~ รีวิว +Haul อีกแล้ว ~ : Cartice ทั้งหมดที่มี ละเอียดยิบๆๆ

สวัสดีค่ะ กลับมาแล้ววววววว ~ มีคนจำเธอได้ด้วยหรอออ !!!  - - "  วันนี้ลิคท์จะมาเปิดถุง ของที่ได้มาจากร้าน อีฟแอนบอย ครั้งที่ 3 (พักแล้วคงไม่ซื้ออีกยาวเลย) พร้อมรีวิวแบรนด์ Cartice กับ Essence
ในบางอย่างที่ได้ซื้อมาลองใช้  (เราคลั่งแบรนด์นี้มาก ราคาน่าคบ กิกิ)
พร้อมกับของอื่นๆๆที่ซื้อมาจากร้านอีฟแอนบอยครั้งที่ 3   และ 

ของที่ใช้มาสักพักแล้วอยากมาบอกต่อ (ซึ่งเราถ่ายรูปดองไว้นานแล้ว ครานี้แลที่จะได้เอามาแชร์เพื่อนๆ สักที
รอมานาน ฮิ้ววว)  - -"

~ ก่อนอื่นที่จะรีวิว ขอเกริ่นนิดนึงงงจ้า ~  

*** ทุกอย่างที่เราเขียนมาจากความคิดเห็นส่วนตัวเราทั้งหมดนะค่ะ ยังไม่ต้องเชื่อเราหมดใจ อยากให้ไปลองด้วยตัวเองก่อนนะเราแค่อยาก ช่วยแชร์ในสิ่งที่เรารู้สึก เพื่อจะได้ง่ายขึ้นต่อการตัดสินใจซื้อของเพื่อนๆ บางคนอาจจะลังเลกับผลิตภัณฑ์ตัวไหนอยู่  ก็หวังว่าจะช่วยเพื่อนๆได้้บ้างนะค่ะ ***

** ทั้งหมดที่เราใช้บางสิ่งถูกใจเราบ้างไม่ถูกใจบ้าง  แต่เพื่อนๆบางคนอาจเคยใช้แล้วชอบไม่ชอบ 
ยังไงก็ไปลองเล่นๆดูก่อน ค่อยซื้อทีหลังก็ไม่สายนะจ้ะ **

* ในบางภาพเราจะเบลอชื่อลายเซ็นในภาพ เพราะภาพเราทำไว้สำหรับลงบล๊อคด้วยจ้ะ *

** อันนี้คลิปเปิดถุง จากร้าน Eveandboy ครั้งที่ 3 (คิดว่าพักซื้อยาวละใครชอบดูเปิดถุงก็จัดไปจ้า ***

 

เราชอบซื้อของ Drugstore มากกก หาของที่ราคาคุ้มค่าแต่มีคุณภาพใช้ได้อยู่ตลอดเวลา
------- เริ่มกันที่ แบบวีดีโอก่อน อันนี้ รีวิว Cartice ทั้งหมดที่ซื้อมาใช้ค่ะ -------  ซึ่งในเปิดถุงมีแอบได้มาเพิ่ม ชิ้น สอง ชิ้น ฮ่าๆ 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

 

-- ตัว จขกท. มีสภาพผิวแห้ง มันนิดหน่อยช่วงทีโซนจ้ะ --

*** เริ่มรีวิว Cartice ก่อนเลย ***   

1. Allround Concealer - Concealer Palette/ Palette multi - correcteurs

 

 

พาเลทคอนซีลเลอร์ตัวนี้จะมีทั้งหมด 5 สี 
1.Green - สำหรับปกปิดรอยแดง
2.Pink - ปกปิดรอยคล้ำใต้ตา
3.Beige - ปกปิดรอยที่ไม่ต้องการ
4.Beige - แก้ไขจุดต่างๆ
5.Rosa - เอาไว้เป็นเบสอายชาโดวน์

* ถ้าแปลจากด้านหลังผลิตภัณฑ์ไม่ผิดนะจ้ะ ภาษาเยอรมันผสมด้วย แอบงง *

เราใช้หมดครบทุกสีแล้ว ชอบแพคเกจของเค้าทำมาให้เราใช้ได้ครอบคลุมในพาเลทเดียว
เนื้อนุ่ม เกลี่ยง่าย เนื้อมีความเป็นแป้งผสมอยู่ในตัวคอนซีลเลอร์ด้วย ปกปิดปานกลางไม่ได้มากอะไร ใช้แล้วยังเห็นรอยแพนด้าอยู่บ้าง
ปกปิดรอยสิว ผิด เล็กๆ ได้แค่ปานกลาง รอยดำมันปิดเอาไม่อยู่ ทุกสีสามารถนำมาผสมให้เข้ากับสีผิวหรือ
สภาพปัญหาของแต่ละคนให้ใกล้เคียงได้นิดหน่อย ถ้าให้บอกว่าชอบสีไหนในพาเลท
ชอบสีเบจ เพราะเราชอบเอามาปกปิดทับคอนซีลเลอร์อีกที ทำให้ใต้ตาดูสดใสขึ้น  และสามารถนำมาทำเป็นไพรเมอร์ก่อนการ
แต่งตาเพื่อให้สีติดทนขึ้นอีกด้วย  

ใช้แล้วระหว่างวันไม่ได้เยิ้มหรือไหลอะไร มีตกร่องนิดหน่อย แล้วเนื้อค่อนข้างจะแห้งไว ต้องรีบเกลี่ยหน่อยนะ

ข้อดี
1.มีครบทุกสี ในพาเลท ใช้ได้ครบหลายปัจจัย
2.นำมาทำเป็นไพรเมอร์ก่อนลงอายชาโดวน์ได้ชอบ
3.เนื้อนุ่ม เกลี่ยง่าย แห้งไว  กลืนไปกับผิวเลย คิดว่าผิวมันก็ใช้ได้นะ
4.ราคาไม่แพง คุณภาพปานกลาง สมเหตุสมผลละ

ข้อเสีย
1. ปกปิดไม่ได้มากมายอะไร ปานกลาง
2. ระหว่างวันมีไหล ตกร่องนิดหน่อย
3. รอยคล้ำใต้ตา ยังเห็นอยู่ ถ้าใครใต้ตาคล้ำมากๆ ตัวนี้คงไม่ใช่คำตอบ
4. ผลิตภัณฑ์ต้องใช้นิ้วแตะอยู่ตลอด จำทำให้เนื้อครีมมีความสกปรกและคุณภาพเสื่อมไวได้ 
แนะนำเวลาใช้หาคอตตอนบัตมาจุ่มอีกที ช่วยยืดอายุการใช้งานได้อีก
ซื้อต่อไหม :อาจจะ
สรุป : B

ซื้อได้ที่ไหนบ้าง : eveandboy, Loft, ดรักสโตว์บางที่ก็มีขายแล้ว
ราคา : Allround Concealer - Concealer Palette/ Palette multi - correcteurs (162฿)
ปริมาณ : 6 กรัม

------------------------------------------------------------------------------

2. Cartice sun glow matt bronzing powder : darker skin #020 deep bronze

 

 

 

เป็นบรอนเซอร์เนื้อนุ่ม เนื้อแมทแบบฝุ่น ทำให้แต่งแล้วได้ลุคผิวแทนที่เป็นธรรมชาติ มีส่วนผสมของวิตามิน A และ E 
เหมาะกับทุกสีผิว เราชอบเพราะเนื้อมันนุ่มจริง สีเข้ม ชัดเจน ใช้นิ้วแตะทีเดียวสีก็ออกแล้ว เกลี่ยง่าย ปัดง่าย ติดทนตลอดวัน
มีกลิ่นหอมหน่อยๆ ปลื้มมสุดๆ

