[Review] : รีวิวแรกค่ะ กับ e.l.f Studio HD Blushes
Pat~Mathews2321***สวัสดีค่ะชาวจีบันทุกท่าน***
.
.
ก่อนอื่นขอแนะนำตัวก่อนน่ะค่ะ
ชื่อแพทค่ะ อายุ 37 ปีแล้วค่ะ ปัจจุบันแต่งงานมีครอบครัวอยู่ที่อเมริกาค่ะ
ชอบเข้ามาดู How-to ในจีบันเป็นประจำ
เห็นน้องๆหลานๆ(รู้สึกว่าป้าจะแก่ไปไหมเนี่ยะ) แต่งหน้ากันสวยมากก็อยากจะศึกษามั่งค่ะ
.
.
วันนี้ได้โอกาสดีก็เลยทำรีวิวเครื่องสำอางค์เป็นครั้งแรกค่ะ
วันนี้แพทเอา ครีมบลัชของ e.l.f มารีวิวค่ะ เพราะใช้มาสักพักแล้วค่ะ
ภาพจาก missnattybeautydiary.com
เริ่มแรกเดิมทีแพทได้ดูกูรูด้านความงามบน YouTube กล่าวถึงตัวบลัชรุ่นนี้ โดยส่วนตัวแล้วรู้สึกตื่นเต้นมาก เพราะตัวเองกำลังอยากลองใช้บลัชแบบครีมอยู่พอดี ศึกษาตามเว็บไซต์ เปรียบเทียบราคากับตัว Makeup Forever ครีมบลัช แล้วถูกกว่ากันหลายเท่าตัว ( e.l.f $3 : Makeup Forever $25
) จึงตัดสินใจสั่งซื้อทั้ง 5 สีมาลองอย่างไม่เสียดายเงิน 555
ตัวแพกเกจของบลัชตัวนี้จะเป็นขวดเล็กๆรูปร่างคล้ายขวดครีมรองพื้น เมื่อเปิดฝาออกข้างในจะมีฝาปั๊มด้านบน ทำให้สะดวกในการใช้งานและทำความสะอาดค่ะ
ตัวแพกเกจของบลัชตัวนี้จะเป็นขวดเล็กๆรูปร่างคล้ายขวดครีมรองพื้น เมื่อเปิดฝาออกข้างในจะมีฝาปั๊มด้านบน ทำให้สะดวกในการใช้งานและทำความสะอาดค่ะ
ภาพจาก missnattybeautydiary.com
ครีมบลัชรุ่นนี้มีทั้งหมดด้วยกัน 5 สีค่ะ คือ
- Headliner : เนื้อสีออกชมพูอ่อนๆ เป็นธรรมชาติ
- Superstar : เนื้อสีออกส้มอ่อนๆถึงสีกลางๆ
- Diva : เนื้อสีเป็นสีชมพูสว่างๆ (สีโปรดของแพทค่ะ)
- Encore : เนื้อสีชมพูเข้มอมแดง คล้ายกลีบกุหลาบ
- Showstoper : สีออกแดงเลือดหมูปนม่วงเข้ม
เนื้อสีครีมบลัชรุ่นนี้ค่อนข้างเข้มมาก ซึ่งต้องระวังเวลาปั๊มเนื้อครีมออกมา แนะนำว่าให้เบามือ ใช้ปริมาณน้อยมากๆ ขนาดเท่าเม็ดถั่วเหลืองก็เห็นสีชัดแจ๋วเลยค่ะ
สี Headliner กับ Superstar ดูจะเหมาะสำหรับสาวๆที่มีผิวค่อนข้างขาวค่ะ เพราะจะได้สีดูเป็นธรรมชาติ
สี Headliner กับ Superstar ดูจะเหมาะสำหรับสาวๆที่มีผิวค่อนข้างขาวค่ะ เพราะจะได้สีดูเป็นธรรมชาติ
สี Diva ดูจะเหมาะกับสาวที่มีผิวกลางๆถึงผิวแทนๆ หรือใครที่ชอบปัดแก้มชมพูชัดๆเข้มๆอันนี้ก็ลองดูค่ะ
