ไปไม่ถึงร้อยเอ็ด แต่พาไปกินเจ็ดย่านน้ำ :Discovery Korea

สวัสดีค่า เป็นยังไงกันบ้างคะ

ผ่านช่วงที่หยุดยาววววที่สุดของปีมาแล้ว สงกรานต์ได้ไปเที่ยวไหนกันมาบ้างหรือเปล่า เอามาเล่าสู่กันฟังบ้าง เผื่อจะได้ไปย่องตามรอย สำรวจอะไรใหม่ๆกะเค้าดูมั่ง ฤดูร้อนกำลังจะผ่านพ้นไป ฤดูฝนกำลังจะย่างเข้ามา แต่สำหรับประเทศที่อยู่เหนือๆ เส้นศูนย์สูตรขึ้นไป ช่วงนี้ เป็นฤดูใบไม้ผลิ ดอกไม้ ต้นไม้กำลังเริ่มผลิดอก ออกใบ แตกหน่อกันบางสะพรั่งโดยเฉพาะเดือนเมษา พฤษภานี้ จัดว่าเป็นฤดูที่น่าท่องเที่ยวที่สุดก็ว่าได้ ถือโอกาสหนีร้อนด้วย ฮิฮิ

คราวนี้ป้าจะพาไปเที่ยวประเทศเดิมๆ ที่ใครๆ หลายคนอาจจะไปกันมาหลายรอบมากแล้ว บางคนอาจจะยังไม่เคยไปเลย นั่นคือ....เกาหลีใต้นั่นเอง  หลายคนบอกว่า อ๊ายยย อะไรกัน ทำไมเธอไปเกาหลีบ่อยจัง ป่าวนะป่าว ขอแก้ข่าว  น้อยกว่าหลายๆคน หลังจากที่ไปครั้งแรกกับทัวร์ สนุกสนาน แต่ไม่ฟิน ครั้งที่ 2  ไปด้วยลำแข้งตัวเอง เดินทางคนเดียว เที่ยวคนเดียว ทำให้ต้องหาข้อมูลเองเยอะ ผิดๆ ถูกๆ หลงบ้างไรบ้างจนเหมือนว่า ไปมาแล้วหลายรอบ  (ตอนนี้ บางทีก็หลับตาเดินได้แล้วนะ 555) 
ยืนยันว่า เกาหลี เที่ยวเองได้ ง่ายมาก ติดตามอ่านได้ จากกระทู้เก่าๆ ได้จ้า 
http://jeban.com/viewtopic.php?t=158655
http://jeban.com/viewtopic.php?t=158078

จริงๆ ช่วงฤดูใบไม้ผลิแบบนี้ อากาศกำลังดี ไม่ร้อน ไม่หนาว 10 กว่าองศา ตั้งใจวางแผนว่าจะไปเที่ยวภูมิภาคอื่นๆ ของเกาหลีบ้าง เช่น Busan ถึงขนาดลงทุนไปเรียนภาษาเกาหลีเลยล่ะ เพราะ อย่างน้อย ถ้าอ่านออกสักหน่อย อะไรๆ ก็คงง่ายขึ้นมาก ไม่ว่าจะขึ้นรถ อ่านป้ายต่างๆ แต่ทริปนี้ เป็นหมันชั่วคราว เก็บไว้โอกาสถัดไป เพราะได้รับเชิญจาก Dr.Jart+ ประเทศไทย ให้ไปร่วมทริป Discovery the origin of art  แค่จั่วหัวทริปมา ก็น่าสนใจมาก เพราะสาเหตุนึงที่ไปเรียนภาษา จากตอนแรกกะว่า เอาแค่พออ่านได้ แต่เรียนแล้วเลยเถิด เพราะติดใจศิลปะและวัฒนธรรมเกาหลีนั่นเอง ไม่ว่าจากที่ไปสัมผัสมาด้วยตัวเอง หรือดูจากซีรีย์...(คือ เอ่ออ...โดยเฉพาะเรื่องวัฒนธรรมการกิน พระเอกนางเอกนี่ กินกันมูมมามมากคร่ะ ข้าวเต็มปาก ก็ยังไม่หยุดพูด เมล็ดข้าวแทบจะปลิวผ่านหน้ากล้องอยู่แล้ว หรือเวลากินมาม่าร้อนๆ ซดโฮกๆ ดูทีไร โคดดหิว จนถึงขนาดอยากลงทุนซื้อกะทะทองเหลืองมาต้มมาม่ากินที่บ้านดูบ้าง ว่ามันจะอร่อยกว่าหม้อที่บ้านยังไง!)

