ไปดอปปิโอริสเตรทโต้มาค่ะ มีรูปเล็กน้อย

ในวันที่ 17-19 ธันวาคม 2555 ที่ผ่านมาเราได้มีโอกาสเดินทางไปเชียงใหม่ การไปครั้งนี้คือการไปทำงานล้วนๆเลยค่ะ เกี่ยวกับอาหารแทบทั้งสิ้น แต่ว่าเป็นเพียงผู้ติดตามและผู้วิจารณ์อาหารเสริมเนื้อหาในบล็อกและผู้ชำนาญทางเท่านั้น จำได้ว่าเมื่อต้นปี 55 มีโอกาสมาที่นี่ครั้งหนึ่งแต่ผู้วิจารณ์จริงๆไม่ได้มาด้วยก็เลยต้องเก็บภาพกับชิมกาแฟไปก่อน

ออกตัวก่อนเลยว่าเราไม่มีความรู้เรื่องกาแฟเลยนะคะ คงเป็นการพูดถึงกลายๆจะดีกว่าเป็นการเขียนกระทู้รีวิว แต่เห็นว่าในสามวันที่ผ่านมากับกาแฟเกือบยี่สิบแก้วเราได้อะไรมากมายจากร้านกาแฟแห่งนี้มาก จึงขอมาแชร์ความรู้และประสบการณ์อันน้อยนิดนี้กับเพื่อนๆค่ะ กรุณาด้วยนะคะ

ถ้าอ่านแล้วรู้สึกอินๆเหมือนว่าจะเริ่มเมากาแฟเหมือนเราบ้างแล้ว ก็ลองค้นๆใน Google ด้วยคำว่า 'duorecommend' ดูนะคะ มีบทความแบบละเอียดยิบให้อ่านเพิ่มเติมอีกเล็กน้อย

 

 

 

 

 

ภาพในเช้าวันที่ 17/12/55

เราเตรียมตัวกันในช่วงเช้าเพื่อตามหาร้านอาหารในลิสต์ที่ทางเว็บจดมาให้ค่ะ ดิฉันเป็นคนหาเส้นทางไปยังร้านดังกล่าว ส่วนอีกคน(นักวิจารณ์ของเว็บ)ต้องเตรียมข้อมูลอีกเล็กน้อยก่อนไป อากาศค่อนข้างเย็นตั้งแต่เช้าเลย ทราบข้อมูลเบื้องต้นมาแล้วว่าร้านนี้เสิร์ฟแต่กาแฟร้อนเป็นหลัก จึงไม่เป็นเรื่องลำบากในฤดูหนาวนี้ค่ะ สบายมากๆ

ปล. กล้องที่ใช้คือ FujiFilm FinePix X100 ตลอดทริปนี้เลยค่ะ พกกล้องใหญ่เข้าร้านอาหารโดนไล่แน่เลย

 

 

-------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

 

@Doppio Ristretto

ภาพแรกที่ได้เห็นก็คือความวุ่นวายในร้าน ฝรั่งเยอะมากๆเลยค่ะ ร้านนี้ตกแต่งง่ายๆโทนของแสงไฟก็จะคล้ายๆกาแฟ ป้ายและรายละเอียดของกาแฟเต็มไปหมด คิดได้อยู่สองอย่างถ้าไม่บ้าก็ต้องรักกาแฟมากๆแน่ค่ะ บริกรและบาริสต้ามือระวิงกันไปหมดแต่ดูพวกเขาก็มีความสุขดีนะคะ ร้านแบบห้องเดียวอย่างนี้ดูแออัดไปเลยเมื่อเทียบกับปริมาณคนที่เยอะกว่ามาก

 

 

 

---------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

 

เราตกใจมากเมื่อเห็นเมนูกาแฟ แล้วก็คิดว่าคนไม่รู้เรื่องอะไรเลยเมื่อมาที่ร้านนี้ก็คงทำอะไรไม่ถูก แต่พอฟังอีตาที่มาด้วยอธิบายให้ฟังก็พอเข้าใจได้ค่ะ