นำมาทำได้หลายอย่าง จะเชดดิ้ง แก้ไขรูปหน้า อยากให้จมูกโด่ง แก้มเรียวได้รูป หรือนำมาปัดทั่วหน้าเบาๆให้ผิวดูแทนๆก็สวย
เซ็กซี่ไปอีกแบบ ลายแป้งที่เค้าทำออกมาสวยดีชอบ แพคเกจจะเป็นตลับใสๆ สามารถทำให้เราเห็นสีแป้งชัดเจนว่าสีอะไร
แต่มีข้อเสียคือใช้ไปสักพัก แพคเพจจะเป็นรอยอะไรมากมาย ทำเอาไม่สวยเหมือนกัน 

ข้อดี
1. สีสวย ให้สีที่ชัดเจน
2. แป้งเนื้อนุ่ม เกลี่ยง่าย ปัดง่าย
3. ติดทนตลอดวัน 
4. ไม่มีชิมเม่อร์ผสมเลย เนื้อแมทจริงๆ เชดดิ้งไม่แนะนำให้มีชิมเม่อนะจ้ะ
5. ให้ลุคเป็นสาวผิวสวย แทน ดูสุขภาพดี เป็นธรรมชาติ ข้อนี้ชอบมาก เพราะเราผิวแทน ฮ่าๆๆ
6. ราคาน่ารัก เราชอบสะสมบรอนเซอร์มาก >,,<

ข้อเสีย
1. สีมันค่อนข้างเข้มปานกลาง เวลาปัดใช้แปรงแตะเบาๆพอนะ ค่อยๆปัดก็สวยแล้วจ้า ไม่ต้องลงหนักมือเน้อ
2. แพคเกจ ใช้ไปนานๆจะเป็นรอยที่ฝา มันไม่สวยงะ

ซื้อต่อไหม :แน่นอน
สรุป : A+

ซื้อได้ที่ไหนบ้าง : eveandboy, Loft, ดรักสโตว์บางที่ก็มีขายแล้ว
ราคา : Cartice sun glow matt bronzing powder : darker skin  (ราคาหาใบเสร็จไม่เจอเด๋วมาบอกใหม่นะ)
ปริมาณ : 9.5 กรัม

 

 

-------------------------------------------------------------

3. Cartice : skin finish compact powder #050 caramel beige

 

 

ด้านหลังผลิตภัณฑ์เค้าบอกมาว่าเป็นแป้งเนื้อแมทที่สะท้อนแสงกับผิวและช่วยให้ผิวหน้าของเรานั้นสดใสตลอดวัน เหมาะกับทุกโทนสีผิว
มีสูตรควบคุมความมันอีกด้วย  เราใ้ช้ตัวนี้แล้วปลื้มมาากกก ลืมแป้งของเมบาลีนไปเลย พอได้ใช้เจ้านี่ 
แป้งตัวนี้มันมีความปกปิดปานกลางใช้ได้ ไม่ได้ปกปิดมาก ทาแล้วสีเนียนกลืนไปกับผิวให้อารมณ์เหมือนแต่งหน้าไม่ได้แต่ง
ประมาณนั้นเลย ได้ลุคที่ธรรมชาติ ซึ่งเราชอบอยู่แล้ววว แป้งมีกลิ่นหอมดี ทาแล้วกลิ่นหอมเบาๆบนหน้า อิอิ 

เนื้อแป้งเกลี่ยง่าย บางเบา กลืนกับผิวเลย ทาแล้วหน้าดูสดใสขึ้น ผ่องๆ ไม่ได้ขาววอกนะ ทุกวันนี้ใช้แต่ตัวนี้ตลอด ปลื้มมากกก

ข้อดี
1. เนื้อบางเบา เกลี่ยง่าย กลืนเข้ากับผิว
2. เหมาะกับทุกโทนสีผิว
3. ได้ลุคธรรมชาติชอบ กลมกลืน ลงตัว
4. มีกลิ่นหอมอ่อนๆของแป้ง
5. ใช้แล้วหน้าตาสดใส ดูตื่นขึ้น ไบร้ท์แบบธรรมชาิติ
6. แพคเกจออกแบบมาให้เห็นสีแป้งข้างในชัดเจน

ข้อเสีย
1.ปกปิดปานกลาง ไม่ได้มาก แต่ถ้าปกปิดดีแต่ดูบางเบาธรรมชาติ นี่คงเริศกว่านี้แน่ๆ (ราคาเท่านี้ได้แค่นี้ก็โอเคละ)ฮ่าๆ
2. แพคเก็จเป็นแบบใส หน้าฝาถ้าใช้ไปนานๆจะเป็นรอย ทำเอาไม่สวยเลย
3. เวลาเปิดฝา จะฝืดนิดนึง

ซื้อต่อไหม :แน่นอน
สรุป : A+

ซื้อได้ที่ไหนบ้าง : eveandboy, Loft, ดรักสโตว์บางที่ก็มีขายแล้ว
ราคา : cartice : skin finish compact powder  (ราคาหาใบเสร็จไม่เจอเด๋วมาบอกใหม่นะ)
ปริมาณ : 10 กรัม

-----------------------------------------------------------------

4. Cartice prime and fine translucent loose powder

 

 

 

 

 

เป็นแป้งโปร่งแสง มีเนื้อแป้งเป็นสีขาว ไม่มีชิมเม่อร์ มีกลิ่นคล้ายๆแป้งมันนิดนึง  - - แป้งตัวนี้ช่วยเซ็ทเครื่องสำอางค์ทั้งหมด
เป็นขั้นตอนสุดท้ายหลังแต่งหน้า ดูดซับความมันของหน้าและเนื้อครีมต่างๆ เช่นรองพื้น ช่วยให้เครื่องสำอางค์ติดทนและควบคุมความมัน
ระหว่างวันไม่ให้สีเครื่องสำอางค์ที่เราแต่งไว้ หลุดหรือจางออกจากผิว ข้างหลังยังเขียนอีกว่ายังช่วยให้ผิวนุ่ม ดูสดใสอีกด้วย

เราใช้แล้วชอบนะตัวนี้ ขั้นตอนนี้เราว่าสำคัญเพราะจะช่วยเซ็ทเครื่องสำอางค์ทั้งหมดที่เราแต่งไว้ให้อยุ่นาน ติดทนตลอดวัน เราหน้าแห้ง
จะไม่ค่อยมีปัญหานะหน้ามันระหว่างวันเท่าไร น้อยมากกก แต่แนะนำถ้าใครหน้ามันควรใช้หลังแต่งหน้าเสร็จนะจ้ะ 
ช่วยได้จริงๆหน้าจะได้ไม่มันระหว่างวันนะ  

พอเราได้ใช้แล้วระหว่างวันสีหน้าเราก็คงทนเหมือนเดิม เราไม่เคยเติมแป้งระหว่างวันเลย เพราะจะแต่งทีเดียวตอนเช้าคือจบ ไม่ทาอะไรซ้ำ
อย่างมากก็แป้งเด็กธรรมดา กับลิปมัน ลิปสติก แค่นี้เลย สีรองพื้นไม่เปลี่ยนสี ติดยังไงก็ยังงั้น 

เวลาใช้ก็หาแปรงสักอันทรงพุ่มๆ ปัดแป้ง หรือ แปรงคาบูกิ ใช้นิดเดียว บัฟๆให้ทั่วหน้าก็พอแล้ววว พร้อมสวยออกจากบ้าน อิอิ