ทริปนี้ เดินทางพร้อมกับพี่ๆ นักข่าวจากนสพ และนิตยสารหลายๆ ฉบับ รวมไปถึง มด Cinamongal ปูเป้ และ erk-erk ด้วยจ้า....เดินทางกลางคืนแบบง่วงงุน กินมื้อดึกบน Asiana Airline ตอนเกือบเที่ยงคืน อึนๆ กับเมนูข้าวยำเกาหลี หรือ อ่านให้ถูกว่า พิบิมบับ 비빔밥 (밥 อ่านว่า พับ ตัวนี้ แปลว่า ข้าว  ในซี่รี่ย์เกาหลี จะได้ยินบ่อยๆ เวลาชวนกันกินข้าวจะมีคนพูดว่า 밥먹자 "พับ ม็อก จา" กินข้าวกัน  Let's eat  คุ้นๆ มะ)   

หย่อยยยยย ซอสพริก หรือ โคจูจัง มาเป็นหลอดเหมือนหลอดยาสีฟัน น่ารักมั่ก ว่าจะกินนิดเดียว ซัดซะเกือบหมดชาม.....

กินอิ่มนอนหลับ ถึงเกาหลีโดยสวัสดีภาพ เช็คอินและมาเลื้อยต่อที่โรงแรม 

เราพักกันที่ Seoul Palace Hotel รร.  5 ดาว ย่านกังนัม อยู่ใกล้ๆ กับสถานนีรถไฟฟ้า Exchange bus terminal จัดว่าเดินทางไปไหนมาไหนสะดวกถ้าจะมาติดต่อธุระ ในย่านกังนัมนะ  บริเวณรอบๆ มีห้องสมุด สวนสาธารณะเล็กๆ ร้านอาหาร ผับบาร์ ในระยะเดินถึง  มีเส้นทางเดิน วิ่ง จักรยาน ยาวๆ ไว้ออกกำลังกายตอนเช้ายาวๆ ไปกลับ 6 กิโล ถึงแม่น้ำฮันด้วย (เสียดาย นอนไม่ตื่น 5555)

เข้าห้องมา เจอ survival set จาก Dr.Jart+ แทนเซทของโรงแรม ตั้งแต่ แชมพู ล้างหน้า บำรุง กันแดด และบีบี  เปิดใช้กัน ณ ตอนนั้นเลยเพราะไม่ได้เอาไรไปสักอย่าง แหะๆๆ

ก่อนเที่ยง ฟื้นคืนสติ หลังจากอดหลับอดนอนบนเครื่องบิน ได้งีบเล็กน้อย เรียกพละกำลังกลับมา
ชาวคณะ ออกเดินทางกันไป  Garosu-Gil มีคุณปูเป้ และคุณกร ผู้บริหาร Dr.Jart+ มาต้อนรับอย่างเป็นทางการบนรถ 

 

ร้านค้าในย่านนี้เป็นคาเฟ่ ร้านขายเสื้อผ้าน่ารักๆ แบรนด์ local ตลอดแนวถนน และกระจายอยู่ตามซอกหลึบ ชั้นใต้ดิน ชั้น 2-3 เยอะแยะไปหมด 

จะว่าไป คอนเท้นคราวนี้ ขอแอบเล่าเรื่องราวบรรดาของกินสอดแทรกไปด้วยนะคะ ทริปนี้ส่วนใหญ่จะเน้นกิน เลยทำการบ้านหาข้อมูลมาเม้ามอย เพิ่มเติมเอามันส์แทน 

ขอเปิดประเด็นทริปนี้ กันด้วยของกินแบบมาราธอน เลยละกันดีมะ....ใครไปไปเที่ยวเกาหลี กรุณา add เมนูเหล่านี้ลงไปลิสต์ตระเวนกินของทุกท่าน บางร้านมีหลายสาขา สามารถหาข้อมูลเพิ่มเติมได้ตามอัธยาศัย 

คำเตือน ห้ามทำน้ำลายหกท่วมจอนะ  ฮี่ๆๆๆๆๆๆ

1. ย่าน Sinsa-dong  มื้อแรกในเกาหลี.... เรากินข้าวกลางวันกันที่ School Food  ที่คิดถึงงงงงงงง.....สาขานี้ใหญ่โต น่ารัก อยู่ต้นถนนกาโรซูกิล โดดเด่นเป็นสง่า หาไม่ยากเลยจ้า
http://www.schoolfood.co.kr/

