:+: Review :+: ที่ลอกเท้า Maxi Power foot peeling liquid Tonymoly ..ลอกไม่ลอกต้องพิสูจน์ (พลีชีพนิดๆ)

 
 
 
สวัสดีค่ะ วันนี้กลับมาเขียนรีวิวแล้วนะคะ ไม่รู้ว่าสาวๆจะจำเราได้รึยัง น้อ >/// <
ป.ล. วันนี้ไม่ได้พาน้องซอนนี่กับเบบี้อัลปาก้าเลยย กลัวโดนน้องแย่งซีน 555

 
วันนี้จะมารีวิว Maxi power foot peeling liquid ของ Tony moly ค่ะ
(พรีออเดอร์มาจากในเว็บเมื่อนานมาแล้วค่ะ แต่เพิ่งได้ใช้ ไม่รู้ว่าตอนนี้ยังมีขายอยู่รึเปล่าน้า 
ราคาจำไม่ได้แล้วค่ะ น่าจะประมาณสองร้อยกว่าบาทนะคะ) อาจจะยังงงๆว่ามันคืออะไร มันคือผลิตภัณฑ์ที่ใช้ลอกผิวหนังที่เท้าค่ะ เวลาเดินมากๆ เท้าถูกเสียดสีมากๆ จนผิวหนังบริเวณนั้นหยาบกระด้างและผิวหนังจะหนาขึ้นอย่างเห็นได้ชัดหรือที่เรียกแบบเข้าใจง่ายๆว่าด้านนั่นเองงง วันนี้เราก็เลยจะมาทดลองเจ้า Maxi power foot peeling ตัวนี้ว่ามันจะช่วยจัดการปัญหาเท้าด้าน ได้จริงมั้ย

 

ก่อนอื่นมาดูรูปร่างหน้าตาของ Tonymoly  Maxi power foot peeling liquid (กล่องยับเยินมากกก หิ้วไปหิ้วมาไม่ได้ใช้ซักที ขออภัยด้วยนะคะ)
 
 

 
 
เปิดกล่องมาจะมีซองเป็นของเหลว 2 ซอง แล้วก็ถุงเท้าพลาสติก(ข้างในมีกระดาษกึ่งๆผ้าอยู่อีกชั้น)
 
 

 
 


วิธีใช้





 
1 .สวมถุงเท้า ถุงเท้าเป็นฟรีไซส์นะคะ เราเท้าใหญ่ (40-41)ใส่แล้วก็ยังเหลือที่ค่ะ





 
1 .สวมถุงเท้า ถุงเท้าเป็นฟรีไซส์นะคะ เราเท้าใหญ่ (40-41)ใส่แล้วก็ยังเหลือที่ค่ะ

 





3. สวมถุงเท้าให้เรียบร้อยจากนั้นก็ทิ้งไว้ 1 ชั่วโมง 30 นาทีค่ะ



 
4. เมื่อครบเวลาก็ถอดออกแล้วล้างเท้าให้สะอาด เท่านี้ก็เรียบร้อยค่ะ
5.จากนั้นก็รอประมาณ 4-6 วัน ค่ะ
 
 
 






 
ต่อไปนี้คือผลจากใช้ผลิตภัณฑ์ ซึ่งเราได้ถ่ายรูปไว้ในบางส่วน(ส่วนที่คิดว่าไม่ควรเอามาออกอากาศจริงๆเราก็ไม่ได้ถ่ายมานะคะ) ใครใจไม่ถึงปิดได้น้าา ปิดเถอะ ใครทานข้าว/ขนมอยู่ก็ปิดก่อนน้า ค่อยกลับมาอ่านใหม่ เราเตือนคุณแล้ว =P แต่ว่าเราพยายามทำรูปให้พอดูได้มากที่สุดแล้วค่ะ คือไม่เอามาให้ดูทั้งเท้า แค่นี้เราว่ามันก็ยี๋แล้วเนอะ แล้วเราก็อายเกินกว่าที่จะเอารูปเท้าทั้งหมดมาลงด้วย 555 
 ขออภัยสำหรับรูปเท้าด้วยนะคะ  
 





