แม่จะบริจาคร่างกายเป็นอาจารย์ใหญ่

สวัสดีค่ะ ตามหัวเรื่องเลยค่ะ แม่หนูจะบริจาคร่างกายให้รพ เป็นอ ใหญ่ 

ตอนนี้ แม่อายุ 47 ค่ะ หนู 17  
ไม่รู้จะอธิบายยังไงดี
บอกตรงๆว่า หนูรู้สึกไม่ค่อยดี ยังไงไม่รู้ค่ะ อธิบายไม่ถูก 
หนูไม่อยากให้แบบถ้าสมสุติแม่ ตายแล้ว แทนที่จะได้เผาได้ทำตามพิธีไรงี้
แต่นี่ต้องเก็บร่างไว้อีกเป็นปี ๆ  แล้วต้องมาให้เขาผ่านู่นตัดนี่อีก T^T 

หนูก็เข้าใจนะคะ ว่ามันเป็นสิ่งที่แม่เลือก เป็นความสุขของแม่ เป็นกุศลที่ยิ่งใหญ่ 
แต่ทำไมหนูกลับรู้สึกเสียใจ ไม่อยากให้แม่ทำงี้เลยอ่ะ 

หนูควรทำยังไง คิดยังไงดีค่ะ แต่หนูก็ห้ามแม่ไม่ได้ ..... 

Discussion (22)

พี่ยังอยากบริจาคเลยค่ะ ที่บ้านก็บริจาคทั้งคุณพ่อคุณแม่ อย่าคิดในทางไม่ดีสิคะ

ตัวเรานี้ไม่ใช่ของเรานะคะ เราไปคิดเองว่ามันคือของเรา เวลาเราตาย พี่ว่าเหมือนหลับไป ไม่ได้รับรู้อะไรแล้ว เมื่อเราพร้อมจะไป สังขารเราจะเปนไง ถึงเวลานั้น เราคงไม่ได้ใส่ใจแล้วล่ะ คุณแม่น้องเข้าใจธรรมะข้อนี้ดีถึงบริจาค อย่าคิดมากค่ะ โตขึ้นจะเข้าใจเอง

คิดเห็นเหมือนกับความเห็นด้านบนเลยค่ะ   ส่วนตัวพี่ก็คิดจะไปบริจาคเหมือนกัน  เพราะตายไปก็เอาไปไม่ได้ ร่างกายก็เน่าเปื่อยผุพังไป ไม่ได้ยังประโยชน์อะไรเลย คนไม่เหมือนวัว ควาย หนังเขายังมีประโยชน์  น้องควรยินดีกับสิ่งดี ๆ ที่ท่านทำดีกว่านะคะ  และเดี๋ยวอีกหน่อยโตขึ้นหนูจะเข้าใจเองค่ะ

และขอร่วมโมทนาบุญกับคุณแม่ด้วย สาธุค่ะ 

อย่าไปจิตตกเลยครับ การเป็นอาจารย์ใหญ่ไม่มีอะไรที่เสียหายครับ คุณไม่ต้องกลัวว่าคนรอบข้างๆหรือญาติจะมองยังไงเมื่อถึงเวลานั้น การเป็นอาจารย์ใหญ่ทางแพทย์ก็ให้เกียตริและเคารพศพมากๆครับ พอถึงเวลาเขาก็จัดทำพิธีให้ครับ ถือว่าเป็นบุญกุศลที่มหาศาลมากๆ  โดยส่วนตัวตอนนี้ผมเองอายุ 21 ยังบริิจาคดวงตาแล้วเลยครับ และในอนาคตยังมีโครงการที่จะบริจาคร่างกายเป็นอาจารย์ใหญ่กับคุณแม่ ถ้าไงคุณลองปรับเปลี่ยนทัศนคติดูนะครับ เพราะถือเป็นเรื่องที่ดี คนเราเมื่อละโลกไปไม่สามารถเอาอะไรไปได้ อย่าไปยึดติดครับ จงเคารพการตัดสินใจและจงภูมิใจในตัวของคุณแม่คุณ 

 

ถ้าแม่คุณได้บริจาคจริงๆก็ขออนุโมทนาบุญด้วยนะครับ  สาธุ  

ของเราทั้งพ่อทั้งแม่เลยค่ะ บริจาคตั้งแต่เราอายุราวสิบขวบเศษๆเท่านั้น ตอนนั้นก็แอบเสียใจ แต่โตมาถึงได้รู้ว่า ถึงวันเผาอาจารย์ใหญ่ เขาทำเป็นงานใหญ่เลยนะคะ ไม่ต้องกลัวว่าจะไม่ได้กระดูกกลับมาค่ะ