Concept ของร้าน คือจะเป็นเมนูอาหารฟิวชั่น ที่ปรับจาก อาหารบ้านๆ ที่หาได้ง่ายๆ ตามหน้าโรงเรียน กินแล้วคิดถึงบรรยากาศสมัยเรียน กินกับเพื่อนๆ ราคาไม่แพงมาก แต่อร่อยโฮกทุกเมนู ขอบอกว่า อีกไม่นาน จะเข้ามาเมืองไทยแล้วจ้า ปลายๆ ปีเจอกันแน่นอน สำหรับใครที่ติดใจในรสชาติ 

ตั้งแต่รอบที่แล้ว ทำเอาเรากลับไปนอนคิดถึง คิมบับ 김밥 (ข้าวปั้นห่อสาหร่าย) เวอร์ชั่นสคูลฟูดสุดแซ่บ ข้าวปั้นสไตล์เกาหลี ต้องลองให้ได้นะคะ แซ่บกว่าญี่ปุ่นนะเออ ไส้ปลาเล็กปลาน้อยคล้ายๆ ปลาข้าวสาร ไส้หมูย่าง ไส้ทูน่า  อร่อยหมดเลย!!

ด้านบนในรูป คล้ายๆ จะเป็นพาสต้าครีมซอส แต่ ใช้แป้งต็อคแทน โรยด้วยเบคอนทอด...หย่อยย หนุบหนับๆ 

บะหมี่เส้นเหนียวววว นุ่ม น้ำซุบบะหมี่เย็น น้ำมันงา เปรี้ยวๆ ขลุกขลิกๆ กับเนื้อติดมันชิ้นบาง  hot&cold ที่เรียกน้ำย่อยชะมัด  ขวาบน เป็นจานรวม มีต็อกโบกี 떡볶이 แป้งข้าวผัดซอสเผ็ด(โคจูจัง) น้ำตาไหลริน อร่อยยยยยสู้ตาย ไส้กรอกข้าว เกี๊ยวซ่าก็อร่อย 

ต็อก 떡 เป็นแป้งข้าวเจ้าผสมข้าวเหนียว(หรือธัญพืชอื่นๆ เพิ่มสีสันลงไปตามโอกาส) ทำเป็นเส้นๆ สามารถเก็บไว้กินได้นานนนน คนเกาหลีนิยมกินกันมาตั้งแต่สมันก่อน สามารถเอามาทำอาหารได้หลายเมนู ทั้งของหวานของคาว ถ้าใครเคยไปเกาหลี หรือดูซีรียส์ ก็จะเห็นรถเข็นขายต็อกโปกีข้างทางเป็นเพิงหมาแหงน เต็มไปหมด แป้งข้าวนี่ถ้าเอาไปทอดในกะทะ โรยน้ำตาล โรยงาขาวคั่ว ก็อร่อยนะ คล้ายๆ ขนมเข่งตากแห้ง หรือทำเป็นก้อนกลมๆ คล้ายโมจิ ไส้โน้นไส้นี้ รูปร่างแตกต่างกันไป  


2. ข้ามฝั่งกันไป แถวย่าน Chungmuro แหล่งขึ้นชื่อเรื่องของกินทั้งกลางวันกลางคืน ร้านรวงเยอะมาก แทบจะ  24 ชม. ราคาไม่แพงด้วย เดินมาทางฝั่งนี้นะ....ตามแผนที่ 

มื้อค่ำ นี้ขอนำเสนอเมนู 전 "จอน"  หรือแพนเค้กเกาหลี  บางคน อาจจะคุ้นหูว่า พาจอน  (ใช้หัวหอมใหญ่เป็นหลัก)  จริงๆ จอน ยังใช้ส่วนผสมอื่นๆ อีกมากมาย สารพัดผัก ซีฟู๊ด เนื้อ ชุบแป้งทอด แล้วแต่เมนู ก็มีชื่อเรียกต่างกันไป เช่นถ้าใช้กิมจิ ก็เรียก กิมจิจอน  ใช้พริก ก็เรียก โคจูจอน ใช้เห็ดชิตาเกะกับเนื้อ เรียก พโยโกจอน 
นอกจากกินกันทั่วไปแล้ว จอน ยังเป็นอาหารที่ใช้ไหว้บรรพบุรุษ กินกันวันครบรอบวันไหว้ครบรอบวันตาย อะไรแบบนั้น...ในซีรีย์ เวลาครบรอบวันตายพ่อแม่ คือ ไม่พระเอก หรือนางเอก จะต้องเป็นกำพร้า แล้ว จะต้องมีฉากไปไหว้กระดูก หรือหลุมฝังศพใครสักคน ก็จะมีฉากเตรียมอาหาร เอาผักผสมแป้ง มานั่งจี่ๆ ทอดในกะทะ เป็นล่ำเป็นสัน เสียงกะทะดังฉู่ฉี่ ชวนหิวสุดๆ 55555555 (ทำไมดูหนังแล้วหิวตลอดเบยยยย) 

