Teppanyaki : Cooking at home พรอพดีๆ ช่วยให้น่าหม่ำขึ้นอีกเยอะ

เนื่องจากวันลอยกระทงคนต้องเยอะมหาศาลแหงมแต่อยากกินสเต็ก Teppan  ก็เลยตัดสินใจทำเองซะเลยดีกว่า (จริงแล้วเห่อพรอพ จานชามใหม่ที่เพิ่งสอยมา 555)

 

เมนูนี้ทำเองง่ายๆ ที่บ้านจัดอุปกรณ์ (สำหรับ 5-6 ที่) ให้พร้อมดังนี้จ้า 

 

1. เนื้อสเต๊ก rip eye 2 แพค

2. กะหล่ำปลี 1/2 หัว

3. ต้นหอมญี่ปุ่น 1 ต้น

4. ต้นหอมไทย 1 กำ

5. อโวคาโด 1 ลูก

6. หน่อไม้ฝรั่ง 10 ต้น

7. กุ้งแชบ๊วย 5 ตัว

8. ผักสลัด (Salad Cos) 1 หัว

9. เห็ดชิเมจิ 1 แพค

10. คอนยักกุ 1 ห่อ

11. เต้าหู้ญี่ปุ่น 1 แพค

12. เต้าเจี้ยวสำหรับทำซุปแบบซอง

13. กระเทียม 3-4 หัว (ใครชอบเยอะใส่ 1:1 เลยจ้า)

 

อุปกรณ์ปรุงรสหลักๆ (ดูเยอะหน่อยนะ แต่ใช้อย่างละจิ๊ดๆ)

1. น้ำมันมะกอก

2. น้ำมันงา

3. งาผสมเกลือป่น

4. ผง Grill Stek 

5. เกลือทะเลแบบเม็ดบด

6. โชวยุ

7. วาซาบิ

8. มิริน

9. มายองเนส

10. น้ำจิ้มงาเข้มข้น

11. น้ำจิ้มพอนสึรสเลมอน

12. ซุปปลาคัทซึโอะแบบผง

 

ทีนี้ ก็มาลงมือกัน 

 

 

 

หั่นเนื้อ stek เป็นลูกเต๋าพอดีคำ โรยผง Grill Stek และน้ำมันงาหมักไว้ แล้วหันมาหั่นผักที่เตรียมไว้ให้เรียบร้อย

-----> หน่อไม้ฝรั่งหั่นท่อนๆ ลวกน้ำเดือดแล้วราดน้ำเย็น

-----> ต้นหอมและกระเทียมซอยฝอยๆ เอาไปปั่นในเครื่องปั่น แล้วคลุกกับน้ำมันงาผสมน้ำมันมะกอกให้ห๊อมม หอมมม

-----> กะหล่ำปลีหั่นชิ้นๆ ไว้ผัด รวมกับต้นหอมญี่ปุ่นส่วนใบเขียวๆ ที่หั่นเป็นแว่น

 

ทำสลัดกุ้งวาซาบิแก้เลี่ยนกันหน่อย โดยเริ่มจากการ

-----> ต้มกุ้งในน้ำเดือด (ใส่เกลือลงไปเล็กน้อย) พอกุ้งเปลี่ยนสีทั่วกันก็เอามาหั่นเป็นชิ้นเล็กๆ

-----> สับเนื้ออโวคาโดผสมกับมายองเนสและวาซาบิ

-----> เอากุ้งที่หั่นไว้ใส่ลงไป แล้วเติมโชวยุ คลุกเคล้าให้เข้ากัน

-----> ผักสลัด ล้างสะเด็ดน้ำแล้วหั่นเป็นท่อนเอาแช่ตู้เย็น จะเสิร์ฟแล้วค่อยเอาออกมา

-----> น้ำลวกกุ้งที่เหลืออยู่อย่าเพิ่งทิ้ง ตั้งไฟให้เดือดใส่เต้าหู้ที่หั่นลูกเต๋าลงไปต้มต่อ เอาไว้ใส่ในซุปเต้าเจี้ยวอร่อยดีอ่ะ (แอบชอบเป็นการส่วนตัวกว่าเต้าหู้สดอ่ะนะ)

 

 

 

ทำเครื่องเคียงด้วย ให้ดู full course ควรค่าว่ามื้อนี้มีดีที่หน้าตานะจ๊ะ

-----> เห็ด และ คอนยัคกุ ลวกสะเด็ดน้ำพักไว้

-----> ผสมผงซุปปลากับน้ำต้มเดือดประมาณ 1/2 ถ้วย ตั้งไฟแล้วใส่เห็ด คอนยัคกุ 

-----> ปรุงรสด้วยมิริน โชวยุ และน้ำตาล

-----> แบ่งเศษเนื้อบางส่วนหันชิ้นเล็กๆ ตามลงไปเคี่ยวซักครู่ก็เรียบร้อย

 

อ๊ะๆ อย่าลืมหุงข้าวด้วยนะ :)

Tip บ้านเรา : เวลาหุงข้าวให้ซาวข้าวแช่ไว้ก่อนเริ่มลงมือทำทุกสิ่ง (น้ำซาวข้าวก็เอาไปรดน้ำต้นไม้ต่อ ออกดอกดีนักแล) แล้วพอเตรียมหั่นนั่น นู่น นี่เรียบร้อยแล้วค่อยมากดหุงข้าว จะทำให้ข้าวนุ่มมั่กๆ อ๊า~าาา

 

 

พอข้าวเกือบสุกแล้วทีนี้ก็ลงมือกับจานหลักซะที

-----> เอาหน่อไม้ฝรั่งมาผัดเนย

-----> ตามด้วยกะหล่ำปลีและเนยที่เหลือจากหน่อไม้ฝรั่ง เหยาะน้ำมันงานิดหน่อยพอหอม

-----> เอาเนื้อลงกระทะ ใช้ไฟแรงหน่อยสำหรับคนที่ไม่ชอบสุกนัก พลิกเร็วๆ ให้พื้นที่สี่เหลี่ยมรอบนอกของเนื้อดูสุก แล้วเอาขึ้น (ปล่อยให้ระอุต่อในจานข้างในจะได้นุ่มๆ)

 

จัดน้ำจิ้มลงหลุม ตักข้าวใส่ชาม โรยงานิดหน่อย ก็เรียบร้อยพร้อมเสิร์ฟแล้วค่าาาาาา 

ปล. แอบมีเครื่องเคียงเพิ่มเป็นทาโกะยากิ แต่อันนี้ไม่ได้ทำเองนะ แห่ะๆ

 

 

 

สาวๆ รู้มั้ยว่าการทานอาหาร(ที่ดูดี)นอกบ้าน 1 มื้อ ถ้าทำเองจะประหยัดได้แค่ไหน เดี๋ยวหลังปีใหม่ Jeban Hangout#7 จะมาเมาท์เรื่องเกี่ยวกับเทคนิกการออมเงิน อย่าพลาด~! 

 

Tip : ใครที่ชอบคิดว่าอาหารนอกบ้านน่าหม่ำกว่าทำเอง ลองใส่ใจกับพรอพสักนิด จะรู้สึกว่า อาหารง่ายๆ ทำมั่วๆ เองที่บ้าน ดูหรูเริ่ดน่าทานขึ้นอีกเยอะเลย (การทำอาหารเองที่บ้านอาจจะลงทุนกับเครื่องปรุงตอนเริ่มแรกซะหน่อย แต่ถ้าทำบ่อยๆ รับรองว่าคุ้ม แถมได้พัฒนาตัวเองด้วยนาาาา)