เมนูกาแฟที่ร้าน Ristr8to^2 มีขั้นตอนง่ายๆในการเลือกนะคะ ดังนี้ค่ะ
1. อันดับแรกเลยเราต้องเลือกเมล็ดกาแฟที่อยู่ทางด้านขวาของเมนูก่อนค่ะ ซึ่งรายชื่อที่ปรากฏอยู่ที่เห็นเป็นเมล็ดกาแฟแบบ Single Origin คือสายพันธุ์เดียวไม่ผสมเลย แบบนี้จะง่ายต่อการเทสกาแฟ (ปกติเทสแต่อาหาร) เพราะถ้าเราเลือกแบบกาแฟผสมหรือเบลนด์ คาแรกเตอร์มันก็จะตีกันไปหมดไม่เหมาะสำหรับมือใหม่
2. จากนั้นให้ดูว่าจะเอาเมล็ดกาแฟสายพันธุ์ที่เราเลือกนั้นไปทำเป็นเมนูอะไร เท่านั้นเองค่ะง่ายๆ (ตัวเองเพิ่งจะมาเข้าใจตอนมารอบที่สอง ><')

 

 

 

--------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

 

ภาพนี้ไม่ชัดเลยค่ะ

 

ก่อนอื่นเราต้องทำความเข้าใจกันก่อนนะคะว่าทำไมต้องเป็นริสเตรทโต้ เพราะปกติทั่วบ้านทั่วเมืองก็ดื่มกันแต่เอสเปรสโซ่ แถมบ้านเรายังมีเอสเปรสโซ่เย็นอีกต่างหาก (ความจริงไม่มีนะคะ)

ริสเตรทโต้คือกาแฟช็อตเข้มข้นค่ะ เป็นส่วนแรกสุดของกาแฟที่กลั่นได้อยู่ในช่วง 15 มิลลิลิตรแรกเท่านั้น ถ้ามากกว่านี้จะเข้าสู่ขั้นตอนของเอสเปรสโซ่ น้ำร้อนที่ผ่านกาแฟในช่วงแรกนั้นจะได้น้ำมันของเมล็ดกาแฟด้วย และยังคงความเป็นคาแรกเตอร์ของสายพันธุ์ไว้สูง อีกทั้งยังขมน้อยด้วยค่ะ

ดอปปิโอริสเตรทโต้ ก็คือริสเตรทโต้สองช็อต เนื่องจากว่าถ้าทางร้านใช้ช็อตเดียวมันไม่พอต่อการชงเป็นกาแฟอย่างอื่น เป็นการกลั่นแบบเอาเนื้อๆของมันเท่านั้น ต้นทุนก็เลยสูงกว่า แถมยังใช้สายพันธุ์กาแฟดีๆอีก

เราเลยเดาว่าน่าจะเป็นที่มาของชื่อร้านค่ะ

ในร้านเอง ถ้าเราสั่งดอปปิโอริสเตรทโต้ (เมล็ดกาแฟอะไรก็ช่าง) ทางร้านก็จะเสิร์ฟริสเตรทโต้แบ่งออกเป็นสองแก้วน้อยๆมาให้ ให้เราดื่มส่วนแรกก่อนซึ่งจะดีที่สุด ส่วนที่สองจะมีความขมเพิ่มมาบ้างเล็กน้อย หรือจะดื่มน้ำร้อนผสมให้เป็นเอสเปรสโซก็ได้ค่ะ

 

 

 

---------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

 

ในภาพก็จะเห็นว่าน้ำกาแฟน้อยมากๆ และมีสองแก้วค่ะ ดูให้ออกนะคะว่าอันไหนส่วนแรกส่วนสอง เพราะถ้าดื่มสลับกันจะเสียอรรถรสไปพอสมควร แต่ริสเตรทโต้อาจจะไม่เท่าไหร่ แต่ถ้าเป็นริสเตรทโต้ แล้วมาลาตเต้ ลาตเต้ของคุณจะไม่ต่างอะไรกับน้ำเปล่าเลยล่ะค่ะ

 

 

 

--------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

 

 

เราอยู่ที่เชียงใหม่ห้าวัน แต่ใช้เวลาที่ดอปปิโอริสเตรทโต้ไปถึงสามวันเพื่อกาแฟเชียวค่ะ

 

 

อย่างที่ทราบกันตามนิตยสาร, เว็บไซต์ หรือรายการทางโทรทัศน์อยู่แล้วนะคะว่าร้านดังแห่งนี้ มีบาริสต้าเป็นคุณต๋องที่มีดีกรีเป็นแชมป์บาริสต้าสายศิลปะบนฟองนมกาแฟอันดับ 6 ของโลกด้วย ดังนั้นคนที่มาดื่มก็อยากเห็นลีลาการชงกาแฟอยู่ที่โต๊ะเป็นเรื่องธรรมดาจริงไหมคะ เลยพูดเรื่องอื่นที่เกี่ยวข้องดีกว่า

