เห่อ หนังสือใหม่ ที่คิดว่าอาจเปลี่ยนแปลงชีวิต สาวๆ อย่างเรา (แอบมีสาระ นิดนึง)

 สวัสดีค่ะ ชโลม คาลิปโป้ หรือชื่อเล่นจริง >>> กิ๊ฟท์ <<< นะคะ 

 

 

มาอีกครั้ง แต่คราวนี้มา ++ เห่อ ++ หนังสือที่นานๆ ซื้อที

ด้วยอายุที่มากขึ้น แล้วเราเริ่มมองดูคนข้างที่ได้ก้าวขาออกจากกรอบเดิมๆ

แล้วก็คิดว่า ++ อยากทำได้บ้าง ++



ด้วยนิสัย และความคิดของกิ๊ฟท์เองก็คิดว่าเราก็ทำได้นะ แต่มันเหมือนว่าเรายังคงกลัวการเปลี่ยนแปลง

ไม่มั่นใจในตัวเอง กลัวว่าถ้าออกไปตามฝันแล้วถ้ามันไม่โอเคล่ะ ถ้าเงินหมดล่ะทำไง

ถ้า ถ้า ถ้า ถ้า ถ้า... วนไปมาป้วนเปี้ยนทำให้ไม่กล้าแม้จะชะโงกหน้าออกไปมองอะไรที่อยู่นอกกรอบ



เพื่อนก็เลยให้ลิสต์หนังสือมาลองซื้ออ่านดู

ไม่ชอบอ่านหนังสือที่ไม่มีรูป แต่ด้วยความที่เราอยากสร้างแรงบันดาลใจในการเปลี่ยนชีวิต

เลยไปลองหาซื้อมาอ่านดู

 

คิดว่าเพื่อนๆ หลายท่านใน JEBAN น่าจะเคยได้อ่าน ผ่านตามาบ้าง

หากมีประสบการณ์ ช่วยแชร์กันด้วยเน้อ

 

ว่าแต่ เรามาผิดกระทู้รึเปล่า ทำไมรู้สึกว่า  # DRAMA #  

 

 

 

เล่มที่ 1: ใช้บัตรเครดิตให้รวย 

มันเป็นสิ่งที่กิ๊ฟท์ประสบอยู่ คือเราใช้มันในการจับจ่ายใช้สอย แต่มักมองข้ามในการหาประโยชน์จากมัน 

คิดว่ามันต้องมีวิธีอะไรบางอย่างที่สามารถทำให้เราใช้ประโยชน์จากมัน เช่น การสร้างระบบเงินหมุนเวียนให้เรา หรือการได้กำไรจากการใช้บัตรเครดิต ได้มากกว่าการเอาเงินอนาคตของเรามาใช้

เล่มนี้ยังไม่ได้อ่านนะคะ แต่ดันฟุ้งไปเยอะแล้ว

 

 

เล่มที่ 2: เกษียณเร็ว เกษียณรวย

เค้าบอกว่าหนังสือเล่มนี้ว่าด้วยวิธีการที่เราเริ่มต้นจากไม่มีอะไรเลย และก้าวไปสู่การเกษียณ พร้อมด้วยอิสรภาพทางการเงินภายในเวลาไม่ถึงสิปปีได้อย่างไร

มันกระแทกตาตรงที่ อิสภาพทางการเงินภายในเวลาไม่ถึงสิบปีนี่แหละค่ะ 555 

 

 

 

เล่มที่ 3: โรงเรียนสอนธุรกิจ 

อันนี้คงต้องอ่านก่อนแล้วมาสรุปให้ฟัง (ไม่ทราบว่าจะผิดกฏหรือเปล่า)

 

 

เล่มที่ 4: Everything is Marketing

ชอบเนื้อในหนังสือ ยังไม่ได้อ่านค่ะ แต่แค่มีรูปๆ ก็ชอบแล้ว อันนี้ไร้สาระนิดนิด แต่ถือว่ามีประโยชน์เพิ่มหยักสมองให้ตัวเอง ไม่มากก็น้อย