 
สองรูปนี้คือรูปสภาพเท้าก่อนใช้ผลิตภัณฑ์ค่ะ 
สภาพค่อนข้างแย่เลยค่ะ ผิวหนังบริเวณนั้นมันหนาเป็นชั้นๆเลย เนื่องจากเป็นคนที่เดินเยอะมากๆ
เคยเดินเหยียบเศษฝาคอนแทคเลนส์ที่เป็นโลหะ รู้สึกเจ็บนะคะ แต่เลือดไม่ออกเลย ผิวหนังไม่เป็นอะไรเลย ก็มันด้านหนาซะขนาดนี้เนาะ 





 
หลังจากที่ถอดออกแล้วล้าง รู้สึกว่าเท้าเย็นมากกกกก
วันที่1 : ยังไม่มีการเปลี่ยนแปลงใด แค่รู้สึกว่าเท้าแห้งและตึงมากก~
วันที่2 : เท้ายังคงตึงๆและแห้งๆต่อไป --แอบกลัวว่ามันจะไม่ได้ผลแล้วนะเนี่ย รอดูต่อไปๆ--
(ไม่ได้ถ่ายรูปมาค่ะ แต่ให้ลองจินตนาการถึงความรู้สึกที่ตึงมากๆ ผิวหนังตึง เนียนเรียบไม่ค่อยมีลายนิ้ว ตึงแบบเตรียมแตกเปรี๊ยะๆๆ น่ะค่ะ )
วันที่3 : วันนี้หน้าเท้าเริ่มลอกแล้วค่ะ เด๋วจะรอดูต่อไป~
วันที่4 :วันนี้เท้าแห้งแตกระแหงเลยค่ะ คาดว่าพรุ่งนี้คงลอกแล้วแน่ๆเลย หลังเท้าเริ่มลอกออกเป็นแผ่นเลยค่ะ 




โอ๊ะ โอ~~



 
วันที่5 : วันนี้เท้าลอกตามคาดเลยค่ะ ลอกเป็นแผ่นเลย ไม่คิดว่าผิวที่ตายแล้วแต่ไม่ยอมหลุดออกไปจะหนาได้ขนาดนี้ คิดว่าคงไม่ลงรูปเยอะนะคะ ภาพมันไม่น่าดูเลยจริงๆ แต่ยังลอกไม่หมดนะคะ เป็นหย่อมๆ คาดว่าพรุ่งนี้คงลอกเกือบหมดค่ะ  เห็นขัดเลยว่าเท้าเราหนาและมีหลายชั้นมากๆ 



 
วันที่6 : วันนี้ถือเป็นวันที่พีคที่สุดเลยค่ะ เนื่องจากเซลล์ที่ตายที่ลอกออกมันแยกออกจากผิวชั้นใหม่อย่างสมบูรณ์เวลาอาบน้ำแล้วเท้าเปียกๆมามันจะยุ่ยเลยค่ะ (แค่นึกว่าอี๋แล้วใช่มั้ยคะเราเลยไม่ได้ถ่ายรูปมา 
)
วันที่7 : เมื่อวานเป็นวันที่พีคสุดจริงๆค่ะเพราะวันนี้พวกเซลล์เหล่านั้นมันได้หลุดออกไปแล้วค่ะ  ยังมีบางส่วนที่ยังลอกออกไม่หมด คาดว่าพรุ่งนี้คงออกหมดค่ะ



 
วันที่8~วันนี้ (13) : ส่วนที่ด้านๆจะลอกออกหมดแล้วนะคะ จะเหลือ แค่ผิวหนังบางๆส่วนที่มันไม่ด้านจะค่อยๆลอกออกค่ะ
เหลือนิดๆหน่อยๆ 


 
อันนี้เปรียบเทียบช่วงที่เท้าลอกกับลอกออกหมดแล้วให้ดู
แสงมันจะไม่เท่ากันนะคะเพราะถ่ายกันคนละเวลาแล้วก็บางรูปเปิดแฟลชด้วยค่ะ