ข้อดี
1. เนื้อแป้ง นุ่ม ไม่มีชิมเม่อร์
2. ดูดซับความมันได้ดี ระหว่างวันหน้าไม่หมองเลย
3. เครื่องสำอางค์ติดทน สีรองพื้นไม่เปลี่ยน ไม่จาง 
4. เหมาะกับทุกสีผิว เพราะเป็นแป้งโปร่งแสง
5. ปริมาณเยอะพอสมควรเมื่อเทียบกับเวลาใช้ ใช้นิดเดียวเอง
6. คุณภาพ คุ้มเกินราคาจริงๆ เลิฟๆๆ

ข้อเสีย
ยังหาไม่เจอ ชอบบบบ ฮ่าๆๆ

ซื้อต่อไหม :แน่นอน
สรุป : A+

ซื้อได้ที่ไหนบ้าง : eveandboy, Loft, ดรักสโตว์บางที่ก็มีขายแล้ว
ราคา : Cartice prime and fine translucent loose powder  (255฿)
ปริมาณ : 11 กรัม

 

----------------------------------------------------------------

5. Cartice prime and fine smoothing refiner

 

 

 

ไพรเมอร์ตัวนี้ใช้ลงก่อนการแต่งหน้า เพื่อแก้ไขปัญหาต่างๆบนผิวหน้าก่อนการแต่งหน้า  ช่วยปกปิด รูขุมขนต่างๆ ผิวไม่เรียบเนียน
ช่วยให้แต่งหน้าง่ายขึ้นและเครื่องสำอางค์ติดทนขึ้น  เนื้อครีมสีชมพูอ่อนๆ เนื้อนุ่ม เกลี่ยง่าย ทาลงผิวกลืนและซึมลงผิวทันที เหมือน
มีอะไรเคลือบผิวไว้อีกชั้นนึงแต่ไม่ใช่แบบซิลิโคนนะ  ครีมแห้งไว ไม่ทิ้งร่องรอย เนื้อไม่มีความมัน 
ใช้แล้วไม่ทำให้ผิวมันขึ้น เหมาะกับทุกสภาพผิวเลย 

เราใช้ตัวนี้มาสักพัก ชอบมากๆประทับใจครั้งแรกก็เนื้อครีมของเจ้าตัวนี่ ซึมและกลืนลงผิวไวมาก วนๆบนผิวแปบเดียว เราจะลงหลังการบำรุงและก่อนการแต่งหน้า ไม่ต้องทิ้งไว้สักพัก เพราะซึมเข้าผิวไวมาก สามารถลงรองพื้น เบสต่างๆในขั้นตอนต่อไปได้เลย 

ส่วนตัวผิวเราไม่ได้มีรูขุมขนอะไรเลย แต่ที่รู้สึกคือแต่งหน้าง่ายขึ้น และเครืองสำอางค์ติดทนขึ้น เราว่าทุกอย่างมีหลายปัจจัย
ในการที่เราจะแต่งหน้าให้สวย ติดทน ก็ต้องเลือกใช้ผลิตภัณฑ์ให้ถูกชนิด และ ตรงตามเป้าหมายของเราด้วยนะ  เราคิดแบบนั้น

เวลาใช้ให้เน้นใช้เฉพาะจุดที่มีปัญหา ไม่จำเป็นต้องลงทั่วหน้านะค่ะ แต่ถ้าใครอยากลงทั่วหน้าก็ได้เช่นกันค่ะ

ข้อดี

1. เนื้อครีม สีน่ารัก (ฮ่าๆเกี่ยวไหม เราชอบสีชมพูมาก) เนื้อครีมเกลี่ยง่าย ซึมเข้าผิวไว 
2. เนื้อครีมไม่ทิ้งความมันบนผิวหน้า 
3. เนื้อนุ่ม น่าสัมผัสมากก
4. เหมาะกับทุกสภาพผิว ใครที่มีปัญหารูขุมขนแนะนำ ลองใช้ดูนะ อาจจะช่วยให้ผิวหน้าคุณแต่งหน้าง่ายขึ้นนะค่ะ
5. ใช้แล้วแต่งหน้าง่ายขึ้น เครื่องสำอางค์ติดทน
6. แพคเกจเป็นกระปุกพลาสติกใส แต่มีคุณภาพ น้ำหนักเบา
7. ปริมาณเยอะพอสมควร ใช้ทีก็นิดเดียว เฉพาะจุด

ข้อเสีย
1. เป็นแบบกระปุก ใช้นิ้วแตะ ความสกปรกจากนิ้วเรา อาจทำให้ครีมเสื่อมคุณภาพไว แนะนำหา ช้อนกาแฟเล็กๆหรือคอตตอนบัตเวลาใช้นะจ้ะ

ซื้อต่อไหม :แน่นอน
สรุป : A+

ซื้อได้ที่ไหนบ้าง : eveandboy, Loft, ดรักสโตว์บางที่ก็มีขายแล้ว
ราคา : Cartice prime and fine smoothing refiner  (230฿)
ปริมาณ : 14 กรัม

 

 

-------------------------------------------------------------------------------

6. Nail Ultimate

 

 

 

ชอบสีทาเล็บของแบรนด์นี้เพราะว่าค่อนข้างแห้งไว และโดยส่วนตัวเราไม่ได้ชอบทาเล็บเลย
แต่เห็นสีของเค้าแล้วอดที่จะซื้อมาลองเล่นไม่ได้ เรามีทั้งหมด 3 สี

1.Ultimate Nail Lacquer #490 Iron Mermaiden

สีนี้จะเป็นสีเคลือบๆ ใสๆวาวๆ มีเหลือบๆสีม่วง เขียว ทอง มีชิมเม่อผสมด้วย ชอบ

2. Ultimate Nudes #090 Karl Says Tres Chic

โทนนู้ดแบรนน์นี้สวยมาก สีนี้จะนู้ดแบบชมพู สวยชอบๆๆๆ

3. Ultimate Nudes #070 Same Seine Different  สีนี้ชอบสุด

เป็นนู้ดที่เหมือนเราไม่ได้ทาเล็บเท่าไร คล้ายๆจะเป็นสีเดียวกับเล็บเรา ชอบเลยย  
ทาแล้วเล็บดูสุขภาพดีเลยแหละ

ข้อดี
1. แห้งไว  
2. สีสวย มีให้เลือกเยอะมาก
3. แพคเกจสวยดูมีคุณภาพ 

ข้อเสีย
ยังไม่มีนะ

ซื้อต่อไหม :อาจจะ ไม่ได้ชอบทาเล็บอะ
สรุป : A

ซื้อได้ที่ไหนบ้าง : eveandboy, Loft, ดรักสโตว์บางที่ก็มีขายแล้ว
ราคา : Nail Ultimate r  (ขวดละ120฿)
ปริมาณ : 10 ml.

