Review- KERASTASE 'Cristalliste' สำหรับสาวผมยาว

จะทักทายทุกคนด้วยคำพูดยังไงดี? >< สวัสดีแบบเชยๆ นี่ละกัน
ไม่ใช่รีวิวแรกในชีวิต แต่เป็นรีวิวผลิตภัณฑ์เกี่ยวกับเส้นผมครั้งแรกในชีวิต

ความจริงไม่ค่อยชอบรีวิวผลิตภัณฑ์พวกนี้ซักเท่าไหร่

เพราะจะมาสระให้ดูก็แลดูลำบาก 555555+

เลยจะได้แค่ข้อมูลผิวเผิน เนื้อสัมผัส กลิ่น ในความคิดของเรา

แบรนด์ที่จะมีพูดถึงกันวันนี้ก็คือ "kerastase" ในเครือ L'OREAL

ถ้าไม่คุ้นหู หรือไม่เคยเห็นตามร้านค้าทั่วไปก็ไม่แปลก เพราะจะเกาะกลุ่มร้านซาลอน

สูตรที่จะมารีวิววันนี้เพิ่งเปิดตัวไปได้ไม่นาน หน้าตาก็แบบนี้เลย

ขวดสีชมพู มี 3 ตัวหลักๆ อย่าง แชมพูสระผม ครีมนวด และก็เซรั่ม

หลายคนอาจจะเคยได้ยินว่าให้เปลี่ยนยาสระผมทุก 3 เดือน ก็เลยใช้มั่วไปหมด

และเชื่อมั้ยคะว่าผู้หญิงผมยาวส่วนใหญ่จะเจอปัญหาว่าช่วงโคนผมมัน แต่ปลายแห้งเกรอะ

มันจึงเป็นเหตุผลที่ต้องเลือกแชมพูให้ตรงสูตร และเราต้องรู้ว่าผมของเราเป็นยังไง เหมาะกับอะไร

สูตรที่ได้มาลองวันนี้คือ KERASTASE "cristalliste"

โปรยไว้เลยว่า "พริ้วไหว เป็นประกายเงางามดุจคริสตัล

ความลับที่เก็บไว้อย่างดีที่สุดจากเคเรสตาสสำหรับสาวผมยาว"

เกือบลืมไปนิดนึง.. แชมพูสูตรนี้แบ่งเป็น 2 แบบ สำหรับผมเส้นเล็ก และผมเส้นใหญ่

ส่วนผมเส้นเล็ก ขวดแชมพูจะใสๆ เสียดายไม่มีรูปให้ดูด้วย

ตอนเลือกซื้อถ้าไม่อ่านฉลาก รับรองว่าหยิบผิดสูตรแน่ๆ ระวังค่ะ บอกพนง.ก็ได้ ดีที่สุด

คราวนี้ลองมาเจาะที่การทำงานของมันกัน

ว่ากันว่าเป็นการใช้เทคโนโลยี Liquid Light Complex ครั้งแรก จุดเด่นของเค้า คือ

- ทำความสะอาดล้ำลึกถึงโคนผม

- ปกป้องไขมันที่เคลือบเส้นผมตลอดทั้งเส้น ด้วยโพลีเมอร์

- ปลายผมได้รับการดูแลให้มีประกายเงางาม ด้วยอโลเวล่า

เน้นสารสกัดจากพืชธรรมชาติ ปราศจากซิลิโคน ไม่ทำให้ผมลีบแบน

เอาให้เข้าใจตามประสาชาวบ้าน สาวผมยาวที่ "โคนผมมัน ปลายผมแห้ง" ต้องจัดตัวนี้ไป

คราวนี้มาสำรวจ texture หรือเนื้อสัมผัสกัน เริ่มจากตัวแชมพู

ขวดทึบๆ แบบนี้ เดาว่าเป็นเนื้อครีมใช่มั้ยคะ จริงๆ แล้วมันเป็นสีขาวใส  เข้มข้น ชอบมาก

อาจจะเทออกจากขวดยากนิดนึง 

กลิ่นหอมมาก เหมือนผลไม้อะไรซักอย่าง ดอกไม้อ่อนๆ

อยากใส่กลิ่นลงในรีวิวให้ลองดมกันทุกคนเลย หอมมากจริงๆ ค่ะ

ที่จับกลิ่นได้มันคล้ายสตรอเบอร์รี่ แอปเปิ้ล และก็มะลิ

ตอนสระแนะนำว่าไม่ต้องบีบแชมพูเยอะมาก

 เพราะค่อนข้างเข้มข้นกว่ายี่ห้ออื่นตามท้องตลาด

ต่อไปเป็น "ครีมนวดผม"