สี Encore กับ Showstoper ดูจะเหมาะกับสาวผิวเข้มๆ จนถึงผิวแบบสาวแอฟริกันประมาณนั้นค่ะ
สี Encore กับ Showstoper ดูจะเหมาะกับสาวผิวเข้มๆ จนถึงผิวแบบสาวแอฟริกันประมาณนั้นค่ะ
มาดูวิธีการลงครีมบลัชของแพทกันค่ะ
แพทจะลงครีมบลัชหลังจากลงรองพื้นเรียบร้อยแล้ว เนื่องจากเนื้อครีมค่อนข้างเข้มข้น หากใช้วิธีการปาดลงบนแก้มโดยตรงด้วยมือจะทำให้ควบคุมปริมาณและเกลี่ยได้ยากค่ะ แพทจะใช้วิธีปั๊มบนหลังมือแล้วเกลี่ยวนๆด้วยแปรง Small stipple brush ของ e.l.f ค่ะ จะเป็นการวอร์มให้เม็ดสีกระจายตัวก่อนจะใช้แปรงมาปัดบนแก้มคล้ายๆการลงรองพื้นนั่นแหละค่ะ จากนั่นค่อยลงแป้งฝุ่นทับอีกที แล้วหากต้องการสีที่เข้มขึ้นก็ให้ลงบลัชแบบฝุ่นทับในขั้นตอนการแต่งหน้าค่ะ
ขออภัยด้วยน่ะค่ะ ถ้าในภาพถ่ายเห็นสีไม่ชัด
ภาพข้างบนหลังแต่งหน้าเสร็จแต่ย้ายที่มาถ่ายในห้องนั่งเล่น และด้านนอกค่ะ
อันนี้ลงสีที่ชอบที่สุดจากทั้งหมดค่ะ สีDiva เพราะแพทเป็นคนผิวแทน สีนี้โดนใจค่ะ
สุดท้ายแพทขอสรุปรวมๆน่ะค่ะ
- ราคา : ราคา $3 ( ประมาณ 90 บาทไทย) เทียบกับปริมาณขนาด 0.34 oz.(10 ml) แล้วถือว่าคุ้มมากค่ะเมื่อเทียบกับครีมบลัชยี่ห้ออื่นๆ
- คุณภาพ : เม็ดสีแน่น สีติดชัด สีติดทนตลอดวันไม่เลือน แต่ต้องระวังหากมือหนักลงสีเข้ม(ดูเป็นตูดลิงเลยค่ะ)ไปจะทำให้แก้ไขยากค่ะ เหมาะกับสาวๆทุกสภาพผิวค่ะ เพราะเนื้ออยู่ระหว่างแมท กับ ชิมเมอร์ค่ะ
- การใช้งาน : ผลิตภัณฑ์เป็นหัวปั๊มใช้งานง่าย ทำความสะอาดง่าย แต่ต้องระวังเพราะหัวปั๊มควบคุมปริมาณครีมบลัชได้ยากค่ะ เนื้อครีมสามารถนำมาใช้ผสมกับลิปบาล์ม หรือลิปกลอส ใช้เป็นสีลิปสติกได้ค่ะ (e.l.f เขาว่าปลอดภัยกับการทาบนริมฝีปากค่ะ) ซึ่งแพทก็เอาสี Encore กับ Showstoper มาลงเป็นสีปากค่ะ เพราะถ้าใช้ลงแก้มรู้สึกจะเข้มเกินไปค่ะ ส่วนสี Headliner แพทเอาไปผสมกับลิปสติกสีอื่นให้ดูออกชมพูนู้ดๆ เพราะสีค่อนข้างจะอ่อนสำหรับสีผิวแพทค่ะ
เป็นไงบ้างค่ะ สำหรับรีวิวแรกของแพท
หากติดๆขัดๆประการใด ต้องขออภัยด้วยค่ะ มือใหม่ป้ายแดง แถมเทคโนโลยีก็ไม่ทันน้องๆเขา
หากติดๆขัดๆประการใด ต้องขออภัยด้วยค่ะ มือใหม่ป้ายแดง แถมเทคโนโลยีก็ไม่ทันน้องๆเขา
Discussion (21)