 
สรุป(เอาเอง) ว่าการทำงานของมันคือการที่ทำให้สารอะไรซักอย่างซึมเข้าไปใน(ระดับผิวชั้นนอก)เท้าแล้วทำให้ผิวหนังชั้นนอกตึงมากๆ จนกระทั่งปริและแตก จนหลุดออก ก็จะเจอกับผิวชั้นนอกชั้นใหม่ แต่ข้างกล่องก็มีเขียนว่าไม่ควรแกะผิวที่แตกลอกนั้นออกด้วยตนเอง ต้องรอให้มันลอกและหลุดไปเอง ไอเราก็คันไม้คันมือลอกออก ปรากฏว่ามันมีบางส่วนที่ยังลอกออกไม่เต็มที่เหมือนผิวชั้นนอกที่ตายแล้วกับผิวชั้นนอกใหมันยังติดกันอยู่ผลที่ได้ก็ทำให้ไปดึงส่วนชั้นใหม่ออกมาด้วย เกือบถึงผิวชั้นในเลยจ้า (ถ้าเลือดออกแสดงว่าถึงผิวชั้นในแล้ว
)

 

(อันนี้เป็นรูปล่าสุดที่ถ่ายนะคะ มันจะแดงๆ พองๆเพราะวันก่อนเราเดินเยอะมาก คงโดนเสียดสีอย่างหนักแถมยังรู้สึกแสบอีกต่างหาก คนละเรื่องกับก่อนหน้านี้เลยที่เดินเท่าไหร่ก็ไม่เจ็บ เพราะมันด้านแล้ว 5555)
 
จะเห็นได้ว่าเท้าที่นุ่มนิ่มเรียบเนียนราวกับเท้าเด็กมันไม่อยู่กับเราตลอดไปแน่นอน ตราบใดที่เรายังคงเดินอยู่ยังไงผิวหนังส่วนนี้ก็ต้องโดนเสียดสีและในไม่ใช่ก็กลับมาเป็นเหมือนเดิมอีก พูดง่ายๆผลิตภัณฑ์นี้ก็เป็นผลิตภัณฑ์ที่แก้ปัญหาที่ปลายเหตุเท่านั้น (แต่ได้ผลชะงัดเลยค่ะ) ทั้งนี้ถ้าหากอยากแก้ปัญหาที่ต้นเหตุก็คงต้องเริ่มจากการดูแลผิวส่วนนั้นตั้งแต่เนิ่นๆเพื่อป้องกันไม่ให้มันด้านซะก่อน เช่น ทาครีมบำรุงเท้า สวมถุงเท้าตอนนอน สครับฝ่าเท้า ฯลฯ (เป็นวิธีง่ายๆที่เราเองและทุกคนก็คงรู้กันอยู่แล้วเนอะ แต่ถามว่าทำไมไม่ ... ไม่ .. เค้าขี้เกียจ ไว้ก่อนนะ ฯลฯ สุดท้ายก็จะเป็นอย่างที่เห็นแล้วก็ต้องมาตามแก้กันที่ปลายเหตุ)






 
จบแล้วค่ะสำหรับรีวิว Tony Moly Maxi power foot peeling liquid  หวังว่าจะเป็นประโยชน์
สำหรับคนที่มีปัญหาเหมือนกับเรานะคะ ^ __ ^ ยังไงก็ดูแลสุขภาพเท้ากันด้วยนะคะ
เท้าน้อยใจแล้ว มัวแต่ดูแลส่วนอื่น 
 
ขอบคุณที่ติดตาม เจอกันใหม่กระทู้หน้านะคะ สวัสดีค่ะ





 





 
 

Discussion (17)

แอบน่ากลัวระหว่างทาง แต่สุดท้ายเวิร์คมากๆ

ทำเสร็จผิวเท้าดูนุ่มมาก  แต่ระหว่างรอแอบสยอง -_-

เราเรียนวิศวะค่าา ไว้เดี๋ยวตามไปคุยกันในบล็อกเนอะ ^^

เห็นหลายครั้งแล้วแต่ไม่เคยซื้อมาลองเลย น่าสนใจมาก ขอบคุณนะคะ