แชร์ประสบการณ์น้ำมะเขือเทศดอยคำ
kawitapoolsuan519เราเป็นคนหนึ่งที่หมดตังค์ไปกับอาหารเสริมหลายบาท ตังค์แต่แพงถึงราคาย่อมเยาว์ กินทุกอย่างไม่ว่าจะเป็นกลูต้า ViC หรือสมุนไพร บลาๆๆๆ ก็ไม่ได้ผลที่น่าพึงพอใจเลย แต่วันนี้จะมาแชร์ประสบการณ์หลังจากกินน้ำมะเขือเทศดอยคำค่ะ
เรากินน้ำมะเขือเทศดอยคำมาได้ประณครึ่งปีแล้ว กินเดือนละ 16 กล่องใหญ่ (เยอะมากกก)
ก็ประมาณวันละ 1 แก้วสูงอ่ะค่ะ ตอนแรกๆก็กลืนไม่ลงเหมือนกัน พอกินไปรู้สึกชินค่ะ วันไหนไม่กินจะรู้สึกว่าผิวไม่ได้รับการบำรุง ขาดความมั่นใจมากกก หลังจากกินมาได้ซักพักผิวเราก็เริ่มดีขึ้น!!! ผิวดูเนียนละเอียด ดูสุขภาพดี ใสมาจากข้างในค่ะ เราตั้งใจว่าจะไม่กินอาหารเสริมอีกเลย ขอกินน้ำมะเขือกเทศไปตลอดชีวิตเลย!!!
สำหรับเพื่อนๆคนไหนที่กำลังคิดจะกินอาหารเสริม กลูต้าอะไรพวกนี้ สำหรับเราเราว่าไม่ขาวนะค่ะเรากินมาหลายแบบ หลายยี่ห้อมากกก แถมเปลืองตังค์อีกต่างหาก เราแนะนำให้เพื่อนๆลองน้ำมะเขือเทศดอยคำค่ะ แต่ต้องใช้เวลาเล็กน้อยนะค่ะ รับรองว่าผลลัพธ์ออกมาพึงพอใจทีเดียวค่ะ
อดทนกินทุกวัน เพื่อความสวยค่า~~~
Discussion (19)
เราก็เป็นอีกคนที่พึ่งเริ่มมาทานน้ำมะเขือเทศ ดอยคำ
เพราะอ่านเจอรีวิวจากในเนตค่ะ
ทานเดือนละ 17 กล่องใหญ่ ^^
พื้นเพ ผิวขาวเหลือง เห็นเส้นเลือดชัดเจนมาก
อยากผิวขาวอมชมพู สุขภาพดี
ปกติทาครีมบำรุงเป็นประจำไม่เคยขาดอยู่แล้วค่ะ
แต่ก็ยังไม่พอใจ เพราะมันไม่ชมพูอ่ะ เลยซื้อมาทาน ตามนี้ค่ะ
เช้าตื่นนอน 1 แก้ว 200 ml
ก่อนนอน 1 แก้ว 200 ml
โรยเกลือตามชอบค่ะ
** 1 กล่องใหญ่ ทานได้ 3.5 แก้ว นะคะ (แก้ว 200 ml)
ทานไปแค่ 3 วันก็จะสังเกตเห็นแล้วค่ะ ว่าผิวเปลี่ยนไปในทางที่ดีขึ้น เนียนขึ้น ชมพูขึ้น
ทานอาหารเสริมควบคู่เป็นวิตามิน ซี กับ บีรวมค่ะ ทาครีมบำรุง ทาครีมกันแดด ห้ามขาด!!
อยากแนะนำให้ทานกันเยอะๆค่ะ เพราะดีกว่าทานอาหารเสริม หมดเงินไปเยอะ แต่ไม่ได้ผลเท่านี้หรอกค่ะ อันนี้ได้สุขภาพด้วยนะคะ
ขอบคุณมากค่า
หนูก็เป็นอีกคนที่เกลียดน้ำมะเขือเทศมากๆๆ
แต่พอมาอ่านเจอกระทู้นี้ หนูคงต้องอดทนแล้ว > <~!!
ในทางการแพทย์พบว่ามีการนำกลูตาไธโอนมาทดลองใช้ในการรักษาโรคต่างๆ ซึ่งยังไม่ได้รับการอนุมัติข้อบ่งใช้จากองค์การอาหารและยา เช่น ภาวะเป็นหมันในเพศชาย ปลายเส้นประสาทอักเสบ มะเร็งกระเพาะอาหาร หรือมะเร็งต่อมลูกหมาก วิธีการรักษามักทำโดยการฉีดเข้าทางหลอดเลือดดำหรือเข้าที่กล้ามเนื้อ
ผลข้างเคียงอย่างหนึ่งที่น่าแปลกใจ คือ ผู้ป่วยที่ได้รับการรักษาด้วยการฉีดกลูตาไธโอนนั้นมีสีผิวที่ขาวขึ้น เนื่องมาจากกลูตาไธโอนสามารถยับยั้งเอนไซม์ไทโรซิเนส (tyrosinase) ได้ และส่งผลให้เม็ดสีของผิวหนังเปลี่ยนจากเม็ดสีน้ำตาลดำเป็นเม็ดสีชมพูขาว ด้วยเหตุนี้เองจึงมีผู้พยายามนำผลข้างเคียงของยามาใช้ในการทำให้ผิวขาวขึ้น ซึ่งนับได้ว่าเป็นการนำยามาใช้ในทางที่ผิดอีกรูปแบบหนึ่ง
ผลิตภัณฑ์กลูตาไธโอนที่พบในท้องตลาดส่วนใหญ่นั้นเอยู่ในรูปยาเม็ดหรือผงละลายน้ำสำหรับรับประทาน ซึ่ง กลูตาไธโอนนี้สามารถถูกทำลายได้ในทางเดินอาหารของมนุษย์ ดังนั้นประโยชน์ที่จะเกิดขึ้นจากการรับประทานกลูตาไธโอนในรูปแบบของยารับประทานนั้นแทบจะไม่มีเลย ที่ผ่านมาจึงพบว่ามีผู้พยายามนำกลูตาไธโอนในรูปแบบยาฉีดมาใช้แทนการรับประทานกันมากขึ้น เนื่องจากเชื่อว่ากลูตาไธโอนชนิดฉีดนั้นมีประสิทธิภาพในการทำให้ผิวขาวได้ดีกว่าและเห็นผลเร็วกว่ากลูตาไธโอนชนิดรับประทาน
ข้างเคียงที่น่ากลัว คือการฉีดยาเข้าเส้นเลือดดำ มีโอกาสที่จะแพ้ได้ ทั้งการแพ้สารกลูต้าไธโอน เอง หรืออาจจะแพ้ สารฆ่าเชื้อ หรือ สารกันเสีย หรือสารปนเปื้อน ขณะนี้มีรายงานในต่างประเทศว่าผู้ ที่ได้รับการฉีดกลูต้าไธโอนขนาดสูงที่ใช้กันอยู่มีอาการช็อค ความดันต่ำ หายใจไม่ออก และเสียชีวิตได้ ถ้าไม่ได้รับการช่วยเหลืออย่างทันท่วงที
ทว่า..ที่สำคัญการฉีดกลูต้าฯเข้าเส้น เป็นการกระทำที่ผิดกฎหมาย!