[ขอปรึกษา]อิจฉาเพื่อนและปัญหาเรื่องเพื่อน?

รู้สึกว่าพักหลังๆ มานี้อิจฉาเพื่อนอยู่คนนึงมากๆ คะ

เพราะว่ารู้สึกเหมือนทุกคนต่างให้ความสนใจกับคนๆ นี้

เราก็ไม่ค่อยสนิทกับคนๆ นี้นะคะ อาจเรียนได้ว่าแทบไม่ค่อยคุยเลยก็ได้

คือต้องบอกไว้ว่าตอนม.5เราไปเรียนต่อที่ต่างประเทศมาหนึ่งปีคะ

แล้วช่วงเวลาที่ไปเรียนที่ต่างประเทศเนี่ยไม่ได้ติดต่อกับเพื่อนที่ไทยเลยจริงๆ

ก่อนมาก็จะสนิทอยู่กันเป็นกลุ่มแค่ไม่กี่คน พอกลับมาก็รู้สึกแปลกๆ นะคะ

รู้สึกต้องปรับตัวให้เข้ากับเพื่อนเยอะมาก แล้วก็คิดว่าเรายังปรับตัวไ่ม่ได้เลย

เพราะบางครั้งรู้สึกอึดอัดเวลาเพื่อนเล่นอะไรหรือพูดอะไรเราก็จะแบบเฉยๆ อะคะ

อาจเป็นเพราะเรายังคิดถึงเพื่อนที่ต่างประเทศอยู่ เพราะตอนอยู่ต่างประเทศ

เรื่องเพื่อนนี่ไม่ใช่ปัญหาเลยนะคะ รู้สึกว่าเพื่อนแต่ละคนนิสัยดีเลย เ่ล่นเฮฮากัน

สนุกกว่าเืพื่อนที่ไทยซะอีก ส่วนตัวเราก็พูดคุยกับเืพื่อนปกติแต่จะรู้สึก

ไม่ค่อยสนิทกับใครเลยจริงๆ แบบเราก็พอรู้นะว่าเราสนิทไม่ได้เหมือนตัวเรารู้ตัวอะคะ

ว่าเพื่อนแต่ละคนเค้าก็สนิทกันเอง เราก็พยายามคุยไปร่วมกิจกรรมด้วยกัน

แต่ก็ยังรู้สึกว่าเพื่อนที่คบมาตอนเนี้ยเนี่ยไม่ใช่เืพื่อนสนิทจริงๆ พอตอนนี้เราก็

รู้สึกเครียดอะคะว่าทำไมเพื่อนแต่ละคนไปไหนเที่ยวกันสนุกสนาน โดยเฉพาะจะมีอยู่คนนึง

ที่เพื่อนจะรักกันทั้งห้องแล้วเหมือนเราก็อิจฉาเค้านิดนึงเลยอาจจะออกอาการให้เห็น

เค้าก็เลยไม่ค่อยคุยกับเรา เราก็รู้สึกผิดนะคะพยายามกลับไปคุยกับคนนี้แต่รู้สึกว่า

ทุกอย่างมันไม่ได้เปลี่ยนไปเลยเพราะเรื่องมันเป็นแบบนี้แล้ว อยากจะขอปรึกษาว่าควรจะทำยังไง

ให้หายอิจฉาเพื่อนคนอื่นๆ แล้วก็ทำยังให้เป็นคนดูเฟรนด์ลี่มากกว่านี้คะ?

เพราะตอนแรกกลับมาจากอเมริกานี่เสียงดังพูดมากความมั่นใจเยอะสุดๆ หลังๆ มาเนี่ยพอมาอยู่ไทยได้

5-6เดือนความมั่นใจที่เคยมีเมื่อตอนกลับมาใหม่ๆ ก็หายวับเลย กลายเป็นบางทีแอบเงียบไปบ้าง

แต่เราก็ไม่อยากเชื่อตัวเองนะคะว่าจะเป็นแบบนี้เพราะตอนที่อยู่ที่ต่างประเทศเนี่ยเฮฮาแบบสุดๆ ไม่อยากกลับ

เพราะมีเพื่อนดีๆ ที่โน่น ปล.อยากจะรู้ว่าเราแปลกมากมั้ยที่เข้ากับเพื่อนไม่ค่อยได้เลย?

