ใครอยากหุ่นดียกมือขึ้น มาทำอาหาร Healthy กัน

วันนี้แอบมาแชร์อะไรสักหน่อย จริงๆตั้งใจจะเขียนเรื่องการดูแลหุ่นหรือการทานไว้นานแล้ว แต่เวลาชั่งไม่ค่อยเป็นใจ ได้แต่รวบรวมและแชร์ไว้ใน Instagram และ Facebook รายวัน ของตัวเอง  

วันนี้จะขอแชร์ถึงเรื่อง "การดูแลหุ่น และการเลือกทาน"  วันนี้รูปเยอะ ทำแล้วถ่ายไว้ทุกวัน คือรสชาติต้องดี ถ่ายรูปต้องสวย 555555 

ก่อนหน้านี้ เต้มีปัญหาใหญ่ คือน้ำหนักขึ้นมาเกือบสิบกิโล โดยตัวเองไม่รู้ตัว จะว่าไม่รู้ตัวก็ไม่ถูก คือรู้แหละว่าอ้วนขึ้น แต่ไม่รู้ว่ามันพีคมาขนาดนี้  ปกติเป็นคนไม่ชั่งน้ำหนัก คือใส่เสื้อผ้าโอเคคือจบ และจนกระทั่งวันนึง มีเหตุการณ์ที่เต้ทำกุญแจห้องตก(วันนั้นใส่กางเกงแสลคทรงเดป) และตอนก้มเก็บกุญแจ มันก้มไม่ได้!! กางเกงตึง!! สลดมาก เลยไปชั่งน้ำหนักดู อื้อหืมมมมมม และบอกเลยว่าการโดนล้อเลียนเรื่องพุงยื่น หน้าบาน มันไม่ตลก โดยเฉพาะคนที่ไม่เคยอ้วนขนาดนี้ 


นี่คือน้ำหนักที่เริ่มลงไป จากตอนแรก73 ด้วยวิถีการคุมอาหาร การออกกำลังกาย ไม่พึ่งแพทย์ ไม่พึ่งยา ใช้ใจล้วนๆ 



อันดับแรก สิ่งที่ต้องเตรียม คือ "ใจ" ขอให้มุ่งมั่น ใครล้อใครแซวใครชวนกิน ใจแข็งไว้นะจ๊ะ 

ขอให้รักตัวเองจริงๆ สิ่งที่ได้คือรูปร่าง สุขภาพดี จากภายในมาเลย การดูแลตัวเอง ไม่ใช่การแอ๊บทำแค่วันสองวันเลิกพอเป็นกระแส ใครทำคนนั้นได้ อย่าทำให้เรื่องดีๆที่ทำเพื่อตัวเองกลายเป็นเรื่องซีเรียส (นี่พูดตรงมาก โดนมาเยอะ เพื่อนถึงขั้นพนันกันเลยว่าเราจะทำได้กี่วัน 5555)

ด้วยเราไม่ใช่คนออกกำลังกายหนัก แต่สม่ำเสมอ เต้จึงสนใจการคุมอาหาร ดูปริมาณแคลอรี่ สิ่งที่ต้องจำให้ขึ้นใจคือ “กินไปเท่าไหร่ พลังงานที่ใช้ไปต้องมากกว่า” 


มาเตรียมช้อปปิ้งกันดีกว่า เรามักได้ยินว่าอาหารสุขภาพมักจะแพง ตรงนี้ยืนยันว่าไม่จริง สามมื้อต่อวัน เต้ลองหารๆแล้วอยู่ราวๆวันละไม่เคยเกิน200บาทเท่านั้น ทำกินเอง ประหยัดมาก สนุกด้วย เต้ชอบการเข้าครัวและการเดินเล่นในซุปเปอร์มาเก็ตมาก  



หลายๆห้างหลังสองทุ่ม จะมีการเซลล์ผัก ผลไม้ รวมถึงเนื้อสัตว์ หมู ไก่ ปลา มากมายเลย เลือกช้อปกันตามอัธยาศัย ดูวันหมดอายุด้วยน้า เต้ชอบเดินหลังเลิกงาน 