เมนูของทอดสารพัดจอน มักจะกินคู่กับ มักกอลลี 막걸리 เหล้าที่ทำจากข้าวหมัก หวานๆ เข้ากั๊นนน....ถ้าลืมตัวก็อาจจะเมาแป่ดได้...แอลกอฮอล์ 6-8% มากกว่าเบียร์อีก ฮ่า...กินเสร็จแล้ว หาคนให้ขี่หลังกลับบ้านด้วยนะ 5555555

ส่วนเมนูอันล่างที่มีแครอทนี้...เป็นเมนูปริศนา ตอนกินเดาว่าเป็นหอย อร่อยดีอะ หนุบหนับๆ เปิดตัวออกมาตอนอิ่มๆ เลยไม่ได้ถามว่าคืออะไร กลับมาถามจารย์เกาหลี ได้ความว่าเป็น 골뱅이 소면 무침  ยำหอยกะเส้นโซเมน....วิกิแปล 골뱅이  ว่าเป็นหอยทากชนิดนึงอะเธอ....กินไปแล้วอะ....หอยทาก T_T
ดูรูป เหมือนหอยหวาน หอยชักตีนอะไรแบบนั้น หรือเปล่าหว่า

3. ย่าน Insadong มีค่ำคืนนึง เรากินอาหารค่ำกันแถวอินซาดง หลังจากเดินชีล ชื่นชมถนนสายเก่าแก่นี้กันเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ร้านนี้เป็นร้านเก่าแก่ หลบอยู่ในซอกหลีบต้นๆ ถนน ฝั่งค่อนมาทางถนนซัมอิลเดโร่ะ (ทิศตรงข้ามสถานนี Ankuk) ภูมิใจนำเหนอ เมนูชื่อว่า 닭한마리  ทัค ฮัน มา รี  (ทัค = ไก่  ฮัน มาจาก ฮานะ = 1  มารี  = สรรพนาม ตัว)
 

ปกติ เวลาไปกับทัวร์เค้ามักจะพาไปกินเมนูยอดฮิตของเกาหลี คือไก่ตุ๋นโสม แต่สำหรับ ทัคฮันมารีนั้น หน้าตาอาจจะคล้ายๆ กัน ดูจืด แต่ใช้วิธีการปรุงที่เรียกว่า 백숙 เพ็คซุก คือ ต้มเฉยๆ ไม่ต้องใส่อะไรเลย ปรุงรสแค่เกลือ กับน้ำตาลนิดหน่อย ในน้ำซุป  ต้มพร้อมใส่แป้งต๊อก หัวหอมใหญ่ มันฝรั่ง แค่นั้นเอง เป็นอาหารที่ง่ายและดึงรสชาติซุปไก่ออริจินัลออกมา เหมาะสำหรับกินในฤดูร้อน
 

เวลากิน กินกับซอสเปรี้ยวๆ และผักกะหล่ำหั่นฝอย เข้ากั๊นนน อร่อยไปอีกแบบ....พูดละน้ำลายไหล คนที่ติดกินรสจัดอาจะบอกว่า จืดไป มันเลี่ยนไป แนะนำให้จิ้มกับซอสและกินผักเข้าไปเยอะๆ จ้า

สุดท้ายหลังจากกินไก่เสร็จแล้ว เค้าจะให้เส้นบะหมี่มาลวก แต่เราชาวไทยกินกับอย่างเดียว รู้สึกประหลาดๆ เทเส้นใส่พรวดลงไปเลย  ไม่งั้นไม่อิ่ม ฮ่า...... ระวังเส้นเละนะ ถ้าลวกนาน

 