ด้วยความที่ว่ากิ๊ฟท์ทำงานเกี่ยวกับการวางแผนการตลาดซึ่งก็เป็นงานที่ต้องใช้ทฤษฎี การวิเคราะห์ วิจัยข้อมูล แต่ที่กล่าวมา กิ๊ฟท์แทบจะไม่มีเลยค่ะ อาจเพราะเราชอบทางด้านอาร์ตมากกว่า เลยทำอะไรโดยใช้สัญชาตญาณนำและสนับสนุนโดยตรรกะ แต่นักการตลาดจริงๆ เค้าไม่ยอมรับวิธีการคิดแผนแบบนี้

จึงต้องสร้างตัวเองในอีก Model นึงที่ใช้ทฤษฎีจากในหนังสือ การวิเคราะห์ขั้นสุดยอด และข้อมูลที่แน่นหนาบึ้ก ฟังดูเหนื่อยและ #DRAMA# 

 

 

 

เอาล่ะค่ะกิ๊ฟท์ขอจบ #DRAMA# ไว้เพียงเท่านี้ แล้วจะมาเห่ออะไรที่ละลานตาดีกว่า เนอะ!

ขอบคุณเพื่อนๆ ทุกท่านที่ติดตามอ่านจนจบถึงบรรทัดนี้นะคะ 

Happy Monday ค่ะ ^_^

ชโลม คาลิปโป้

Discussion (11)

เราก้อชอบแนวนี้เหมือนกันล่าสุดเพิ่ง อ่านจบไป the Magic thiking of big  คิดใหญ่ไม่คิดเล็ก  เป็นการสร้างแรงจูงใจและเป้าหมายในอนาคตคะ  >>>^^<<<

น่าอ่านจังค่ะ

มีสาระดีค่ะ น่าสน ถ้าเพื่อนๆอยากซื้อหนังสือแอบบอกค่ะ มหกรรมหนังสือ ที่สวนสิริกิต วันที่ 29-8เมษา วันที่ไม่แน่ใจค่ะ แต่เราจะไปซื้อหนังสือพอดี เอาข่าวมาบอกค่ะ

มีสาระจริงๆค่ะ สนับสนุนให้อยากอ่านมากขึ้นไปอีก ทำให้เรารู้จักหลายอย่างด้วยนะเนี่ย ไว้ว่างๆไปสอยมาบ้างแล้ว อิอิ เพราะช่วงนี้ชีวิตบ้าบอคอแตกมากๆ ^^

คุณ Saeuk

ใช่แล้วล่ะค่ะ แล้วเดี๋ยวนี้เห็นเด็กรุ่นน้องมีรายได้เยอะแยะ เป็นกอบเป็นกำ เลยถามว่าน้องเค้าทำไง เค้าก็ทำงานออฟฟิศ แต่เค้าเริ่มจากการออมเงินก่อน 1 ก้อนโดยที่ไม่เยอะมากโดยที่คำนวณว่าหากเกิดขาดทุนกับเงินก้อนนี้ก็ไม่เป็นไร ค่อยๆศึกษา ค้นคว้า ลงทุน ไปเรื่อย รู้จักใช้บัตรเครดิต รู้จักใช้ประโยชน์จากเงินออมค่ะ น้องอายุห่างจากกิ๊ฟท์ 4 ปี แต่มีเงินเก็บ 7 หลักแล้ว โดยที่ทำงานมา 2-3 ปีเท่านั้น น้องแนะนำว่าลองเรื่อยๆ อย่าไปทุ่ม เวลา ประสบการณ์จะช่วยเราเอง และอีกอย่างอย่าโลภ... 555 กิ๊ฟท์เลยเริ่มมาลองดูศึกษาบ้าง เพราะส่วนใหญ่ทุ่มไปกับงาน ขาดเวลาให้กับการดูแลชีวิตตัวเองค่ะ พอมาเริ่มซื้อ LTF ก็ต้องเริ่มดู คาดการณ์ วิเคราะห์ เริ่มได้กำไรบ้าง นิดๆ หน่อยๆ ให้พอเป็นกำลังใจค่ะ แล้วก็ลองดูเงินเดือนที่ขึ้นให้ในแต่ละปี เทียบกับค่าเงินเฟ้อในปีนั้น เท่ากับเราได้เงินเืดือนเท่าเดิม พอเห็นแจ้งแบบนี้ เลยต้องดิ้นรนแล้วล่ะค่ะ ไม่งั้นตามน้องไม่ทันแน่นอน... นี่มันห้องความงามหรือปรึกษาปัญหาชีวิตกันคะเนี่ย 555