 

---------------------------------------------------------------------------------------

7. Made to stay longlasting eyeshadow

 

 

 

 

เราซื้อมาลองก่อน 2 สี รู้สึกจะมี 4 สีมั้งถ้าจำไม่ผิดนะ

#060 Jennifer's Goldrush/ สีนี้เป็นสีทอง เหลือบๆ สวยมาก มีชิมเม่อสีทองละเอียด นำมาแต่งได้หลายลุค แตะเฉพาะกลางเบ้าตา
ก็ช่วยให้ดูตาสว่างและเซ็กซี่ด้วย ชอบมากสีนี้

#020 Romans Gone Bad  / สีนี้เป็นสีเทาเงิน มีชิมเม่อสีเงินละเอียดมาก นำมาแต่งโทนสโมกกี้อาย ได้ลุคสวย เซ็กซี่เลย
จะทาเดี่ยวๆ หรือ ทาเป็นเบสก่อนการลงอายชาโดวน์แบบฝุ่นก็ได้

เนื้อมีลักษณะเหมือน ครีมเบสอายชาโดวน์ทั่วไป เนื้อเกลี่ยค่อนข้างง่าย แห้งเร็ว ต้องรีบเกลี่ยนะ ไม่งั้นเดี๋ยวจะด่างไม่สวย 
มีความติดทนปานกลาง  นำมาแต่งตาเดี่ยวๆ หรือ เป็นเบสก่อนการแต่งตาก็ได้ เราใช้ทั้งสองแบบ 

ทาระหว่างวันมีเลือนออกบ้าง ช่วยให้การลงสีอายชาโดวน์แบบฝุ่นชัดขึ้น ติดทนขึ้นใช้ได้ แต่คิดว่า ของเมบาลีน tattooจะดีกว่าตัวนี้นะถ้าเทียบกัน

ข้อดี
1. สีสวย ทุกสีเลย ชอบ
2. เนื้อนุ่ม เกลี่ยง่าย
3. ช่วยให้การลงอายชาโดวน์แบบฝุ่นชัดขึ้น
4. ไม่เลอะระหว่างวัน
5. แพคเกจสวย ดูมีคุณภาพดี

ข้อเสีย
1. คิดว่าผิวมันอาจไม่เหมาะ เห็นบางคนใช้บอกว่ามีตกร่องระหว่างวัน (เราผิวแห้งไม่มีปัญหาตรงนี้)
2. สีเลือนออกระหว่างวันบ้าง ถ้าทาเดี่ยวๆนะ
3. เนื้อแห้งเร็ว บางทีเกลี่ยช้าอาจมีด่างนะ 

ซื้อต่อไหม :อาจจะ 
สรุป : B+

ซื้อได้ที่ไหนบ้าง : eveandboy, Loft, ดรักสโตว์บางที่ก็มีขายแล้ว
ราคา : Made to stay longlasting eyeshadow (162฿)
ปริมาณ : 5 กรัม

 

--------------------------------------------------------------------------------

8. Cartice : Precision lip liner

 

 

 

เรามีลิปไลเนอร์ของแบรนด์นี้ตอนนี้ทั้งหมด 4 สี ซึ่งรู้สึกเค้าจะมี 8หรือ9สีไม่แน่ใจ จะเป็นโทนนู้ดทั้งนั้นเลย

1. #010 Choc'aholic  / สีนู้ดอ่อนๆโทนชมพู สีนี้สีโปรดเราทาแล้วดูไม่ออกว่าทาขอบปาก เข้ากับสีปากเราดี
2.#050 Wood you?/ สีนี้จะนู้ดชมพูเข้มหน่อย ชอบบ
3.#030 Lost In The  /Rose Wood  /สีนี้จะนู้ดชมพูอมม่วงหน่อยๆ ชอบอีกอะ 
4.#020 Nude'Religion/สีนี้ออก ชมพูพีชๆ สวยมากๆๆ ชอบอีกแหละ ฮ่าๆๆๆ

ชอบไลเนอร์ของแบรนด์นี้เพราะว่า สีสวย โทนนู้ดแทบทั้งหมด นู้ดชมพู นู้ดอมส้ม นู้ดพีช นู้ดน้ำตาลชมพู (ชอบมากกก)
แพคเกจใ้ช้ง่ายแบบแท่งเล็กๆ หมุนๆเหมือนอายไลเนอร์ บางรุ่นของ revlon เนื้อนุ่มเขียนง่าย ไม่หักเลย 
กลบสีปากมิด ติดทนตลอดวัน ถ้าไม่ทานอะไรก็อยู่แบบนั้น (เราทาแล้วย้ำๆหลายรอบทาลิปสติกอีกหน่อยสวยเลย) 

ข้อดี
1. มีสีให้เลือกเยอะ โทนนู้ดหลากหลายแบบ
2. สีสวยทุกสี
3. เนื้อนุ่ม เขียนง่าย ไม่หักเลย
4. กลบสีปากมิด 
5. ติดทนตลอดทั้งวัน ทาย้ำๆๆ 
6. แพคเกจออกแบบมาใช้ง่ายๆ หมุนขึ้น หมุนลง
7. พกไปไหนก็ได้ น้ำหนักเบา ผอมดีๆ
8. ราคาน่ารักอะ

ข้อเสีย
หาไม่เจอเพราะสุดยอดจะปลื้มอะ

ซื้อต่อไหม :แน่นอนนนนนน
สรุป : A+

ซื้อได้ที่ไหนบ้าง : eveandboy, Loft, ดรักสโตว์บางที่ก็มีขายแล้ว
ราคา : Cartice : Precision lip liner (120฿)
ปริมาณ : 0.3 กรัม

---------------------------------------------------------------------------------

9. Cartice : Colour Infusion longlasting lipstain #030 Meet Mrs Rosevelt

 

 

 

 

อันนี้ขอแนะนำเลย ชอบเลิฟๆๆอีกอันนึง เป็นลิปสเตน ทิ้น สีสวย   มีทั้งหมด 5 สี
ซึ่งเราชอบสีนี้สุดแต่ให้พูดก็สวยเกือบหมดเลยนะ เพราะลองเล่นที่บู๊ทของเค้าละ  แต่ขอลองใช้อันนึงก่อน 

* ลักษณะแปรงที่ทาลงบนปากจะเป็นแบบฟองน้ำ กำมะหยี่ เวลาใช้ต้องเขย่าก่อนนะ สีจะได้ออก *
เวลาทา ทาทิ้นด้านในแล้วทาทับด้วยกลอสสีสวยที่ชอบ จะใสๆหรือมีสีอ่อนๆก็ได้ บางทีเราก็ทาทิ้นตัวนี้เดี่ยวๆ
กลิ่นหอมอะ ชอบ  แถมติดทนมากๆๆ สีไม่หลุด ไม่จางออกเลย ตอนเราเทสสีที่แขน กลับมาบ้าน เอาน้ำมันมะพร้าว ,หรือที่ล้างของเมบาลีน
รีมูฟเว่อของ บีโอเร ก็ไม่ออกนะ ยังคงมีสีติดอยู่จางๆ แบบเล่นเอาเราทูอยู่หลายรอบนะกว่าจะเลือน 

ใครชอบแต่งหน้า หรือทาปากไม่เยอะ ลุคใสๆ ธรรมชาติ แนะนำเลยนะอันนี้ เหมาะๆๆ 

ข้อดี
1. ติดทนมากๆ 
2. สีสวย ให้สีเป็นธรรมชาติ
3. มีแท่งนี้แท่งเดียว บางทีก็ไม่พกลิปสติกแล้ว
4. สีไม่จางระหว่างวัน ทาเช้ายันเย็นก็ยังอยู่
5. มีกลิ่นหอมแบบผลไม้ ชอบๆๆทาแล้วแอบเลียปาก แพลบๆๆ
6. มีสีให้เลือกเยอะดี
7. แพคเกจใช้ง่าย พกพาไปไหนก็ได้

ข้อเสีย
ไม่มีอีกแล้วววววชอบ หาไม่เจอ

ซื้อต่อไหม :แน่นอนนนนนน
สรุป : A+

ซื้อได้ที่ไหนบ้าง : eveandboy, Loft, ดรักสโตว์บางที่ก็มีขายแล้ว
ราคา : Cartice : Colour Infusion longlasting lipstain  (220฿ ประมาณนี้นะ ถ้าลดก็เหลือ 198-200 กว่าๆ)
ปริมาณ : 2.6 ml.