เบอร์เกอร์หมู จานโต กินกับโซจู อืมมมม เนียน สาวๆ แถวนี้ ไม่ว่าจะมาจากสนพ. ไหน นางคอแข็งมากกระดกแก้วกันพรวดๆ แต่แอบเห็นชายหนุ่มคนไหน รินน้ำเปล่าใส่แก้วโซจู .....เค้ารู้ความลับกันหมดอะเธอ......ส่วนป้าๆ อย่างเค้าต้องถนอมสุขภาพ 55555

4. Paju - Heyri Art Village  แถวนี้มีทั้งร้านอาหารและร้านกาแฟ น่ารักๆ เยอะมากกกกกกกกกกกกกกกก มีร้านนึง เมื่อครั้งที่มาคราวก่อนที่เราบอก อยู่โซนหน้าๆ เป็นร้านที่ถ่าย  F4 เกาหลี ฉากโรงอาหารโรงเรียนไฮโซอะ ต้องเดินลงบันไดไปชั้นนึง แต่ร้านสูงโปร่ง หลังคาสูง หน้าต่างบานกว้าง เปิดรับแสงแดด....ร้านจริงๆ น่ารักมากกกกกก ถ้าใครได้ไป ฝากไปลองกินด้วยนะ (กลับไปดูรูปคอนเท้นเกาหลีครั้งก่อนเอาเอง) ฮิฮิ 

สำหรับ  Cocina อยู่โซนด้านหลังๆ ของเฮริ เป็นร้านอาหารสไตล์อิตาเลี่ยน ตกแต่งน่ารักไม่แพ้กัน

 

หย่อยดีนะ...พิซซ่าหอม เส้นพาสต้านุ่มหนึบ สลัดผักสด กินจนลืมถ่ายรูปอะ ได้มาแค่นี้ กร๊ากกกกกก

 

5. ย่าน  Myeongdong 

หมูย่างงงงงงเกาหลี....เดี๋ยวจะว่ามาไม่ถึงเกาหลี  ร้านนี้อยู่มาทางด้านหลัง แถวๆ โบสถ์เมียงดงค่ะ ชื่อร้านภาษาอังกฤษว่า Maple Tree House  ชื่อเกาหลี 단풍 나무집 (เผื่อใครจะไปเซริชหาพิกัดเอง) อ่านว่า ทันพุง นามู ฉิบ (ทันพุง = ต้นเมเปิ้ล  ฉิบ = บ้าน โคดตรงตัวกะภาษาอังกฤษ ฮ่า)
 

หมูสามชั้น....อืมมมม อะไรนะ...อ้วนหรอออออ ตอนนั้นไม่ทันคิดอะ!!!!!!

หมดเกลี้ยงในพริบตา เราคิดกันไปเองสินะ ว่า ยังไม่หิว แต่มือไปแล้วอะ มิน่า ทะไมมันหมดไวจัง

 

ไม่รอช้า ต่อด้วยเนื้อวัว.....ไม่ต้องบรรยาย ปาดน้ำลายกันเอาเอง ฮิฮิ 

 

เพิ่งรู้เหมือนกันว่าที่เกาหลี เวลากินแบบนี้ ถ้าจะกินหมู ก็กินหมูทีเดียวให้เสร็จ แล้วถ้าจะกินเนื้อต่อ ค่อยกินเป็นอย่างๆ ไป ไม่กินปนกัน เพราะ เตาย่างคนละแบบ สังเกตเตาหมูกะเตาเนื้อให้ดี ไม่เหมือนกันเด้อออ....นวัติกรรมเตาหมูกะทะเกาหลีแบบไทยๆ นี่ มันย่างได้ทุกอย่างจริงๆ 55555 

 

 

กินเสร็จ ตะลุยช็อบกันให้หนำใจ สาวกเมียงดงทั้งหลาย....ขอแจ้งข่าวให้แซ่บทัวกันว่า Forever21 ตึกนั้น ปิดซ่อมอยู่นะคะ รวมไปถึง Kosney สาขาเมียงดงด้วยเช่นกัน  เปิดทำการอีกทีเมื่อไหร่ไม่รู้ ฝันดิชั้นสลายไปในชั่วพริบตา เพราะเดินเมียงดงทีไร มึน งง หลง ขายของคล้ายๆ กันจนซื้อไม่ถูก ขอปลีกตัวจากชาวคณะ ไปตามล่าหาไอเท็ม ที่ Kosney หน้ามหาลัย Ehwa  แทน (สาขา Ehwa ก็เหมือนจะปิดปรับปรุงมาก่อนหน้านี้ไม่นาน กั้นๆ เอาของมายุบรวมๆ กัน ไม่เยอะเหมือนแต่ก่อนอะ)