Discussion (5)

ปรับความคิดก่อนค่ะ อยากให้ใครทำยังไงกับเราทำให้เขาก่อนค่ะ เริ่มจากมีน้ำใจ ยิ้มทักทายเพื่อน พูดคุยกับเพื่อนก่อนไม่ใช่รอให้เพื่อนมาทักเราฝ่ายเดียว จำชื่อเพื่อนได้ จำวันเกิดเพื่อนได้ พูดในสิ่งที่ฝ่ายตรงข้ามชอบ ชมเขาในเรื่องที่เห็นว่าเขาทำดี เอามาจากในตำรานะค่ะ จิตวิทยาที่เคยเรียน 5555

เอาใจสู้ค่ะ เราก็เข้ามหาลัยไม่ค่อยมีเพื่อนเพราะเรามาจากกรุงเทพเพื่อนมองว่าหยิ่ง แต่ทุกวันนี้เราก็มีเพื่อนสนิทพอประมาณ แค่นี้พอแล้วค่ะ โต๊ะกินข้าวจะไม่พอนั่งแล้ว

เป็นเรื่องปกติมากๆค่ะ เราเองก็เป็นคล้ายๆคุณ จขกท นี่แหละค่ะที่อิจฉาเพื่อนที่เป็นที่รักมากกว่า สวยกว่า ไรแนวๆนี้ ตอนหลังๆเริ่มรู้สึกผิด แบบเห้ย นี่เราต้องมานั่งเสียเวลาเรื่องอะไรไม่รู้เยอะแยะไปเปล่าๆ ตอนหลังก็เลยแบบ ช่างแม่ง มีเพื่อนไม่มีเพื่อน สวยไม่สวยก็ช่าง เป็นตัวของตัวเองที่สุด ผลสุดท้ายพอเราทำอะไรที่ธรรมชาติมากขึ้นแบบไม่ต้องคอยเอาตัวเองไปเปรียบเทียบกับใครอะคะกลายเป็นเพื่อนๆมาหาเรามากขึ้น เราสวยมากขึ้น(คิดเอาเอง 55555555) เลิกคิดเลิกใส่ใจความรู้สึกไม่ดีในใจที่ผุดขึ้นมาไปเลยค่ะเราแนะนำ สำหรับเรามันได้ผลมากๆพอได้เป็นตัวเอง เลิกคิดเปรียบเทียบแล้วทุกอย่างมันดีขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งสุขภาพจิตของเราเอง สู้ๆนะคะ 

 

                   อีกเรื่องคือความสวยค่ะ เพื่อนเราคนนี้อะทำไรก็สวยดูไม่ต้องพยายามเลย เราสังเกตดูพฤติกรรมแล้วสรุปแล้วเวลาอยู่ในห้องนางก็มีนะคะเรื่องร้องไห้ เรื่องเสียใจ แต่พอออกมานอกห้องก็พยายามทำให้ตัวเองดูดีมีความสุขเพื่อให้คนรอบตัวอยู่ใกล้แล้วรู้สึกดีไปด้วย อันนี้เราเห็นว่าดีเลยเอามาทำตามค่ะ มันทำให้เรามีความสุขขึ้นจริงๆนะคะ ลองดูนะคะ

อาจจะเป็นเพราะน้องไปต่างประเทศหนึ่งปีเลยทำให้ห่างกับเพื่อนไป พอกลับมาเลยรู้สึกไม่สนิทเพราะในระหว่างหนึ่งปีนั้นเพื่อนๆอาจจะผ่านอะไรด้วยกันมาเยอะ แต่ว่าเรื่องอิจฉาเป็นธรรมดาของมนุษย์ทุกคน ถ้าอยากเลิกอิจฉาน้องก็ต้องบังคับใจตัวเองให้ได้ ที่น้องอิจฉาก็เป็นเพราะน้องอยากเป็นที่รัก ที่คนให้ความสนใจเหมือนเพื่อน มันก็มีอยู่ไม่กี่เหตุผลหรอกที่ทำให้เป็นที่รักของคนอื่นและเพื่อนๆ หนึ่งคือหน้าตาน่ารัก สวย สองนิสัยดี หรือสามเรียนเก่ง ทนอีกหน่อยเพราะตอนนี้น้องอยู่ม.5เดี๋ยวก็จบแล้วเข้ามหาลัย น้องก็จะได้เพื่อนกลุ่มใหม่และเจอคนหลายแบบมากขึ้น เมื่อถึงตอนนั้นน้องมองย้อนกลับมาอาจจะคิดว่าฉันไปอิจฉาอะไรเค้าเนี่ย 