-------------------------------------------------------------------------------------

10. Cartice : Brilliant Lipgloss Limited Edition Bohemia

 

 

 

 

ลิปกลอสอันนี้เห็นเป็น ลิมิเต็ดอิดิชั่น นานแล้ว รุ่น โบฮีเมียน เค้าออกคอลลเล็คชั่นมาหลายอันเหมือนกัน
แต่เลือกลิปอันนี้มาแท่งเดียว เพราะชอบสีนี้ และเห็นว่าหมดไวก่อนสีอื่น แสดงว่าคนชอบกันเยอะ ฮ่าๆๆๆ 
เราไม่แน่ใจว่าบางสาขายังมีอยู่ไหม เพราะมันก็นานพอสมควรนะ คอลเล็คชั่นนี้

สีนี้จะเป็นกลอสออก น้ำตาลเข้ม ทอง มีชิมเม่อสีทองละเอียด ซึ่งสีสวยมากกก ทาสีนี้แล้วแต่งหน้าแบบแทนโกลวน์ๆนะเหมาะอะ
ดูเซ็กซี่มากๆ มีกลิ่นหอมนิดๆ ทาแล้วให้อารมณ์แบบ On the beach อาบแดด ผิวแทน บ่มแดด ประมาณนั้นเลย 

ลิปกลอสติดทนปานกลาง มีจางบ้างระหว่างวัน เนื้อเกลี่ยง่าย ไม่เหนียวเท่าไร กลบสีปากใช้ได้ เราเอาไว้ทาทับลิปสติกอีกทีมากกว่า
แนะนำใครที่มีผิวสีแทน หรือ ผิวน้ำผึ้ง เราว่ามันเหมาะมากกกกกกก อะ

ข้อดี
1. เนื้อเกลี่ยง่าย ไม่เหนียว เหนอะหนะ
2. สีสวยมากๆๆ ชอบ
3. เนื้อชุ่มชื่น ทาละปากนุ่มๆดี
4. มีชิมเม่อละเอียดดี ทาแล้วปากวิบวับ เซ็กซี่เบาๆ
5. ติดทนปานกลาง ไม่ซีเรียสเพราะจะทาลิปสติกให้แน่นไว้ก่อน ทาทับกลอสบางๆ
6. แพคเกจสวย คลาสสิกแบบโบฮีเมี่ยนดี

ข้อเสีย
1. ถ้าทานน้ำหรืออะไร บางทีก็หลุดละ
2. ต้องล้างให้สะอาดบางทีกลิตเตอร์ยังติดอยู่

ซื้อต่อไหม :ไม่ละ มันเป็นลิมิเต็ดจะหาซื้อจากไหนงะ
สรุป : B+

ซื้อได้ที่ไหนบ้าง : eveandboy, Loft, ดรักสโตว์บางที่ก็มีขายแล้ว
ราคา : Cartice : Brilliant Lipgloss Limited Edition Bohemia (220฿ ประมาณนี้นะ)
ปริมาณ : 5ml.

-----------------------------------------------------------------------------------------

11. Cartice : Lip Appeal Moisture & Shine smoothing lip gloss

 

 

ชอบลิปกลอสรุ่นนี้ของแบรนด์นี้นะ สีสวยทุกสี มีเฉดสีให้เลือกเยอะ เรามีตอนนี้ก็ 3 สีละ เลือกและตัดสินใจนานมาก
เอาสีอะไรดี สีนั้นก็สวย นี่ก็สวย ยืนงงอยู่เป็นชั่วโมง หุหุ  

1. #050 Naturally Pink  / ชมพูใสๆ สวยดี ไม่มีชิมเม่อ
2. #110 Knock on wood/ ชอบสีนี้สุด นู้ดน้ำตาล อมชมพู มีชิมเม่อเล็กๆน้อยมาก เลิฟฟฟฟ 
3. #130 Nell's Arms Are Strong/ กลอสสีใส เหลือบทองผสมชิมเม่อสีทอง 

มีความชุ่มชื่นเยอะมาก ทาแล้วไม่ทำให้ปากแห้ง หรือตกร่อง จะเคลือบปากเราไว้ ไม่ได้กลบสีปากเท่าไร
ไม่เหนียวเหนอะหนะ เนื้อมีความเข้มข้นปานกลาง  ติดทนปานกลาง ทานน้ำหรืออาหารก็หลุดละ 
เอาไว้ทาทับลิปสติกมากกว่า บางวันถ้าอยากง่ายๆก็ทาเดี่ยวๆ  ส่วนตัวประทับใจความชุ่มชื่นมากกว่า

ข้อดี
1. เนื้อลิปมีความชุ่มชื่นดี ชอบบ
2. สีสวยทุกสีเลย (เลือกไม่ถูกนะ)
3. ทาง่าย ไม่เหนียว เหนอะหนะ
4. รู้สึกว่าทาแล้วปากนุ่มขึ้นนิดๆ
5. มีกลิ่นหอมอ่อนๆ
6. ไม่ทำให้ปากแห้ง ไม่ตกร่องระหว่างวัน
7. แพคเกจใช้ง่าย เป็นแท่ง จุ่มๆๆ

ข้อเสีย
1. ถ้าทำให้เนื้อมีควมข้นกว่านี้ แต่มีความชุ่มชื่นและ สีแบบนี้นะ จะเริศมากกเลยแหละ
2. ลิปกลอสแบบจุ่มๆ ทาที่ปากแล้วต้องจุ่มลงไปเหมือนเดิม อาจมีความสกปรกจากปากเราลงไปด้วย 
อาจทำให้ลิปกลอสเสื่อมไว แนะนำก่อนทาลิประหว่างวันให้เช็ดปากออกด้วยทิชชู่ก่อนนะจ้ะ หรือไม่ก็หาแปรงเล็กๆต่างหากเอาไว้จุ่มทา

ซื้อต่อไหม : แน่นอน ขอใช้แค่นี้ก่อนละกัน ใช้ไม่ทัน
สรุป : A

ซื้อได้ที่ไหนบ้าง : eveandboy, Loft, ดรักสโตว์บางที่ก็มีขายแล้ว
ราคา : Cartice : Lip Appeal Moisture & Shine smoothing lip gloss (179฿)
ปริมาณ : 5ml.

------------------------------------------------------------------------------------------------

12. Cartice : Ultimate Shine lipstick : #050 Simply Rosewood

 

เป็นลิปสติกที่เนื้อนุ่ม ครีมมี่ นุ่มเหมือนนุ่มละลายบนปากเลยอะ ฮ่าๆๆ  แตะนิดเดียวสีก็ติดแล้วว มีความชุ่มชื่นแบบเข้มข้น เกลี่ยง่าย
ทานิดเดียวสีก็ติดแล้ว สีลิปมีความเงางาม เพราะชิมเม่อเค้าละเอียดมาก แทบมองไม่เห็นชิมเม่อเวลาทา
ทาแล้วคล้ายจะเป็นเนื้อแบบแมท แต่แมทแบบเนื้อครีมชุ่มชื่นนะ ทาแล้วกลบสีปากใช้ได้ ปากไม่แห้ง ทาแล้วปากนุ่มดี
ติดทนโอเคเลย มีหลุดบ้างเวลาทานอาหาร อยากให้ติดทนมากๆ ให้ทาย้ำๆหลายๆรอบ และซับด้วยทิชชู่ ย้ำๆอีกหลายที

