Review ตัวเอง...จากผีกลายเป็นผีที่ดูดีขึ้นมานิดหนึ่้ง ด้วยอิทธิฤทธิ์เมคอัพ คอนเทคเลนส์และขนตาปลอม

สวัสดีค่ะ ไม่ได้มาตั้งกระทู้ที่นี่มาสักหลายเดือน จำไม่ได้แล้วว่ากี่เดือน 55+

วันนี่ฤกษ์งามยามดี นึกครึ้มอกครึ้มใจ จะมารีวิวพัฒนาการการแต่งหน้าของตัวเองค่ะ 

 

 

ไม่พูดพร่ำทำเพลง เริ่มจากปีแรกเลยเนอะ ฮี่ๆๆ

จากรูปจะเห็นว่าแรกเริ่มเดิมทีเราใส่แว่นและหนามากเพราะสายตาสั้นมาก

พอย้ายเข้าไปอยู่หอในโดนรูมเมทชักชวนให้ซื้อคอนเทคเลนส์มาใส่ แต่ก็ไม่กล้าใส่สีๆ อย่างเค้าหรอก เพราะเรามันเนอร์ด 

 

ผมที่ยืดเอาไว้ก็ยังไม่คลายตัว ดั้น~อยากจะได้ผมลอนซะงั้น ประกอบกับช่วงนั้นวิธีม้วนผมด้วยกระดาษกำลังฮิตเลยทำมั่ง ก็ได้หัวหงิกๆ แค่ตรงปลายกับข้างบนลีบๆ ดูไม่จืดเลยทีเดียว =="

จำได้ว่าเครื่องสำอางชิ้นแรกที่ซื้อคืออายไลเนอร์ ของมิสทีนมั้งคะ ถ้าจำไม่ผิด ป้งแป้งไม่รู้จักหรอก รู้แต่ฉันกรีดตาเป็นละ 555555+

 

 

เริ่มหัดกรีดตาโดยใช้อายไลเนอร์แบบจิ้มจุ่ม....ทำไมมันใช้อยากอย่างนี้ๆๆๆๆๆๆ หลังจากนั้นมาก็ไม่เคยซื้อแบบจิ้มจุ่มมาใช้อีกเลย จนทุกวันนี้ยังใช้แบบหัวเมจิกชะเองเอย~~~~

ตอนนั้นหัดแต่งหน้าแบบแปลกๆ เยอะเลยค่ะ เริ่มตุนเครื่องสำอาง นู้นก็อยากได้ นี่ก็อยากได้ ไม่ใช่จะแต่งหน้าเป็นด้วยนะ ก็ดูๆ จากพันทิบบ้าง ที่นี่บ้างรู้สึกว่า...ว้าว มหัศจรรย์จัง อยากแต่งเป็นบ้าง แต่แค่ติดขนตาปลอมก็เป็นกันสาดแล้วค่ะ 

 แต่ตอนนั้นก็แบบมั่้นใจเบาๆ อะนะ ว่าฉันติดขนตาด้วยนะยะ เริ่ดปะละ (ไม่ได้สำเหนียกเลยยยยยย)

 

 

แต่งหน้าออกงานเองครั้งแรก ดูจากหน้าแอ๊บๆ แล้วจะรู้ว่าเรานั้นมั่นใจแล้วละว่าฉันสวยแล้ว พอย้อนกลับมาดูแล้วรู้สึกขำตัวเองยังไงไม่รู้ ขนตาก็ติดไม่แน่น (กาว 20 บาทขาดตัวค่ะ

) ขนตากระดก กร้ากกกกก เดินเฉิดฉายในงานไม่ได้รู้สึกตัวเลยยยยย

นานๆ เข้าผมที่ยืดมาก็เริ่มคลาย หัวก็ฟูขึ้นๆๆ การแต่งหน้าก็ไม่ได้พัฒนาไปไหน ขณะนี้เริ่มรู้วิธีไฮไลท์เชดดิ้งแล้วค่ะ จมูกหนูเลยพอมีสัน 5555+

 

 

หัวฟูแบบสุดๆ ฟูจริงๆ ณ จุดๆ นั้น แต่ตรงปลายผมที่ยืดไว้ก็ยังตรงอยู่นะคะ ตลกมากกกก แต่ไม่รู้ปลอยไว้ไ่ด้ไง ผมหน้าเริ่มยาวเลยไปตัดหน้าม้าซะเลย 555+ แอ๊บแบ๊วได้อีก ย้อนกลับไปดูรูปแล้วรู้สึกว่าถ้าตัดผมสั้นคงเกาหลีน่าดู (ชมตัวเองอีก

) .....ความแอ๊บแบ๊วยังไม่ห่างหายไปไหน ยังอยู่ยั้งยืนยง 

 

 