คิดบวกและทำตัวตามปกติค่ะ มันมีแนวคิดว่า คิดยังไงเป็นอย่างนั้น ถ้าเราคิดว่าคนๆนั้นหยิ่ง เราก็จะเลือกมองและจับในจุดที่เราคิด และเค้าก็จะหยิ่งจริงๆ อย่างที่เราคิด คิดบวกค่ะ มองในส่วนดีที่เค้ามีอย่างที่ทุกคนมอง ร่าเริงและเป็นตัวเอง สักพักเพื่อนก็จะเข้าหาเองค่ะ ทักทายคนอื่น อารมณ์ดี ไม่มีใครอยากอยู่ใกล้คนที่มู้ดดี้ตลอดหรอกคะ อย่าคิดมาก ทำใจสบายๆ แล้วมันดีเองคะ

เป็นธรรมดาของชีวิตนักเรียนค่ะ พอเราอยู่ในสังคมโรงเรียน ที่มีคนวัยเดียวอยู่รวมกัน แล้วมีใครบางคน "พิเศษ" แตกต่างจากคนอื่นๆ มักเจะกลายเป็นที่สนใจ และเป็นที่รักของคนรอบข้าง

 

เมื่อคนๆนั้นเป็นคนพิเศษสำหรับทุกคน ได้รับความรักจากทุกคน ย่อมมีคนไม่พอใจอยู่แล้วค่ะ ในกรณีนี้คือตัวน้องเองนะคะ 

 

พี่จะบอกว่าเข้าใจค่ะ ว่าทำไมน้องถึงอิจฉาเพื่อนคนนั้น ก็เพราะน้องอยากเป็นที่รักของเพื่อนๆเหมือนกับเพื่อนคนนั้นไงคะ แต่ด้วยปัจจัยหลายอย่าง ทำให้เราเป็นแบบเค้าไม่ได้ ในเมื่อเราเป็นไม่ได้ เราจึงเกิดความอิจฉา

 

ซึ่งพี่ก็เคยเป็น และปัจจุบันก็เป็นอยู่ค่ะ

 

พี่ไม่สามารถแก้ไขความอิจฉาไปจากใจน้องไ้ด้ เพราะส่วนหนึ่งคือแม้แต่ตัวพี่เองยังมีความรู้สึกอิจฉาคนที่เขาดีกว่าเราอยู่ค่ะ และอีกส่วนหนึ่งคือ เรื่องนี้น้องต้องเป็นคนแก้ที่ตัวเองค่ะ ใจน้องเป็นของน้องเอง ไม่ว่าจะคิด จะมอง จะทำอะไรก็อยู่ที่ใจน้องเป็นคนสั่ง เป็นคนนำไป ถ้าน้องสามารถเปลี่ยนความคิดได้ ก็นับว่าเป็นผลดีค่ะ

 

ในเมื่อไม่สามารถแก้ปัญหาเรื่องอิจฉาได้ แล้วจะให้ทำยังไง?

คนอื่นแก้ปัญหายังไงพี่ไม่รู้นะ แต่พี่เมื่อรู้ตัวแล้วว่าอิจฉาคนๆหนึ่งอยู่ พี่จะถามตัวเองว่าทำไมถึงไปอิจฉาเค้า เพราะว่าเค้าสวยกว่า? เพราะว่าเค้าเรียนเก่งกว่า? เพราะว่าเค้ามีคนรักมากกว่า? เมื่อได้คำตอบว่า เพราะอะไรเราถึงอิจฉาเค้า เราก็จะรู้ว่าจะต้องทำยังไงค่ะ

 

