[Review] ครีมบำรุง,, โทนเนอร์,, คลีนเซอร์ ของสาวผิวมันค่ะ

สวัสดีค่าา กลับมาอีกแล้วกับรีวิวเล็กๆน้อยๆของนกนะคะ

หลังจากที่เคยรีวิวเครื่องสำอางค์ในกรุไปจนเรียกได้ว่าหมดบ้านแล้ว 

มีทั้ง...

>> Base Makeup (ไพรม์เมอร์,, รองพื้น,, แป้ง) ของสาวผิวมัน <<

>> บรอนเซอร์ - บลัชออนสีบ่มแดด <<

>> ลิปสติกในกรุ <<

>> ลิปบาล์ม บำรุงริมฝีปากทั้งหมดที่ชอบ <<

วันนี้นกจะมารีวิวผลิตภัณฑ์ที่ไม่ใช่เครื่องสำอางค์ แต่มีความสำคัญไม่แพ้กัน... จริงๆอาจจะสำคัญกว่าด้วย

ก็คือ ผลิตภัณฑ์พวก ครีมบำรุง,, โทนเนอร์,, และ คลีนเซอร์ค่ะ

เพราะผิวหน้าที่ดี จะทำให้แต่งหน้าได้สวยและง่ายขึ้นค่ะ 

:: Background ::

- ผิวมัน (มันทั้งหน้า ไม่ได้มันเฉพาะทีโซน) แต่ไม่ได้มันมาก ไม่ถึงกับเยิ้มค่ะ

- ผิวธรรมดา (ไม่ใช่ผิวบอบบาง แพ้ง่าย)

- ไม่มีสิว รอยสิว รอยด่างดำใดๆ

- ผิวขาวอยู่แล้ว ไม่เน้นบำรุง whitening นะคะ

ทั้งนี้ ครีมบำรุงแต่ละตัว จะให้ผลลัพธ์ต่างๆกัน ในแต่ละคนนะคะ :)

เริ่มที่ภาพหมู่ก่อนเหมือนเดิมโน๊ะ~!!

เป็นของที่ใช้อยู่ช่วงนี้นะคะ... แต่ก็มีบางตัวที่สลับรับเปลี่ยนไปบ้าง แล้วแต่ช่วง

เดี๋ยวจะค่อยๆทยอยเล่าให้ฟัง... ไปรีวิวเท่าที่มีอยู่ตอนนี้ก่อนนะคะ 

เริ่มที่ผลิตภัณฑ์ที่ใช้ เพื่อเตรียมผมให้พร้อมต่อการบำรุงขึ้นต่อไป... โทนเนอร์ นั่นเองค่ะ~!!

เริ่มกันจาก ซ้าย ไป ขวา นะคะ

1. Normal Saline Solution

ถูกและดี มีจริง... น้ำเกลือ ที่หาซื้อได้ตามร้านขายยาทั่วไปนี่เองค่ะ

หลายคน ใช้เจ้าตัวนี้แทนโทนเนอร์ไปเลย... เพราะว่าเค้ามีคุณสมบัติคือ ช่วยฆ่าเชื้อ(อย่างอ่อนๆ) ลดการเกิดสิว

แต่ว่า ส่วนตัว เราเคยใช้แทนโทนเนอร์ไปเลยอยู่ระยะนึง แล้วผิวไม่ค่อยดีเหมือนเคย

อาจจะเพราะเค้าแค่ฆ่าเชื้อ ทำให้ผิวสะอาด

แต่ไม่ได้บำรุง กระชับรูขุใขน หรือช่วยเตรียมผิวให้พร้อมต่อการบำรุงขั้นต่อไปเลย

ตอนนี้เราเลยใช้น้ำเกลือเช็ดหน้าก่อน... ตามด้วยโทนเนอร์จริงๆเช็ดอีกครั้ง

ได้ผลดีทีเดียวเชียวค่ะ~!!

2. Nivea Toner for Combination Skin

โทนเนอร์ของ Nivea ค่ะ... เป็นโทนเนอร์ที่ดีมากๆตัวนึง

เมื่อก่อน เราใช้ Eucerin Dermopurifyer ค่ะ... ซึ่งมันดีมากๆๆๆๆเลย แต่มันก็ค่อนข้างแพงเช่นกัน

เราเลยหันมาลองโทนเนอร์ที่ราคาไม่แพง แบบที่หาซื้อได้ตาม supermarket ทั่วไป

ก็ลองมา 2-3 ยี่ห้อ... ก็มาเจอ Nive ตัวนี้ ที่เข้ากับผิวเรามากๆเลย

ของ Nivea มีสามสูตร... ขวดฟ้า (normal skin),, ขวดขาว (whitening),, ขวดเขียว (combination skin)

ลองมาแล้วทั้งสามสูตร... ขวดฟ้าก็โอเค มีกลิ่นแอลกอฮอลล์เล็กน้อย แต่ไม่รู้สึกแรงมากมายค่ะ

ขวดขาว อันนี้เรารู้สึกว่ามันแรงมากกกก ขนาดผิวเราไม่ใช่ผิวแพ้ง่ายนะคะ... ไม่ชอบเลย

ส่วนขวดเขียวที่ใช้อยู่... เป็นตัวที่ให้ effect ได้คล้ายกับ Eucerin ที่สุดแล้ว...