 

อย่างที่เห็นในภาพนี้ คือเมนู "แฟลตไวท์มอคค่าจาวา" ปกติแล้วต้องเป็นเมล็ดกาแฟอีกพันธุ์หนึ่ง แต่ทางร้านใช้อีกพันธุ์หนึ่งที่มีรสชาติใกล้เคียงกันค่ะ ลวดลายสวยงามทีเดียว

 

การทำลวดลายลาตเต้อาร์ทของบาริสต้าจะมีสองแบบ คือแบบเทนม หรือ ฟรีพูร์ (Free Pour) และ แบบวาดเอา (Etching) ค่ะ ที่ยากที่สุดต้องเป็นแบบเทนมเหมือนในภาพนี้ เพราะการเทนมมันจะทำให้กาแฟอุณหภูมิลดลงอย่างต่อเนื่องและต้องจบลายทันทีเมื่อกาแฟเต็มแก้วค่ะ จึงเป็นการวัดความสามารถส่วนบุคคลของบาริสต้าคนนั้นได้เลยทีเดียวค่ะ

 

แต่อย่างคุณต๋องเราว่าน่าจะสบายๆเลยล่ะค่ะ ขอให้เขาวาดลายตาไซกังนัมยังได้เลยนะคะ

 

 

 

 

 

------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

 

เราดื่มกาแฟกันจนคนในร้านท่าทางตกใจมาก เพราะไล่ตั้งแต่เมล็ดกาแฟทวีปอเมริกากลางไปจนถึงแถบเอเชีย สุดของเมนูเลยทีเดียว และเป็นดอปปิโอริสเตรสโต้ทั้งหมดค่ะ

เมล็ดกาแฟที่เทสนั้นก็จะเริ่มไปตั้งแต่ กัวเตมาลายันปาปัวนิวกินีเลยค่ะ แถมด้วยเบลนด์อีกต่างหาก แต่การทำแบบนี้ถือว่าเสี่ยงที่จะไม่ได้รับรสชาติที่แท้จริงของเมล็ดกาแฟนะคะ ต้องดื่มไปสลับน้ำร้อนไป สลับขูดลิ้นไป 55

คุณต๋องบอกว่าเพราะน้ำร้อนไม่สามารถที่จะล้างรสชาติของริสเตรทโต้แก้วเก่าออกไปได้หมด ความเข้มข้นสูงมาก ถ้าจะเทสให้ได้อรรถรสก็จะต้องเทสแบบลองแบล็คจะดีกว่า ค่อยๆดื่มไป ริสเตรทโต้มันเหมือนสาดน้ำร้อนใส่ผนังเย็น มันมาเต็มทีเดียวเลย ถ้าไม่แน่จริงอยู่ไม่ได้ (ประโยคหลังเพิ่มเองนะคะ อิอิ)

วันต่อมาเราก็เลยเทสลองแบล็คต่อซะเลย เลยพอจะทราบความแตกต่างว่าถึงแม้จะเจือจางด้วยน้ำร้อนในปริมาณที่มากขึ้น ทุกอย่างในกาแฟก็ไม่ได้หายไปเลย แถมยังเย็นช้ากว่า เพราะการดื่มกาแฟที่ดีที่สุดต้องดื่มตอนร้อนๆค่ะ

แต่เราก็ยังแย้งกันอยู่ว่าถ้าดื่มลองแบล็คกว่าจะครบทุกสายพันธุ์สงสัยอิ่มน้ำกันก่อน เพราะแก้วใหญ่มาก ก็เลยคิดว่าชอบแบบริสเตรสโต้อยู่ดี เพราะจัดเจ็มกว่า สนุกกว่า ส่วนวันหน้าถ้าจะชิลล์ก็จะค่อยลองแบล็คดีกว่าค่ะ

 

 

 

--------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

 