ถ้าอิจฉาเพราะเค้าสวยกว่า

เราก็พัฒนาตัวเองสิ ขัดผิว โบกครีมกันแดด ลดน้ำหนัก ฯลฯ เพื่อให้ตัวเองดูดีขึ้น อาจจะไม่สวยเท่าเค้า แต่เราก็สามารถสวยในแบบของเราได้

 

ถ้าอิจฉาเพราะเค้าเรียนเก่งกว่า

เราก็ขยันให้มากขึ้นค่ะ ตั้งใจเรียนในห้อง หมั่นจดแล็คเชอร์ ทำการบ้าน อ่านหนังสือทบทวน แม้ว่าเค้าอาจจะมีสมองที่ฉลาดกว่า แต่ถ้าเขาขยันให้ได้เท่าเขาหรือมากกว่า เราก็ย่อมเรียนเก่งขึ้นมาได้ทัดเทียมกับเขาล่ะ

 

ถ้าเราอิจฉาเพราะเค้ามีคนรักมากกว่า

เราก็ปรับปรุงบุคลิกภาพตัวเองค่ะ เริ่มจากการคิดบวก มองโลกในแง่ดี สร้างนิสัยกรอบนอกให้เป็นคนร่าเริงแจ่มใจ และชอบเฮฮากับเพื่อนฝูง หัดพูดจาฉะฉาน และตลกขบขันบ้าง เรื่องนี้มันเปลี่ยนกันได้ค่ะ อาจจะเริ่มจากเพื่อนใกล้ตัวคนแรกก่อน จากนั้นค่อยๆทำความรู้จักกับคนอื่นๆต่อไป ไม่นานนักทุกคนก็จะเห็นว่าเราเป็นคนน่าคบหา อยู่ด้วยแล้วสนุก และสุดท้ายพวกเค้าก็จะชอบเราเองค่ะ

 

ทั้งหมดนี่คือสิ่งที่พี่ทำมาแล้วทั้งสิ้นค่ะ

พี่ก็ไม่มีเพื่อนเลย แต่พี่ปิดกั้นตัวเอง ไม่ยอมพูดกับใคร ไม่คบใคร และอิจฉาเพื่อนคนที่เป็นที่รักของทุกคนเสมอ จนพี่รู้ตัวว่า พี่ต้องเปลี่ยนแปลงตัวเอง แรกๆอาจจะไม่มีใครคุยกับเราเท่าไร หรือคุยกับเขาเราไม่รู้เรื่อง พี่ได้แต่หัวเราะแหะๆตามเขาไป ทำอะไรตามๆเพื่อนไป แต่เมื่อนานวันไป พี่กลับกลายเป็นคนวงในของเพื่อน อาจจะไม่ถึงกับเป็นที่รักของทุกคน แต่ก็กลายเป็นคนเฮฮา ที่ใครๆก็อยากชวนไปไหนมาไหนด้วย

 

ถามว่ายังอิจฉาเพื่อนคนนั้นอยู่ไหม?

แน่นอนพี่ยังอิจฉา เพราะเขาไม่ต้องพยายามเท่าพี่ เขาก็มีคนรักมากมาย และนับวันเขาก็ยิ่งสวยขึ้น มีคนมารักมากขึ้น มีคนมีจีบเยอะขึ้น ในขณะที่พี่ต้องใช้ความพยายามเปลี่ยนตัวเอง ทั้งภายนอกและภายในตั้งนาน ยังไม่มีคนมารุมรักเท่าเขาเลย

 

แต่อย่างน้อยเราก็มีความสุขค่ะ มีความสุขกับการได้มีสังคมอยู่ ได้มีที่ยืน ได้มีเพื่อน ซึ่งอาจไม่สนิทนัก แต่ก็มีคนที่เราสามารถคุยได้ หัวเราะได้ กินข้าวด้วยกัน ซึ่งนั่นเป็นสิ่งสำคัญในการใช้ชีวิตอยู่ในสังคมค่ะ

 

ขอโทษที่ยาวไปมาก แต่อยากให้น้องได้มีความสุขจริงๆค่ะ สังคมของคนไทยกับต่างประเทศมันต่างกันเนอะ ไม่ว่ายังไงถ้าเรายังอยู่ในประเทศนี้ เราต้องปรับตัวค่ะ