ไม่ระคายเคือง ใช้แล้วหน้าไม่แห้งตึงเกินไป รู้สึกว่ามันช่วยบำรุงและช่วยเตรียมผิวให้พร้อมกับการบำรุงขั้นต่อไป

ชอบมากๆค่ะ

ถัดมา... ไปต่อกันที่ Day Cream ซึ่งเราใช้ตัวเดียวเท่านั้น...

3. Eucerin White Solution SPF 40

เลือกใช้ line นี้ ไม่ได้แคร์ว่ามันเป็น whitening... แต่เพราะไลน์นี้ เค้ามี day cream ที่มี SPF สูงสุดค่ะ~!! 555

เพราะเราขี้เกียจ... เช้าๆ ขี้เกียจจะมานั่งรอ ลงครีมหลายๆตัว

เลยเลือกใช้ครีมบำรุงที่มี SPF ที่สูงพอ... ลงบำรุงตัวเดียว แล้วแต่งหน้าได้เลย

หลายคนบอกว่า ทำแบบนี้ ดีไม่เท่าใช้กันแดดจริงๆ... อันนี้ไม่ทราบนะคะ

แต่ส่วนตัว ทำแบบนี้มาหลายยยยปี... ในวันปกติที่ไปมหาลัย หรือไปเที่ยวเสาร์-อาทิตย์ ก็เท่านี้พอจริงๆค่ะ

แต่ถ้าไปทะเล หรือไปต่างจังหวัด อันนั้นก็เป็นอีกเรื่อง... กรณีนั้น ก็จะใช้กันแดดจริงๆเสริมเข้าไปด้วยค่ะ :)

เนื้อครีมค่อนข้างเข้มข้น... แต่ไม่ถึงกับเหนอะหนะเกินไปค่ะ ถ้าแต่งหน้าต่อก็ไม่เป็นไรเลย ชุ่มชื้นดีด้วยซ้ำ

แต่ถ้าลงตัวนี้ โดยที่ม่ได้แต่งหน้า ไม่ทาแป้ง... อาจจะทำให้ดูมันเกินไปได้ค่ะ

เพราะเราออกตัวไว้แล้ว ว่าตอนเช้า เราเป็นมนุษย์ขี้เกียจ เพราะต้องรีบๆๆ เพื่อจะไปมหาลัย...

ดังนั้น ตอนกลางคืน เราจึงต้องบำรุงเต็มพิกัด.... ไปดู Night Cream ของเรากันค่ะ~!!

ซ้าย ไป ขวา.. นะคะ

Eucerin White Solution

Boots Cucumber Moisturizing Lotion

Boots Cucumber Moisturizing Cream

Vasline Petroleum Jelly

Estee Lauder Hydrationist Maximum Moisture Cream

เยอะมาก ไล่ลำดับไม่ถูก... ขออนุญาตไม่รีวิวไล่จากซ้ายไปขวา แต่จะไล่ตามลำดับการใช้นะคะ

4. Eucerin White Solution

ตัวนี้ ได้มาเพราะพี่เภสัชแนะนำค่ะ...

เพราะเราใช้ white solution ของ day cream อยู่ พี่เค้าเลยให้เอา night cream มาคู่กันเลย

เป็นเนื้อครีม มันน้อยกว่า Day Cream ค่ะ... เพราะ Day Cream มี SPF ด้วย เลยทำให้ดูวาวกว่า

ซึมซับเร็ว เนื้อครีมไม่เบาไม่หนัก... เรื่องความชุ่มชื้น ช่วยได้ดีระดับ 7-8 คะแนน (เต็มสิบ)

เรื่องขาว ไม่ทราบจริงๆค่ะ เพราะขาวอยู่แล้ว ไม่ได้สังเกตุเลย

เมื่อก่อน ตอน ม.ปลาย มีสิวผดที่หน้าผาก เพราะฮอร์โมน

เคยใช้ Night Cream สูตร Dermo purifyer ค่ะ (เป็นสูตรสำหรับผิวมัน-ผิวเป็นสิวง่าย)

ก็เห็นผลระดับนึง และชอบเหมือนกันกับสูตรนั้น

แต่พอตอนนี้ ไม่เป็นสิวแล้ว เลยลองไลน์อื่นบ้างน่ะค่ะ :)

ใช้ Eucerin เป็นตัวแรกค่ะ... แต่บางวัน ก็ใช้ Estee แทน

5. Estee Lauder Hydrationist

เป็นกระปุก เนื้อครีม ไม่บางไม่หนัก... แต่หนักกว่า Eucerin เล็กน้อย

ใช้เพียงเล็กน้อย แตะๆติดปลายนิ้วก็เพียงพอ...