ลิปรุ่นนี้มีโทนนู้ดสวยๆเยอะ และสีเข้มๆ ส้ม แดง ด้วยนะ 

ข้อดี
1. เนื้อนุ่ม มีความชุ่มชื่นเ้ข้มข้น ครีมมี่มากๆ
2. เกลี่ยง่าย กลบสีปากใช้ได้
3. เม็ดสี เนื้อสี ชัดเจน 
4. ทาแล้วปากไม่แห้ง ไม่ตกร่องระหว่างวัน
5. ปากนุ่ม เหมือนได้บำรุงปากไปในตัว ไม่ต้องทาลิปปาล์มทับเลย
6. เฉดสีมีให้เลือกเยอะ สวยๆทั้งนั้น
7. ชิมเม่อละเอียด ชอบทาลิปแบบแมท แต่ให้ความชุ่มชื่นมากๆ
8. แพคเกจสวย ดูมีคุณภาพ เทียบแบรนด์ชั้นนำได้เลย

ข้อเสีย
1. ด้วยความที่เนื้อนุ่มครีมมี่มากๆ  บางทีก็แอบจะเละ เวลาทา
2. สีหลุดระหว่างวันบ้าง นิดหน่อย

ซื้อต่อไหม : แน่นอน ตอนนี้มีแท่งเดียวเอง เดี๋ยวไปสอยอีก กิกิ
สรุป : A+

ซื้อได้ที่ไหนบ้าง : eveandboy, Loft, ดรักสโตว์บางที่ก็มีขายแล้ว
ราคา : Cartice : Ultimate Shine lipstick (จำไม่ได้แหะ 100ปลายๆถึง 220นี่แหละ)
ปริมาณ : ไม่ได้บอกไว้ แต่เยอะพอสมควรนะ

 

-------------------------------------------------------------------------------------------------------

13. Cartice : Eyeshadow Base

 

 

เอาไว้เป็นไพรเมอร์เบสก่อนการแต่งตา ช่วยให้สีอายชาโดวน์ติดทนนานขึ้นและสีชัดขึ้น เนื้อนุ่ม เกลี่ยง่าย เนื้อคล้ายกับคอนซีลเลอร์
แบบแท่งของเมบาลีน มีแปรงจุ่ม เวลาใช้ก็แตะๆบนตาของเราเลย สะดวก ใช้งานง่าย แต่ข้อเสียคือเวลาเกลี่ยต้องรีบเบลน
เพราะเนื้อค่อนข้างแ้ห้งไว เราเคยด่างมาแล้ว แตะบนตาแล้วเบลนเลย 

เราใช้แล้วรู้สึกได้ว่า อายชาโดวน์ติดทนนานตลอดวัน เช้ายันเย็นสีก็ยังเหมือนเดิม เราใช้แล้วไม่ตกร่อง แต่สำหรับคนผิวมันอาจจะตกร่องบ้าง
ขนาดเบา พกพาง่าย เหมือนพกกาวติดขนตาปลอมเลย อันเล็กไม่ใหญ่ ก็ถือว่าโอเคในราคาระดับนี้ ใช้แล้วก็ไม่ได้รู้สึกว่ามันแย่อะไรนะ

ข้อดี
1. เนื้อนุ่มดี เกลี่ยง่าย
2. สีอายชาโดวน์ติดทนนานขึ้น สีชัดขึ้น
3. แพคเกจใช้สะดวกง่ายดี จุ่มๆละป้าย
4. ขนาดเล็ก เบากระทัดรัดพกไปไหนไม่หนักดี ชอบ
5. คุณภาพถือว่า ใช้ได้ในระดับกลาง เมื่อเทียบกับราคาก็โอเค

ข้อเสีย
1. แห้งไว ต้องรีบเบลนไม่งั้นด่างเป็นจุดๆ
2. ผิวมันใช้แล้วอาจตกร่องได้
3. รู้สึกว่ามันเล็ก ถ้าเทียบกับปริมาณดูน้อยไปนะ (เพราะเราแต่งตาทุกวัน เป็นอะไรที่ใช้บ่อยเด๋วก็หมด) แต่ราคาไม่แพง หยวน 555+

ซื้อต่อไหม : แน่นอน 
สรุป : B++

ซื้อได้ที่ไหนบ้าง : eveandboy, Loft, ดรักสโตว์บางที่ก็มีขายแล้ว
ราคา : Cartice : Eyeshadow Base  (220 ประมาณนี้จำไม่ได้งะ)
ปริมาณ : 2.1 ml.

 

 

 

-------------------------------------------------------------------------------------------------------

14. Cartice Kohl Kajal #040 White

 

 

 

อายไลเนอร์แบบดินสอสีขาว เนื้อนุ่ม เกลี่ยง่าย สีเข้ม ชัดเจน ติดทนปานกลาง ระหว่างวันบางทีก็จางละ ถ้าคนผิวมัน
คิดว่าใช้แล้วอาจจะตกร่อง เราเอาไว้ใช้ไฮไลท์ช่วยโหนกคิ้ว หรือเขียนอินเนอร์ใต้ตา แต่หลักๆตอนนี้เอามาทำเป็นเบส
ก่อนการทาตาเพื่อให้สีอายชาโดวน์ันั้นดูเข้ม และสีชัดขึ้น ชอบบบ เวลาเหลาเนื้อดินสอไม่หักนะ ข้อนี้สำคัญเพราะบางที
เหลาๆละหักๆๆ ก็ไม่ไหวนะ เปลืองงอะ

ข้อดี
1. เนื้อเขียนง่าย นุ่มดี
2. สีเข้ม ชัดเจน
3. ใช้ได้หลายประโยชน์ดี
4. มีสีให้เล่นเยอะอยู่นะ
5. ใ้ช้สะดวก เป็นแท่งจับถนัดมือ (แต่ถ้าเหลาจนสั้นอาจไม่ถนัดละ ฮ่าๆ)

ข้อเสีย
1. ติดทนปานกลาง บางทีก็จางละบ่ายๆ
2. ไม่เหมาะกับคนผิวมัน อาจตกร่องได้

ซื้อต่อไหม : อาจจะ 
สรุป : C++

ซื้อได้ที่ไหนบ้าง : eveandboy, Loft, ดรักสโตว์บางที่ก็มีขายแล้ว
ราคา : Cartice Kohl Kajal #040 White (110฿ เราซื้ออีฟแอนบอยเหลือ 89฿)
ปริมาณ : 1.1 กรัม

 

---------------------------------------------------------------------------------------------------------------------

15. Cartice : Photo Finish Liquid Foundation 18 h #050 deep bronze ** ตัวนี้ไว้จะถ่ายภาพที่ทารองพื้นมาลงให้ดูนะ หาภาพไม่เจองะ **

 

 

เป็นรองพื้นอีก 1 ตัว ที่ปลื้มมมสุดๆ เห็นรองพื้นที่เป็นแบบขวดแก้วของเค้ามี 2 แบบนะ 
อีกขวดนึงเป็นทรงสี่เหลี่ยม รุ่น Infinite Matt up to 18 h Make-Up เราว่าอันนั้นอะเหมาะกับคนผิวมัน เพราะเนื้อค่อนข้างแห้ง คุมมัน และเห็นบอกว่าติดทนนาน 18ชม เหมือนกัน เกลี่ยยากสำหรับเรา เราหน้าแห้งใช้ไม่ได้อะ 

ส่วนตัวนี้เนื้อมีความชุ่มชื่น ไม่มีชิมเม่อร์ผสม เกลี่ยง่ายมากๆ สำหรับเรา กลืนไปกับผิวเร็วมาก ทาอันนี้แล้วให้ความรู้สึกที่เป็นธรรมชาติ เหมือนไม่ได้ลงรองพื้นหนาอะไรปกปิดเกือบจะมิด ปานกลางมากกว่า แต่ถ้ามีรอยดำ รอยสิวมากๆ แอบเห็นอยู่บ้าง ต้องใช้คอนซีลเลอร์ช่วยตบๆอีกที 