ในที่สุดก็ตัดสินใจไปยืดผม ยืดรอบนี้มีแต่คนชอบ 

 ปลิ้มมมมมม (คิดเอาเองรึเปล่าก็ไม่รู้ค่ะ 55555+) รูปขวาบนซัดปากแดงไปออกงานอีกรอบ รู้สึกว่าตามันจะขาดไปเยอะไปหน่อย ลืมกรีดอายไลเนอร์ด้วย 555+ รีบจัด กลับไม่ทันงาน 

การแต่งหน้าก็ไม่ได้พัฒนาไปไหน แต่หยิบสีแปลกๆ มากขึ้น กล้าทากล้าเล่น ฮี่ๆๆ แต่ความแอ๊บยังอยู่กับเรา 

 หนูเริ้มใช้รองพื้นเป็นแล้วค่ะ

 

 

เริ่มรู้สึกว่าตัวเองแก่แล้ว T^T อันนี้เป็นรูปเมื่อปีที่แล้วค่ะ แต่งหน้าบ่อยขึ้นกว่าก่อนมากๆ แถมมีรูปเก็บไว้เยอะแยะไปหมด แต่ส่วนใหญ่ก็ไม่ได้มีเทคนิคอะไรเป็นพิเศษ แค่อายไลเนอร์กับปากนู้ดๆ แก้มบ้างประปราย ใช้รองพื้นเป็นว่าเล่นแต่ส่วนใหญ่ไม่ได้แต่งออกไปข้างนอกหรอก แต่งถ่ายรูปในห้อง ถ่้ายรูปโปรไฟล์เฟสบุค 55555+ บ้ามาก 

 เริ่มมีคอนเทคเลนส์สีๆ ใส่แล้วค่ะ 

 บวกกับมี app เจ๋งๆ หลายตัวมาช่วยแต่งภาพ 555+

 

 

เริ่มสนใจที่จะทำ howto ในเว็บนี้ขึ้นมา เลยได้ลองแต่งอะไรแปลกๆ เยอะ แต่งแล้วเลอะ แต่งแล้วพลาด แต่งแ้ล้วน้องในห้องตกใจก็มี 5555+ เป็นประสบการณ์ที่โหดมันฮามาก โดยเฉพาะตอนล้างเครื่องสำอาง 

 มันช่างลำบากลำบนและไม่น่าพิศมัยเอาเสียเลย 

 คิ้วอันดกดำของเราก็ยังอยู่ที่เดิมมา 4 ปี.....

 

 

เริ่มมีพัฒนาการขึ้นมานิดหน่อยแล้ว(ละมั้ง) มีการใ้ช้สีที่น้องชายเราเรียกว่าตานกแก้ว 555+ ทั้งสีเขียว สีฟ้า สีน้ำเงิน ถ่ายรูปไปถ่ายรูปมาเริ่มรู้สึกว่าตัวเองเหมาะกับการทำหน้าโหดๆ ยังไงไม่รู้ ยิ้มมากไม่ได้ แก้มเยอะไปดันตา ตาหาย 5555+ ประกอบกับมีความชมว่าเป็นคนตาสวย เลยเน้นแต่งตาซะส่วนใหญ่ อิอิ

 

 

ล่าสุด ไปงานเมื่ออาทิตย์ที่ผ่านมา แสงมันเยอะไปหน่อยย มิได้ขาวแต่อย่างใดนะคะ 

 พอกลับมาดูรูปแล้วรู้สึกว่าไฮไลท์จมูกพลาดไปหน่อยย สันเยอะเกิ้นนนนนน แต่เอาเถอะเรายังอยู่ในระยะฟักไข่ ยังสนุกไปกับการแต่งหน้าได้อีก อิอิ แค่มีเพื่อนชมว่าแต่งหน้าสวยก็ดีใจมากแล้ว 

 หัวนี่พยายามมองข้ามๆ ไปนะคะ พอดีวันงานแต่งให้เพื่อนหลายคนเลยไม่มีเวลาทำหัวตัวเอง 5555+

 

 

สุดท้ายท้ายสุดกับรูปก่อนและหลังแต่งหน้า ความขาวมิได้แตกต่างกันแต่อย่างใดนะคะ อย่าเข้าใจผิด พอดีแสงมันต่างกัน .......แต่รู้สึกว่าตัวเองมีคิ้วที่สวยที่สุดในชีวิตก็เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมานี้แหละ ขอขอบพระคุณโลกนี้ที่มีที่เขียนคิ้วของ etude มันทำให้ชีวิตนี้หนูหัดเขียนคิ้วเป็นกะเค้าซะที 

 

 

สุดท้ายจริงๆ แล้ว เมคอัพ คอนเทคเลนส์และขนตาปลอมช่วยคุณได้ 

 จบแล้วจ้า 

 

 

 

ขอขอบพระคุณทุกคอมเม้นล้วงหน้า