ขวดทรงสูง คว่ำลง สีชมพูทึบ

ตัวครีมนวดมีสูตรเดียว ใช้ทั้งผมเส้นเล็ก และเส้นใหญ่

เป็นเนื้อน้ำนม ช่วยให้ผมนุ่ม ไม่พันกัน และเพิ่มประกายผมให้ดูเงางาม

แนะนำให้ใช้หลังสระผมทุกครั้ง เพราะใช้ครั้งแรกผมก็นุ่มแบบสังเกตได้แล้ว

ตัวสุดท้ายเป็นเซรั่ม อาจจะใช้หรือไม่ใช้ก็ได้

เพราะสำหรับเรารู้สึกว่ายาแชมพูกับครีมนวดมันก็ดีมากๆ แล้ว

แต่ถ้าใครปลายผมแห้งมากๆ ก็ใช้ดีกว่าค่ะ

เซรั่มเนื้อจะเบาบางมาก ตอนใช้แนะนำให้บีบออกมานิดเดียว เช็ดผมให้หมาดๆ

แล้วค่อยๆ ลูบไปทางเดียวกัน

ไม่ต้องเริ่มให้ติดโคนผมมาก เพราะช่วงนั้นมันจะมันอยู่แล้ว

เว้นให้ห่างโคนผมออกมาหน่อย พยายามเน้นช่วงปลายผมที่แห้งเป็นพิเศษ

อันนี้ก่อนสระผม ที่ผ่านสมรภูมิ มลพิษ มาทั้งวัน

เริ่มมันและส่งกลิ่นตุๆ แล้ว  -..-

คราวนี้มาลองสระกัน! 

หลังจากสระเสร็จจะรู้สึกเลยว่าสดชื่นมาก หอมมากๆ ด้วย

ปกติถ้าลงครีมนวดยี่ห้ออื่น จะรู้สึกว่าผมหนักๆ ลีบๆ

แต่ของ kerastase รู้สึกว่าเนื้อไม่หนักเหมือนครีมนวดอื่นๆเลย แต่นุ่มสุดๆ

คราวนี้มาลองลงเซรั่มกัน นี่ บีบมานิดนึง

ค่อยๆ ลูบนะคะ

เกือบลืมไป กลิ่นเซรั่มนี่ก็หอมเหมือนกัน

เด๋วจะเป่าให้แห้งให้ดู ปกติเราจะไม่ค่อยใช้ไดร์เท่าไหร่ เพราะผมจะแห้งกว่าเดิม

แต่คราวนี้มาลองพิสูจน์ kerastase "cristalliste" กัน

ว่าหลังเป่ากับไดร์จะเวิครึเปล่า

สรุปเลยละกัน หลังจากใช้ครั้งแรก ก็รู้สึกดีนะ

ผมหลังสระเสร็จตอนนี้นุ่มแล้วก็หอมมาก

ไม่มันด้วย ขนาดลงเซรั่มไปแล้ว บางคนอาจจะไม่ชอบเซรั่มเพราะผมจะดูมัน

แต่ของ kerastase ตัวนี้ สอบผ่าน!

มาดูราคากันบ้าง อย่าตกใจกันไป เพราะมันสูงกว่ายี่ห้ออื่น

แชมพูสระผม ขนาด 250 มล. ราคา 990 บาท

ครีมนวดผม ขนาด 200 มล. ราคา 1,150 บาท

เซรั่ม ขนาด 50 มล. ราคา 1,350 บาท

ด้วยความที่เป็นผลิตภัณฑ์ที่เน้นการบำรุงเส้นผมอย่างล้ำลึก

และก็วางจุดยืนของตัวเองในร้านซาลอนชั้นนำทั่วประเทศ

เลยมีขายแค่ที่ร้านซาลอนอย่างเดียวเลย 

แต่ภาพรวมถือว่าคุณภาพคุ้มค่ากับราคาจริงๆ

เต็ม 10 ให้ 9 คะแนนเลยค่ะ

ขอตัด 1 คะแนน ที่เรื่องของราคา และสถานที่จัดจำหน่าย

แต่ถ้าถามว่าจะซื้อต่อมั๊ย ขอตอบว่าน่าจะซื้อต่อ เพราะว่าเห็นผลได้ชัดเจนหลังจากการใช้จ้า

สุดท้ายขอบคุณทุกคนที่เข้ามาอ่านนะคะ

ใครที่ใช้ยี่ห้อนี้อยู่ อยากแชร์ หรือสอบถามก็จัดมาเล้ยย!!  :))