เนื้อครีมรองพื้นมีโทนสีแดงทั้งหมด ถ้าอยากได้ลุคที่แบบสาวละติน บ่มแดด แทนแบบนั้นก็สวยดีนะ แต่ถ้าจะให้เข้ากับผิว กลมกลืน แนะนำ
ให้ผสมกับรองพื้นสีเหลืองเข้าไปด้วย บางทีเราใช้แล้วหน้าแอบแดงอะ ผิวเรามันโทนเหลือง ใครที่มีผิวออกน้ำผึ้งขาวกว่าเรา คิดว่าใช้เป็นบรอนเซอร์แบบครีมได้เลยนะ ทาแล้วดูธรรมชาติสวยบ่มแดดดี เลยแหละ  

** แต่ถ้าใครผิวแทน มีโทนสีผิวแดงคิดว่าเหมาะเลยไม่ต้องผสมอะไรแล้ว **

ติดทนตลอดทั้งวันจริงๆ ไม่หมองระหว่างวัน ใช้แล้วหน้าดูผิวสุขภาพดี ฉ่ำๆเป็นธรรมชาิติ สีรองพื้นไม่เปลี่ยนระหว่างวัน  ไม่ไหลเยิ้ม
เลิฟฟฟฟฟฟฟฟสุดๆๆ ถึงแม้จะปกปิดปานกลางก็เถอะ  

ข้อดี
1. เนื้อชุ่มชื่นเกลี่ยง่าย
2. ได้ลุคเป็นธรรมชาติ กลมกลืนไปกับผิวเลย
3. ไม่มีชิมเม่อร์ผสมอยู่ชอบบ
4. ไม่หมอง หรือเปลี่ยนสีระหว่างวัน
5. ให้ความชุ่มชื่นแก่ผิวหน้า หน้าแห้งแบบชุ่มชื่น 
6. เหมาะกับคนผิวแห้งอย่างเรา 
7. ปริมาณเยอะ ขวดเป็นแบบปั๊ม ใช้ง่ายสะดวก ไม่โดนนิ้วมือเราให้สิ่งสกปรกลงไปในขวด
8. ติดทนนาน เราทาแต่เช้ายันเย็น ไม่เคยต้องได้เติมแป้งอะไรเพิ่ม
9. ควบคุมความมันในตัวอีกด้วย ใครหน้ามันแล้วอยากใช้อาจจะชอบนะ 
10. ไม่เหนียว ไม่หนา ไม่หนักหน้า ทาแล้วชอบ บางเบา ไม่เหมือนมีอะไรมาฉาบบนหน้า
11. นำมาทำเป็นบรอนเซอร์เนื้อครีมได้ 
12. ราคาน่ารัก คุณภาพขนาดนี้ เริศ

ข้อเสีย
1. ขวดเป็นแบบแก้ว หนัก กลัวแตกก
2. เป็นโทนสีแดง เราผิวโทนเหลือง ต้องผสมกับรองพื้นสีเหลืองอีกที
3. ผิวมันคิดว่าอาจจะใช้ได้ แต่คงต้องใช้ตัวควบคุมความมันลงก่อน เนื้อมีความชุ่มชื่นเกรงว่าใช้แล้วหน้าจะดูมันกว่าเดิม

ซื้อต่อไหม : แน่นอนนนนน
สรุป : A+

ซื้อได้ที่ไหนบ้าง : eveandboy, Loft, ดรักสโตว์บางที่ก็มีขายแล้ว
ราคา : Cartice : Photo Finish Liquid Foundation 18 h  (300 กว่าๆ จำไม่ได้ ไม่เกิน 350นี่แหละ)
ปริมาณ : 30 ml.

 

 

 

-----------------------------------------------------------------------------------------------------

16. Cartice : Kohl Kajal # 130 Greentings from...  * อยู่ในคลิปเปิดถุง อีฟแอนบอย 3 *

 

 

อันนี้ซื้อมาทำไมไม่รู้ เห็นสีสวยดี รู้สึกใช้แล้ว สีไม่ได้ติดทนอะ ทาแปบเดียวจางละ พลาดดด สีนี้ซื้อมาทำไมไม่รู้ ขอไม่คอมเม้นน TvT

ข้อเสีย

สีสวยแต่ติดไม่ทน ไม่ปลื้มมม

ซื้อต่อไหม : ไม่แล้วววว
สรุป : ไม่ให้ TvT

ซื้อได้ที่ไหนบ้าง : eveandboy, Loft, ดรักสโตว์บางที่ก็มีขายแล้ว
ราคา : Cartice : Kohl Kajal # 130 Greentings from... (110฿ เราซื้ออีฟแอนบอยเหลือ 89฿)
ปริมาณ : 1.1 กรัม

 

------------------------------------------------------------------------------------------

17. Cartice : Prime and fine Illuminating Base * อยู่ในคลิปเปิดถุง อีฟแอนบอย 3 *

 

 

 

เบสอันนี้เพิ่งได้มาแต่ลองใช้แล้ว ชอบ ประทับใจที่เนื้อของเค้า เนื้อค่อนข้างจะเหลวๆหน่อย เกลี่ยง่าย ซึมค่อนข้างไว
มีกลิ่นหอมมติดผิวมาก  ผสมวิตามิน A,C,E  ควบคุมความมัน Oil-free เอาไว้ลงก่อนการแต่งหน้า ช่วยปรับสภาพผิวหน้าให้ดู เฟรช
สดใสผ่องๆๆ เนื้อเป็นสีเนื้อ ทาลงผิวแล้วสีคล้ายๆรองพื้น ลองทาแล้วหน้าดูผ่องขึ้นมานิดนึง ก็โอเคนะ เราใช้ได้ไม่นาน แต่ก็ประทับใจดี

ข้อดี ใช้มาไม่นานยังบอกได้ไม่มาก
1. เนื้อเกลี่ยง่าย ซึมค่อนข้างไว กลืนไปกับผิว
2. ควบคุมความมัน
3. ถ้าแล้วหน้าดูเฟรช สดใส ผ่องๆๆขึ้นมานิดๆ
4. มีส่วนผสมของ วิตามิน A,C,E 
5. กลิ่นหอมติดหน้าดี 
6. ชอบแพคเพจสีดำ สวยดี ใช้ง่าย บีบๆๆเอา

ข้อเสีย
ยังหาไม่เจอนะ ลองใช้ได้ไม่นาน

ซื้อต่อไหม : อาจจะ
สรุป : ไม่ให้ TvT

ซื้อได้ที่ไหนบ้าง : eveandboy, Loft, ดรักสโตว์บางที่ก็มีขายแล้ว
ราคา : Cartice : Prime and fine Illuminating Base (217฿)
ปริมาณ : 20 ml.