ปัญหาหลัก คือ อาหารเฮ้ลตี้ที่คนส่วนใหญ่มองว่าไม่อร่อย ร้านที่ขายก็ไม่ค่อยมี เพราะคนส่วนใหญ่ถือคติว่า”ทำไมต้องจ่ายในราคาที่เท่ากัน แต่ไร้ไขมัน อร่อยน้อยกว่า ดูเหมือนจะไม่อิ่มเพราะมีแต่ผัก” เราจึงต้องหันมาทำให้มันอร่อย น่ากิน ความสนุกอยู่ตรงนี้ ครีเอทเมนูอาหารให้เหมาะกับตัวเอง 

ปัญหาถัดมา คือ เพื่อนชวนกินบุฟเฟ่ห์ และเต้ติดเบเกอรี่ ชอบทานขนมหวาน  เต้ก็ไม่หักดิบขนาดนั้น คือกินนะ แต่ขอสองสัปดาห์ครั้ง หรือถ้าออกกำลังกายครบ5วัน จะให้ตัวเองเลือกทานได้หนึ่งอย่าง ทานไปเลย ถือคติว่า”อยากกินอะไรต้องได้กิน” ออกกำลังกายมาขนาดนั้น กินสัปดาห์ละครั้ง สองสัปดาห์ครั้ง คงไม่เป็นไร

เนื้อสัตว์ในเมนูส่วนใหญ่ จะทำโดยการ อบ ต้ม นึ่ง บางทีวันหยุดช่วงเช้าอยากตื่นสาย ก็จะกินแค่โยเกิร์ตที่ทำจากนมพร่องมันเนย ก่อนจะมากินจริงจังอีกทีตอนเที่ยง 

ตัวอย่างที่ทำกินแต่ละวัน 



ต้มจืดเน้นผัก แล้วใส่เส้นบุก(แคลอรี่น้อยแต่อิ่ม) เห็ดก็เป็นผักอีกชนิดที่อิ่มอยู่ท้อง ในมื้อเย็น ถ้าวันไหนเต้ออกกำลังกาย ก็จะกินนมผสมเวย์โปรตีน ไม่ก็ไข่ต้มกับส้มตำ แค่นั้น วันทั่วไปก็กินน้ำเต้าหู้ผสมจมูกข้าวและเมล็ดแมงลัก



อาหารทุกอย่าง ไม่ได้ขาดไขมันไปเลยซะทีเดียว แต่เอาให้น้อยลง กาแฟไม่ใส่น้ำตาล เน้นของมีประโยชน์ ทานให้ครบ5หมู่ ส่วนใหญ่เต้จะทำเอง ไปกินร้านก็บ้าง(ชอบกินปลาดิบ) 



เมนูที่ทำบ่อยคือสลัดปลาอบ เพราะทำง่าย เอาไปหมักด้วยน้ำมันงา ใส่โชยุนิดหน่อย อบไมโครเวฟสัก8นาที กินกับผักสดราดซอสญี่ปุ่น เต้ชอบซอสงายี่ห้อ McCORMICK ทานง่ายไม่เลี่ยน น้ำสลัดบางทีก็ครีเอทเองด้วย เพื่อความหนุกหนานไม่จำเจ เพราะเป็นคนเบื่อง่าย เมนูโปรดก็สลัดแซลมอนราดน้ำสลัดวาซาบิ 

กฎเหล็กของเต้คือ 
- อย่าชั่งน้ำหนักบ่อยๆ ใส่เสื้อผ้าโอเคคือจบ ไม่นิยมความผอมแห้ง
- เลี่ยงแป้งในมื้อเย็น
- เลือกทานผักสด และ อาหารปรุงสุกใหม่ๆ เลี่ยงพวกอาหารแช่แข็งหรือกระป๋อง
- รีบแค่ไหนก็ต้องทานอาหารเช้า แบ่งแต่ละมื้อให้เหมาะสม 
- เดินผ่านร้านเบเกอรี่อย่าใจอ่อน (ถ้าออกกำลังกายครบ5วัน แล้วค่อยเลือกรับไป1เมนู)
- เช็คแคลอรี่แต่ละมื้อ มันไม่ใช่เรื่องยาก แค่ประมาณก็ยังดี เพื่อคุมปริมาณการทานให้พอเหมาะ 