ช่วยเรื่องความชุ้มชื้น ช่วยเติมน้ำให้ผิว... ให้ไปเลย 10 เต็มค่ะ สำหรับเรื่องนี้

ชุ่มชื้น โดยที่ไม่หนักไม่เหนอะหนะ

เป็น Moisturizer ที่ดีมากๆที่สุดเท่าที่เคยใช้คับผม~!!

ใช้แทน Eucerin ในวันที่อยากใช้ค่ะ 5555 (ช่วงที่รู้สึกว่าผิวกร้านๆไปหน่อย ก็จะใช้ตัวนี้)

6. & 7. Boots Cucumber Moisturizing Lotion/Cream

ขออนุญาตรีวิวคู่กันเลย... ตัวที่เป็นขวด คือ Lotion,, ตัวที่เป็นกระปุก คือ Cream นะคะ

ทั้งสองตัว ช่วยเรื่องความชุ่มชื้นเหมือนกัน... กลิ่น แตงกว๊าาาา แตงกวาา เหมือนกัน

ตัวที่เป็น lotion เนื้อจะใสๆ บางเบาๆ ค่ะ.... ส่วนอันที่เป้น cream เนื้อจะหนัก เข้มข้น

เราจะใช้ตัวใดตัวหนึ่ง แล้วแต่สภาพผิวช่วงนั้น และสภาพอากาศ 5555

เรื่องความชุ่มชื้น ให้ไปเลย 8/10 ค่ะ

จริงๆเค้าชุ่มชื้นดีมากๆเลยนะคะ แต่เรารู้สึกเวลาใช้ มันจะหนักๆเหนอะๆหน้าไปหน่อย เลยหักตรงส่วนนั้นค่ะ

แต่ก็ยังยืนยันว่า เป็น Moisturizer ของ Drug Store Brand ที่ดีที่สุดเท่าที่เคยใช้มา

เราจะใช้ตัวนี้ ต่อจาก Eucerin หรือ Estee ค่ะ

8. Vaseline Petroleum Jelly

ปิโตรเลียมเจลที่แสนคุ้นเคยของสาวๆหลายๆคนนะคะ... แต่เปล่า เราไม่ได้เอามาทาปากแต่อย่างใดค่ะ

เพราะส่วนตัว เราใช้ทาปากแล้ว ชุ่มชื้นจริงค่ะ แต่ว่าปากเราดำขึ้น :"(

เราเลยเอามาประยุกต์ หลังจากที่ได้ยินคุณสมบัติอีกอย่างของเค้า

นั่นคือ เอามา ทาขนตา เป็นบำรุงขนตาค่ะ~!! กูรูหลายท่านเคลมว่าจะทำให้ขนตา ยาว หนา และแข็งแรงขึ้น

เราลองทำมาได้ซักระยะแล้วนะคะ...

วิธีคือ ใช้ทิ้วนาง แตะเจลขึ้นมาเล็กน้อย...

วอร์มเนื้อเจล โดยการขยี้ๆๆกับนิ้วนาง(ที่มีเจล)เข้ากันนิ้วโป้ง

หลับตา ค่อยๆป้ายเจลลงไปบนเส้นขนตาทีละข้าง...

แล้วป้ายเนื้อเจลที่เหลือที่บริเวณใต้ตา(บริเวณแพนด้า)ค่ะ

เรื่องขนตา เราไม่แน่ใจ... แต่เรื่องริ้วรอย และรอยคล้ำใต้ตา (ที่เกิดจากการนอนดึก) หายไปเยอะเชียวค่ะ

ตอนนี้เลยเลิฟๆมากๆเลย ^^"

ต่อมา ยังอยู่กันที่ตัวบำรุงผิวหน้านะคะ... แต่เป็นตัวบำรุงพิเศษ ที่ไม่ได้ใช้ทุกวันค่ะ

ใช่แล้วค่ะ... นั่นก็คือ Mask Sheet นั่นเองค่ะ...

เมื่อก่อนก็เคยใช้ Mask แบบทานะคะ... ตอนนี้ก็ยังชอบค่ะ แต่ช่วงนี้ติดใจแบบแผ่น เพราะมันใช้ง่าย มือไม่เลอะ อิอิ

มาส์กชีท เราใช้หลายยี่ห้อค่ะ สลับๆกันไป... ตามแต่โปรโมชันจะอำนวย แฮร่ 

ก็มีตัวที่ชอบมาก และมีตัวที่ชอบน้อย... ด้วยเหตุผลต่างๆกันไป...