6. ย่าน Gangnam

ปิดท้ายกันด้วยเมนูเด็ดอีก 1 เมนู..
ชื่อร้านว่า 놀부    유황오리진흙구이 อ่านไม่ออกสินะ...ชื่อโนลบุ  ส่วนชื่อยาวๆ อ่านยากด้านหลังนั่น เป็นชื่อเมนู...ร้านนี้ มีสาขาหลายแห่งนะคะ แต่สาขาที่ไปกิน เป็นสาขาไม่ไกลจาก โรงแรม Seoul Palace ย่านกังนัมนี่แหละ บังเอิญไม่ได้จดพิกัดมา ถ้าใครจะตามไปกิน ก็อบชื่อนี้ ไปใส่กูเกิ้ลแมพดูนะคะ เห็นมีสาขา Jamsil ,  Cheongdam-dong พยายามจะหาข้อมูลเป็นภาษาอังกฤษให้ เจอแต่ภาษาเกาหลี และเว็บ official ดันเป็นแฟลชทั้งดุ้น แปลกันไม่ออกแน่นอน สงสัยชาวต่างชาติยังไม่ฮิตกัน คนที่พาไปกิน ภูมิใจนำเหนอเมนูนี้ เป็นคนเกาหลีจาก Dr.Jart+ ดูแลดีมั่กๆ แทบจะล้มหมู ล้มเป็ดให้กินทุกวัน  55555

ร้านนี้ มีเมนูดังๆ อยู่สองแบบคือ เป็ดอบหม้อดิน ไม่รู้จะแปลเป็นไทยยังไงดีเอาเป็นว่า  เป็ดยัดไส้อบหม้อดิน กับอีกเมนูคือ เป็ดรมควัน 

หน้าตาโลโก้ร้านเป็นแบบนี้ หามาให้จากกูเกิ้ล จะได้ตามไปฟินกันถูก

 

 

เป็ดฮ่ะ....ยัดไส้ข้าว และธัญพืชต่างๆ เกาลัด อัลมอนด์ ถั่วแดง และอื่นๆ ก่อนจะกิน เค้าจะเอากรรไกรตัดกลางตัวเป็ด ข้าวก็จะแผ่ออกมา ตักกินกันตามอัธยาศัย

เนื้อเป็ดนุ่มเปื่อยยุ่ยมากกกกกกกกกกก ข้าวหอม นุ่ม กรุบๆ ถั่วและธัญพืช 

 

หย่อย....(อีกแล้ว เฮ่ย มีไรไม่อร่อยบ้างไม๊...)

 

อันนี้ เป็ดรมควัน...กินกะซอสพริก โคจูจัง กะกิมจิ และผักสด..ชอบมากเลยอ่า.....กะว่า กลับมานี่จะไปซื้ออกไก่อบชานอ้อย มากินกะโคจูจัง และผักสดแทน แก้อยาก จะพอแทนกันได้ไม๊นะ.....แต่ความอร่อยมันอยู่ที่หนังเป็ดมันๆ หอมๆ ด้วยอะดิ แหะๆๆๆๆๆ

 

 

เมนูนี้ มันและอ้วนแต่ พอกินกับผักสดและพริก และกิมจิ มันโคดดดดดดเข้ากันเลย งั่มๆๆ เป็ดสองตัว กินกัน 3 คน/ โต๊ะ...เฮ้ยยไม่ใช่ไม่หมด เกือบหมด!!

 

 

ปิดท้ายด้วยโซเมน ในน้ำซุป ล้างปาก

 

โห....งัดมาหมดทุกมื้อแล้ว ยังไม่ครบ 7  ย่านน้ำ เดี๋ยวมีคนจับผิด

 

เอาอาหารเช้าโรงแรมมาเสริฟอีก 1 ละกันปิดท้าย กร๊ากกกกกกกก จะได้ครบ (โห เล่นง่าย 555555)
อะแม๋...จิงๆ ถ้านับข้าวยำเกาหลี นั่นก็กินบนน่านน้ำมหาสมุทรแปซิฟิคนะเธอ....(กวนตรีนแระๆ ฮิฮิ)

แถมปิดท้าย ด้วยโจ๊กสาหร่าย....หย่อยยยยยย