เมื่อเราคุมอาหาร น้ำหนักจะลงมาเรื่อยๆ การทำให้น้ำหนักคงที่ ตัวไม่เหี่ยวไม่โทรม คือการออกกำลังกาย เลือกที่เหมาะกับร่างกายและไลฟ์สไตล์ของตัวเอง ส่วนตัวเต้เลือกการโยคะ สลับกับการเล่นเวท เป็นการออกกำลังกายที่ช่วยให้มีสมาธิมาก และก็จะมีแฟ้ม ว่าเดือนนี้ส่วนใหญ่เราทานอะไร ร่างกายเราเป็นยังไง โปรแกรมเฮ้ลตี้นี่บางทีเราลอกมาหมดไม่ได้ ต้องเอาให้เหมาะกับตัวเอง 




ลองสนุกกับการครีเอทเมนู จะได้ทานอะไรหลากหลายขึ้น ไม่มีอะไรตายตัว เน้นสุขภาพเยอะๆสัก80เปอร์เซ็นต์ ที่เหลือก็ความอร่อย ใครสนใจเมนูไหน สอบถามได้ เดี๋ยวมาตอบน้า




ได้ทุกที่ทุกเวลา 55555 รักตัวเองด้วยความจริงเถิด จะเกิดผล "อย่าปล่อยให้ความอ้วนลอยนวล" คือหันมาจริงจังตรงนี้ เพราะพอดีป่วยหนัก เข้าโรงพยาบาลในรอบหกปี ด้วยสาเหตุโรคฮิตพนักงานออฟฟิศ แต่เพียงสามวันร่างกายเราก็ฟื้นคืนสู่สภาพปกติ ด้วยเพราะดูแลภายในมาดี และอย่าลืมทานให้ตรงเวลา มื้อดึกอย่าทำ ตรงนี้สำคัญมากๆ ฝากไว้น้าาาา Fighting!!!
 

Discussion (6)

กำลังลดอยู่เหมือนกันค่ะ  เพิ่งผ่าตัดมา  ยังไม่สามารถออกกำลังกายแรง ๆ ได้ เลย 

 

เป็นผู้ชาย ทำกับข้าวเก่งจังค่ะ 

เห็นรูปแล้วหิวเลยอ่ะค่า 5555 

 กำลังลดอยู่เหมือนกันค่ะ ทำอาหารเองก็สนุกดีค่ะ เพลินๆ ปิดเทอมเลยว่างๆทำได้อยู่ แต่เปิดเทอมนี่สิ 
 ต้องอยู่หอด้วย
 

หนูก็เป็นคนหนึ่งที่สนใจเรื่องสุขภาพเหมือนกัน แต่ก่อนน้ำหนักขึ้นแบบไม่รู้ตัว จาก 53 ขึ้นไป 60 โอ้แม่เจ้า !! พอตอนเลิกกับแฟนทำให้เราคิดได้ เริ่มลดอย่างจริงจัง เริ่มจากการกินอาหาร กินแอปเปิ้ลเขียว เช้า เย็น กับข้าวมื้อกลางวัน ออกกำลังกายทุกวัน วันละหนึ่งชั่วโมงค้ะ ทำแบบนี้มาสักพัก ประมาณ 2 เดือน น้ำหนักลดลงมา 8 โล หายเหนื่อยเลย ถือว่าเราใจแข็งพอ ถึงลดมาได้ขนาดนี้ ตอนนี้ก้ลดอีก แต่เบื่ออาหารเดิมๆ 5555 มาเจอเพจพี่เต้เครอีตอาหารใหม่ๆ น่ากินทั้งนั้นเลย ขอยอมแพ้เลย 555555

น่ากินน 555

ชอบๆๆ ชอบดูGrocery Haul กับพวกวิธีทำอาหารในยูทูปตลอดเลย
แนะนำสำหรับคนที่ลดน้ำหนัก สิ่งที่ควรหลีกเลี่ยงที่สุด!! คือน้ำตาลนะคะ ไม่ใช่ไขมัน
บางอย่างเขียนว่า Low fat แต่น้ำตาลเยอะสุด หลอกกันชัดๆ ยอมกินแบบธรรมดาดีกว่า