ส่วนมาก เราไม่เน้นเรื่อง Whitening หรือ Brightening เท่าไหร่... จะดูเรื่อง Moisture และ Vitamins ซะมากกว่า

ส่วนตัวเรา ใช้ตอนกลางคืน... พอล้างหน้า อาบน้ำเสร็จ ก็เช็ดโทนเนอร์รอบนึง แล้วแปะมาส์กเลย

ทิ้งไว้ประมาณ 20 นาที จนมาส์กซึมดีแล้ว ก็เอาแผ่นมาส์กออก... ตบๆๆสารบำรุงที่เหลือๆอยู่ ให้ซึมลงไปให้มากที่สุด

ตามจริง เค้าบอกว่า ไม่ต้องล้างออก ให้บำรุงขั้นต่อไปได้เลย... แต่เราทำใจไม่ได้สักที

ต้องขอล้างด้วยน้ำเปล่านิดนึง ใช้โทนเนอร์เช็ดๆอีกที แล้วบำรุงตามปกติค่ะ 

หมดไปแล้วกับตระกูลโทนเนอร์และครีมบำรุงนะคะ...

แต่อยู่ต่อด้วยกันอีกนิดค่ะ...

ไปต่อกับที่ Makeup Remover เลยดีกว่าาาา 

ส่วนตัว ในเรื่องของการทำความสะอาดเครื่องสำอางค์ เรามีแค่สองตัวค่ะ... ใช้แบบนี้มาตั้งแต่รุ่นคุณแม่

สะอาด แน่นอน และไม่แพงด้วย อิอิ

อันดับแรก ใช้สำลี ชุบ Baby Oil (จะยี่ห้ออะไรก็ได้นะคะ แต่ส่วนมากเราก็ใช้ Johnson)

เช็ดๆๆ จนกว่าจะรู้สึกว่าสะอาด (เมื่อสำลีไม่มีสีอะไรติดมาแล้วนั่นเอง)

หลายคนถามว่า หน้ามัน ใช้ออยล์เช็ด ไม่ยิ่งมันหรอ~???

มันก็แน่นอนล่ะค่ะ ใช้น้ำมัน ทาลงไปบนผิว... ณ จังหวะนั้น ผิวก็คงต้องมันแผลบๆอยู่แล้ว

แต่ขอยืนยันการใช้ baby oil ไม่ได้มีผล ทำให้ผิวของเรา "มัน" ขึ้นจริงๆ

ส่วนเรื่องความสะอาด ก็ไม่ต้องกลัวค่ะ... สะอาดหมดจดแน่นอน...

คำถามต่อไป หลายคนคงกลัวว่า... โอเค ผิวไม่มันขึ้น... แต่ว่า ตัวน้ำมันที่ติดอยู่บนผิวเราล่ะ จะล้างออกยากไหม ?

นี่คือสาเหตุที่ว่า ทำไมเราต้องใช้ Cleansing Milk ด้วยค่ะ

ซึ่ง cleansing milk ที่เราชอบ คือของ Nivea ค่ะ...

ครีมน้ำนม หรือ cleansing milk นี้เป็นตัวที่ช่วยทำความสะอาดขั้นสุดท้าย

ช่วยเช็ค(และเช็ด)ให้มั่นใจ ว่าเราทำคามสะอาดได้หมดจดจริงๆ

และเป็นการช่วยกำจัด oil บนผิวเรา ให้ออกไปด้วยค่ะ...

ถามว่า ทำไมไม่ใช้ cleansing milk แต่แรก... ทำได้ค่ะ ถ้าเราแต่งหน้าอ่อน

แต่ถ้าแต่งหน้าเข้ม แล้วใช้เพียง cleansing milk อย่างเดียว อาจจะต้องเช็ดกันถึง 5-6 รอบเลยทีเดียว

เพียงเท่านี้ เราก็พร้อมจะล้างหน้าด้วยโฟมล้างหน้า เพื่อผิวสะอาดๆ ไม่เกิดสิวอุดตัวแล้วค่ะ 

รีวิววันนี้ก็คงหมดเท่านี้

มีคำถาม ความเห็น ติ ชม อะไร... คอมเมนท์กันได้ตามสบายเลยนะคะ

แล้วพบกันใหม่รีวิวหน้าค่ะ...

แอบโปรยไว้เบาๆ ว่าน่าจะเป็นรีวิวของผลิตภัณฑ์จัดแต่งทรงผมเพื่อผมหยิกเป็นลอนและผมมีวอลลุ่มค่ะ

โปรยไว้ก่อนๆๆ แล้วเจอกันค่ะ