 

--------------------------------------------------------------------------------------------------------

 

18. Cartice : Prime and Fine Highlighting Powder for a luminous glow  #010fairy dust * อยู่ในคลิปเปิดถุง อีฟแอนบอย 3 *

 

 

 

 

ตัวนี้ปลื้มจริงจัง ชอบมากก ตอนเห็นแล้วเราหยิบไม่คิดเลย ชอบบ

เป็นไฮไลท์แบบแป้งฝุ่นอัดแข็งในตลับสีดำ สีดำเงาสวยงดงามม อิอิ  เนื้อแป้งมีชิมเม่อสีทองละเอียดผสมอยู่ 
เป็นไฮไลท์ที่ปัดเท่าไรกี่รอบก็ได้ มันไม่ได้วาวแบบวิ้งๆวับๆ จนคนดูออกว่าไฮไลท์มานะ เพราะเนื้อชิมเม่อร์ละเอียดและสีทองสวยมาก
ปัดทั่วหน้า หรือปัดเฉพาะจุดก็ได้ ให้ลุคดูฉ่ำๆวาวๆ บนหน้า ติดทนปานกลาง เป็นไฮไลท์ที่เติมได้ตลอด พกไว้ติดกระเป๋าสบายเลย

เราซื้อมาได้ไม่นาน แต่สุดยอดปลื้มเลยนะอันนี้ ลูกรักอีกอันแล้ว

ข้อดี
1. ชิมเม่อละเอียด สีทองสวยมาก ปัดแล้วไม่เว่อ ไม่ได้วาววิบวับ
2. พาเลทสวย ตลับสีดำ ชอบตลับแบบนี้ดูสวย พูดไม่ถูก (ความชอบส่วนตัว)
3. ปัดได้ทั่วหน้า เฉพาะจุดก็ได้ 
4. ปัดได้เรืื่อยๆ บ่อยๆ อยากให้หน้า ดูผ่องๆ สดใส ไบร้ท์ๆ เหมาะ

ข้อเสีย
1. ถ้าติดทนตลอดวัน นี่เริศเลยนะ

ซื้อต่อไหม : แน่นอน ว่าแต่จะหมดเมื่อไร - -
สรุป : A+

ซื้อได้ที่ไหนบ้าง : eveandboy, Loft, ดรักสโตว์บางที่ก็มีขายแล้ว
ราคา : Cartice : Prime and Fine Highlighting Powder for a luminous glow (196฿)
ปริมาณ : 11 กรัม.

 

 

-------------------------------------------------------------------------

 

19. Cartice gel eye liner 010 black jack

 

 

 

 

 

 

 

มาในรูปแบบกระปุกแก้ว ถ้าหล่นก็อาจแตกได้ ต้องระวังด้วยนะ ไลเนอร์ตัวนี้มีเนื้อเป็นเจล เนื้อนิ่ม เขียนง่าย สีดำสนิท สีออกแมทจะไม่มีความมันวาวให้เห็นเลย ดังภาพสีเข้มแต่จะแห้งไวนิดนึงเวลาเขียนต้องรีบเขียนหน่อย แต่ตั้งแต่ใช้มาครีมในกระปุกยังไม่มีวี่แววจะแห้งปลื้มเลยถ้าครีมข้างในแห้งเราสามารถนำไปทิ้งไว้ใน
น้ำอุ่นแล้วนำกลับมาใช้ได้อีก เมื่อก่อนไม่รู้ก็จะเอาทิ้งละเกิดอาการเสียดาย ว่ายังใช้ไม่หมดเลย ฮ่าๆๆ  ใช้แปรงหัวตัด หรือจะเป็นแปรงพู่กันแหลมๆก็ใช้ได้ แตะทีละน้อย ถ้าไม่พอค่อยเติมใหม่ได้ เวลาพลาดหรือสีเข้มไปจะได้แก้ไขได้ ระหว่างวันสียังชัดอยู่ โดนน้ำก็ยังชัดแจ๋ว แต่จะมีไหลบ้างถ้าอากาศร้อน เจอเหงื่อ แต่น้อยมากที่จะแพนด้า ล้างออกยากปานกลาง เราใช้พวกน้ำมันมะพร้าวล้างออก ดูจากภาพล้าง
ไปหลายรอบอยู่

1.เจลไลเนอร์อันนี้เหมาะกับ ทุกสภาพผิว แต่ผิวมันต้องระวังนิดนึง เว้นเขียนใต้ตาอาจทำให้ย้อยระหว่างวันได้
2.ใครมองหาเจลไลเนอร์ที่เนื้อนิ่มเขียนง่าย แนะนำตัวนี้เลย
3. เป็นเจลไลเนอร์เนื้อแมท เหมาะกับใครที่ไม่ชอบความมันวาว

ข้อดี
1. สีดำสนิท เนื้อนิ่ม เขียนง่าย
2. ติดทน ตลอดทั้งวัน
3. ราคาถูก ปริมาณ สมเหตุสมผลกับราคา
4. ซื้อร้านอีฟแอนบอยจะถูกกว่ามาก ฮ่าๆๆ

ข้อเสีย
1. ถ้าเจอเหงื่อมีย้อย เป็นแพนด้านิดนึง
2. เป็นกระปุกแก้ว หนัก ถ้าทำตกอาจแตกได้
3. เนื้อแห้งไว ต้องรีบเขียน อย่าเปิดฝาทิ้งไว้
4. ล้างออกยากปานกลาง

ซื้อต่อไหม : แน่นอน
สรุป : A+

ซื้อได้ที่ไหนบ้าง : Lofe หรือ EveandBoy
ราคา : Cartice gel eye liner 010 black jack (220฿) ถ้าลดจะราคาประมาณ 198
ปริมาณ : 4.0g/0.14oz .
อายุการใช้งาน  : 6 เดือน

 

*** ต่อไป เป็นภาพ ของที่ Haul บ้างง ข้อพูดสั้นๆแล้วกันนะ เพิ่งซื้อมาใช้ ยังบอกอะไรมากไม่ได้ ***

 

 

 

 แชมพู กับ มาร์ก ยี่ห้อ เทรเซเม่เราชอบมาก ใช้แล้วต้องซื้อซ้ำ ผมไม่ชี้ฟู หอม และผมนุ่มขึ้น

 

สบู่ เบนเนต เอาไว้อาบน้ำผิวดูกระจ่างใสขึ้นนิดนึง

 

 

เป็นพัฟฟองน้ำเอาไว้ลง รองพื้นที่ราคาถูก แต่คุณภาพดีใกล้เคียง แบรนด์ ดังๆเลย นิ่มมากๆๆ

สเปร์แบบน้ำเอาไว้ฉีดกันความร้อนก่อนม้วนผม

สเปร์ฉีดแบบฝุ่น กลิ่นหอมฟลุตตี้ ช่วยให้ผมลอนอยู่ทน เป็นธรรมชาติเค้าว่างั้น

ลองใช้ดู ครีมมิสทีน หอมๆดี

รองพื้น KMA เนื้อนุ่ม เกลี่ยง่าย ติดทน มีหลายเชทให้เลือก

ปลื้มมาก เป็นลิปสีนู้ด เนื้อนุ่ม ออกครีม ติดทนมาก สีสวย ชอบบ

สบู่ มาดามเฮง เห็นส่วนผสมละน่าใช้ เอามาอาบน้ำ ลองซะหน่อย

ลิป ทิ้น ของ in2it เคยใช้เมื่อสมัย มัธยม กลับมาใช้อีก ติดทนนาน ชอบ สีชัด

ลิปสติก ลิควิด กลอส ของ in2it เพิ่งรีวิวไปไม่นาน เลยไปสอยสีแดงมาเพิ่มเอาไว้ผสมสีเล่น

เอามา พอกหน้า ขัดหน้า ของสมุนไพรชอบบบบ

ซื้อไฮไลท์ สีทองมาเพิ่ม ติดใจสีชมพูคราวที่แล้ว ไปสอยสีนี้มาซะเลย

 

 ***** วันนี้ขอพอแค่นี้ก่อนนะค่ะ อ่านรีวิว Cartice กับ  Haul ของจากอีฟแอนบอย3 ก่อนนะค่ะ   เราจะกลับมาโพสใหม่ในอาทิตย์หน้า เนื่องจาก เรามีงานต้องทำไม่ว่างมาโพสต่อ รูปทำเสร็จแล้ว  ยังไงไว้รอติดตามกันใหม่กระทู้หน้า ในอาทิตย์หน้านะค่ะ  มีรีวิวอีกเพียบที่เราอยากแชร์  ขอบคุณค่ะ ****