ความลึก และใช้ความแตกต่างของสีขน และสีผิวเนื้อ ซึ่งมีความแตกต่างกันในแง่เม็ดสี เป็นตัวกำหนดความแม่นยำ
- ชนิดของเลเซอร์ ที่ใช้ คือ Alexandrite laser ขนาด 500 nm diode laser หรือ ruby laser 694 nm โดยใช้หลักการที่ว่า ลำแสงเลเซอร์ที่ยิงไปบริเวณที่ต้องการกำจัดขน จะไปเปลี่ยนแปลง และรบกวนการเจริญเติบโต ของผมระยะAnagen ไปสู่ระยะ Telogen ดังนั้น หลังทำเลเซอร์กำจัดขน ขนจะค่อยๆ ร่วงหลุดไป และขนใหม่ที่ขึ้นมา ก็จะเส้นเล็กลง และหลุดร่วงง่าย
- ผลข้างเคียงที่อาจเกิดได้ ก็คือ รอยแผลเป็น การเจ็บปวด หรือ แผลไหม้ จากเลเซอร์ ถ้าเลือกขนาด หรือขาดความชำนาญในการทำ และแนะนำให้ปิดตา เพื่อป้องกันเลเซอร์มีผลต่อดวงตา

การกำจัดขนด้วยเครื่อง IPL  ถือเป็นวิวัฒนาการล่าสุด และได้มีการกำจัดขนด้วยวิธีนี้กันอย่างแพร่หลายใน 1-2 ปีนี้เอง เทคนิคในการกำจัดขนด้วย IPL ก็คือ การปล่อยคลื่นความถี่ของแสง เช่น 765 nm ซึ่งช่วงคลื่นดังกล่าวจะไปจับเฉพาะสีดำของแกนผม และจะไปปล่อยพลังงานและทำลายเซลล์ที่ทำให้ขนเจริญเติบโต( germinated cells) บริเวณกระเปาะผม ทำให้ไม่สามารถทำให้ขนใหม่เกิดได้ นอกจากนี้ยังต้องมีการพิจารณาเลือกช่วงคลื่น แตกต่างกัน ขึ้นอยู่กับความหนาแน่นของขนแต่ละที่ โดยคำนึงถึง ขนาด สีขน และความลึกของรากขน ซึ่งสามารถคัดกรองด้วยฟิลเตอร์ ในการกำจัดช่วงคลื่น โดยจะพิจารณาจากลักษณะสีของขน ตำแหน่งของขน เช่น หนวด เครา ขนตามแขนขา หรือตามลำตัว ซึ่งแตกต่างจากเลเซอร์ที่ใช้การกำจัดขนเพียงช่วงคลื่นเดียว ทำให้กำจัดขนได้ไม่เกลี้ยงเกลาเท่าเครื่อง IPL

- ข้อดีในการกำจัดขนด้วยวิธีนี้ ก็คือพบผลข้างเคียงน้อยมาก ในเรื่องรอยดำไหม้ อาการปวดเจ็บ เมื่อเปรียบเทียบกับการกำจัดขนด้วยเลเซอร์ ส่วนมากการกำจัดขนด้วย IPL จะพบเพียงรอยแดง แต่ไม่เกิน 1 อาทิตย์ก็หายเป็นปกติ และไม่จำเป็นต้องหยุดงาน หรือเตรียมตัวอะไร ก่อนการกำจัดขน นอกจากนี้ยังสามารถทำได้กับทุกสภาพสีผิว
- ได้มีการเปรียบเทียบคนไข้ที่กำจัดขน ด้วยเครื่อง IPL และเลเซอร์ พร้อมบันทึกผลของการรักษาไว้ ดังนี้ เมื่อติดตามผลการกำจัดขน เพียง 1 ครั้ง ใน 3,6,12 เดือน IPL จะพบอัตราขนขึ้นใหม่เพียง 49-54 % เมื่อเปรียบเทียบกับเลเซอร์ ซึ่งจะพบขนขึ้นใหม่ ถึง 68-72 %
- นอกจากนี้ เมื่อได้บันทึกการกำจัดขน ด้วยเครื่อง IPL และเลเซอร์ เกิน 4-6 ครั้ง ใน 12 เดือน IPL จะพบอัตราขนขึ้นใหม่เพียง 22 % เมื่อเปรียบเทียบกับเลเซอร์ ซึ่งจะพบขนขึ้นใหม่ ถึง 42-62 %
ดังนั้นจึงนับได้ว่า ในทศวรรษนี้ การกำจัดขนได้มีวิวัฒนาการมากขึ้นเรื่อยๆ ทั้งในประสิทธิภาพในการกำจัดขน และผลข้างเคียงที่เกิดขึ้น และคาดว่าในทศวรรษหน้า คงได้ข่าวดีๆ ด้านนี้เพิ่มมากขึ้น

ทำเองควรเลือกแบบไหน
ขอแนะนำให้ใช้แวกซ์เย็นจะง่ายและสะดวกกว่า อีกทั้งยังหาซื้อได้ตามร้าน ก่อนตัดสินใจซื้อขอให้เลือกแบบโปร่งใส เพราะจะได้เห็นทิศทางที่จะดึงขน และเห็นว่าทาขี้ผึ้งครอบคลุมทั่วพื้นที่หรือไม่ ส่วนข้อเสียเล็ก ๆ น้อย ๆ คือ ตัวขี้ผึ้งของแวกซ์เย็นจะมีความสามารถในการติดขนได้น้อยกว่าแบบร้อน

การรักษาอาการบวมแดงหลังการแวกซ์
อาการบวมแดงมักเกิดขึ้นบริเวณบิกินี่ เนื่องจากเป็นบริเวณที่มีต่อมไขมันและปลายประสาทจำนวนมาก จึงเป็นเหตุให้เกิดการบวมแดงได้ง่าย เพื่อหลีกเลี่ยงอาการดังกล่าว ลองละลายยาเม็ดแอสไพรินสัก 2 - 3 เม็ด กับกลีเซอรีน 1 หยด และ น้ำสะอาด 1 ถ้วย ผสมกัน นำมาทาบริเวณที่แวกซ์ขนหรืออาจทาครีมที่มีคุณสมบัติในการฆ่าเชื้อด้วยก็ได้

Discussion (6)

เห็นคนพูดกันเยอะเลยหาข้อมูลมาฝากคนที่สนใจคะ

ตอนแรกก็นึกว่าไปยิงเลเซอร์แล้วขนจะไม่ขึ้นอีกเลย

พอตัวเองไปยิ่งมา ก็แบบว่า เอ๊ะ ทำไมมันยังขึ้นอีกล่ะเนี่ย แม้จะไม่เยอะเท่าแต่ก่อนนะคะ

แต่พอมาอ่านกระทู้นี้ถึงค่อยรู้ว่า มันเป็นเรื่องปกติที่ยิงเลเซอร์แล้วขนยังขึ้นอยู่ แหะๆ

แล้วแต่ละแบบราคาเท่าไหร่ค่ะ ส่วนแบบ IPL ที่ได้ที่ไหน และขอทราบราคาด้วย