ด้วยความสงสัยระหว่างเรากับกาแฟ ก็เลยถามคุณต๋องเกี่ยวกับ Food Pairing ของกาแฟค่ะ

ปกติแล้วเราทานเนื้อหนักมันก็ต้องคู่กับไวน์หนักๆ เนื้อเบากับไวน์เบาใช่ไหมคะ แถมเข้าออกสตาร์บั๊คส์กันเป็นว่าเล่น เคยดื่มเอสเปรสโซ่แบบ Dark Roast กับวาฟเฟิลคาราเมลแล้วมันรู้สึกเข้ากันดีก็เลยสงสัย แต่คุณต๋องแกบอกว่าอันนี้ก็ไม่แน่ใจเหมือนกัน แต่แนะนำให้สูบบุหรี่กับดื่มกาแฟแทนค่ะ จะหวานคอดี ดูพูดสิ

 

สรุปจากตาดอส(ที่มาด้วย) เขาก็บอกเราว่าต้องดูที่เนื้อน้ำและกลิ่นกาแฟค่ะ โดดเด่นที่อะไรให้คู่กับสิ่งนั้น บางทีมันอาจจะคู่กับขนมที่มีชีสเป็นส่วนประกอบ หรือพวกช็อกโกแลต คาราเมล ต้องดูกลิ่นควบคู่กันไป คั่วระดับไหนอะไรยังไง วุ่นวายไปหมด ดื่มเพียวๆดีกว่า ฮิฮิ

แต่อย่างหนึ่งที่รู้ก็คือขนมที่นี่ทำเองแล้วก็อร่อยมากค่ะ พวกแซนด์วิซหรือวาฟเฟิลทาวเวอร์อย่างในรูป ช็อกโกแลตขาวทานกับริสเตรทโต้ที่ให้สางของช็อกโกแลตในไกด์ก็โอเคดีค่ะ

 

 

 

--------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

 

ภาพสุดท้ายนี้ถ่ายไว้เมื่อต้นปี 55ค่ะ รอบที่ผ่านมาไม่ได้ถ่ายเลยค่ะ เมากาแฟกัน

สัปดาห์นี้ถึงจะไม่เที่ยวที่ไหนเลยเพราะตะลุยกันแต่ร้านอาหารแต่การได้รีวิวร้านกาแฟจริงๆจังๆ (ในเว็บบล็อก) ก็สนุกมากทีเดียวค่ะ รู้ว่าคนไทยเราเก่งๆก็มีมาก ช่วงที่ไม่มีคนก็มีโอกาสคุยกับคุณต๋อง เขาก็เฟรนด์ลี่ดีมาก อาจจะเป็นเพราะเซ็งที่เรานั่งกันนานด้วยหรือเปล่าก็ไม่รู้เลยต้องทำอะไรสักอย่าง ^^'

กาแฟเป็นอะไรที่เราเข้าถึงกันได้ง่ายมากนะคะในทุกวันนี้ เห็นร้านแบบนี้แล้วก็อดภูมิใจไม่ได้เหมือนกันว่าคนไทยเรามีคนระดับโลกแบบนี้อยู่ แล้วก็อายุน้อยด้วย

 

ขอให้ร้านเจริญรุ่งเรืองต่อๆไปแล้วกันค่ะ จบละ อิอิ

 

 

ถ้าอยากอ่านบทความเต็มๆ ลองค้นดูในกูเกิ้ลว่า "ดอปปิโอริสเตรทโต้" ของ duorecommend ดูนะคะ น่าจะละเอียดยิบกว่านี้มากเลยว่าสามวันที่ผ่านมาเจออะไรบ้าง กาแฟเป็นยังไง

 

 

Discussion (8)

น่าไปมากค่ะ เพราะว่าคนชงกาแฟหล่อ เอ๊ยยย กาแฟน่าอร่อย (>_<) 

ขนมก็อร่อย ไม่แพ้กาแฟค่ะ 

น่าไปมากค่ะ กาแฟ และขนมน่าทานมากจ่ะ

คุณต๋องยิ้มแย้มอัธยาศัยดีมากเลยค่ะ ถ้าสั่งกาแฟที่ต้องเทนม คุณต๋องจะมาทำให้ดูที่โต๊ะค่ะ ตอนไปที่ร้านครั้งแรกสุดเราตื่นเต้นมาก กรีดร้องในใจอย่างก้องกังวาล พ่อค้าแซ่บมว๊ากกกส์ 

ชอบพ่อค้าแซ่บบอกเลย <3

55555555 จะไปชิมให้ได้