Haul: Shopping in UK

การไปต่างประเทศหนึ่งในสิ่งที่ผู้หญิงอย่างเราๆ จะพลาดไม่ได้ นั่นก็คือการ shopping การไป UK ครั้งนี้คือการไปต่างประเทศครั้งแรกของเมย์ค่ะ เมย์เลยอยากมาทำ Haul สิ่งของต่างๆ ที่เมย์ซื้อมาซะหน่อย

 

NIKE: เมย์ไม่เคยใส่รองเท้าของแบรนด์นี้เลยค่ะ เพราะเป็นแบรนด์รองเท้าที่ราคาสูงมากและเมย์ก็ไม่ได้แต่งตัวสไตล์สปอร์ตหรือชอบใส่รองเท้าแนวนี้อยู่แล้ว ก็เลยไม่ได้สนใจอยากได้เท่าไหร่ แต่ที่ตัดสินใจซื้อคู่นี้เพราะว่าน้องสนิทซึ่งเป็นสาวก NIKE การันตีว่าถูกและสวย (ซื้อมาจาก OUTLET นะคะ) คุณค่าที่คุณคู่ควร.. ฮ่าๆ และพอดีกับรองเท้าวิ่งของเมย์ชำรุด เมย์จึงตัดสินใจซื้อมาคู่นึงค่ะ แล้วก็ได้หมวกสวยๆ มาไว้ใส่กันแดดด้วย  

 

L’OCCITANT: ความรู้สึกแรกที่ก้าวเข้าไปในร้านคือ หรูมาก ตกแต่งสวยหรูดูดี ชอบๆ ประทับใจตั้งแต่แรกเห็น และมีการซื้อใจเราด้วยการเสิร์ฟน้ำชาอุ่นๆ ให้จิบท่ามกลางการ shopping ในสายลมหนาว แต่ด้วยบรรยากาศร้านและบริการที่หรูมาก ราคาสินค้าก็สูงตามไปด้วย ทำให้ไม่กล้าที่จะตัดสินใจซื้ออะไรเลย สิ่งหนึ่งที่เมย์ได้ลองคือลิปบาล์ม ตอนแรกก็ไม่ได้ติดใจหรือชอบอะไรเป็นพิเศษ แต่พอกลับบ้านส่องกระจกแล้วชอบริมฝีปากของตัวเองวันนั้นมาก มันสีแดงระเรื่อแล้วก็เรียบเนียนดี ทั้งที่ไม่ได้เติมลิปหลังจากนั้นเลย พอไปเจอ shop ของแบรนด์นี้เลยพุ่งตัวเขาไปอย่างไม่รอช้า และคว้ามาได้หนึ่งกล่องเล็กๆ

 

REAL TECHNIQUE: เมย์ชอบเรื่องความสวยความงามอยู่แล้ว ชอบแต่งหน้า ดูรีวิวของ Blogger ต่างๆ จะเห็นได้ว่าใช้แปรงแต่งหน้าของแบรนด์นี้กันเยอะ ทำให้เมย์เกิดกิเลสอยากได้มาครอบครองบ้าง เมื่อมาถึงประเทศต้นกำเนิดของแบรนด์นี้ทั้งที ก็ขอคว้ามาเป็นของตัวเองซักกล่องสองกล่อง (ใจจริงอยากได้ทุกกล่องเลยค่า)

 

H&M: เพิ่งรู้ว่าแบรนด์นี้ก็มีเครื่องสำอางค่ะ ที่สำคัญราคาไม่แพง ใช้ดี สีชัด ติดทน เมย์ใช้ตลอดระหว่างที่อยู่อังกฤษ ถ้าไม่ติดว่ามีพาเลตเครื่องสำอางที่ยังใช้ไม่คุ้มก็อยากจะซื้อพาเลตของ H&M มาหลายๆ อัน เพราะมีหลายสี หลายเฉด ครีเอทได้หลายลุค น่าสนุกเวลาแต่งสวย

 

HARROD: มาถึงเมืองผู้ดีทั้งที สถานที่ที่หนึ่งที่เราต้องไปนั่นก็คือ ห้าง Harrod ค่ะ เป็นห้างที่ใหญ่และมีสินค้าเยอะมาก ถึงจะมีเวลาในการ shopping น้อยแต่เมย์ก็ได้มาสองชิ้นค่ะ เป็นกระเป๋าขนาดเอสี่เอาไว้ใส่ชีทเวลาไปเรียน และก็เคสไอโฟนสีฟ้าลายน่ารักหวานๆ

 

PRIMARK: แบรนด์นี้ฮิตมากใน UK ไปเมืองไหนก็เจอ โฮสต์ชอบบอกให้ซื้อของแบรนด์นี้ แบบว่าภูมิใจนำเสนอสุดๆ มีสินค้าตั้งแต่พวกเสื้อผ้าเครื่องแต่งกายไปจนถึงข้าวของเครื่องใช้ภายในบ้านค่ะ สินค้าดี ราคาไม่แพง มีแบบให้เลือกเยอะ ส่วนตัวแล้วก็ชอบนะ

 

TOPSHOP: แบรนด์นี้ที่ไทยก็มีแต่ที่นี่ถูกกว่า ตอนอยู่ไทยเมย์ไม่เคยซื้อของแบรนด์นี้เลย เคยเดินเข้าไปแว้บนึง เห็นราคาแล้วออกเลย ความรู้สึกคือแพงอ่ะ แต่พอมาที่อังกฤษ แบรนด์นี้กลับกลายเป็นแบรนด์โปรดของเมย์เลยค่ะ เพราะถูกกว่าที่ไทยเยอะมาก

 

REVLON: นอกจากเมคอัพและน้ำยาทาเล็บเมย์ไม่รู้อะไรเกี่ยวกับแบรนด์นี้เลยค่ะ พอมาเจอเครื่องม้วนผมไฟฟ้าของแบรนด์นี้ก็แอบแปลกใจเล็กๆ แต่ไว้ใจในคุณภาพนะ ปกติเวลาอยู่ที่ไทยเมย์ม้วนผมไม่ติดเลย (ไม่เป็นลอน) แต่อยู่ที่อังกฤษเมย์ม้วนด้วยเครื่องนี้แล้วลอนเด้งมาก ไม่รู้ว่าเป็นเพราะเครื่องดี หรือผมที่เริ่มเสีย แต่ก็ปลื้มสุดๆ ลอนเด้งทั้งวัน โดยไม่ต้องพึ่งมูสหรือสเปรย์เลย และที่สำคัญลอนยิ่งคลายยิ่งสวย รักเลย

 

การซื้อสินค้าใน UK ราคา 30 ปอนด์ต่อหนึ่งใบเสร็จ อย่าลืมขอ VAT Refund ไว้ด้วยนะคะ (พกเอกสารพาสปอร์ตติดตัวด้วย) เอาไว้ไปยื่นขอคืนภาษีก่อนบินกลับประเทศ ในเอกสารเขาจะให้เลือกว่าจะรับเป็นเงินสดหรือให้โอนเข้าบัญชี แต่ครั้งที่เมย์ไปเขาบังคับคืนเงินแบบโอนเข้าบัญชีค่ะ ซึ่งจะได้เงินคืนหลังจากยื่นเอกสารประมาณ 4-6 สัปดาห์ ... จำนวนเงินที่ได้คืนถึงจะไม่มากและไม่คุ้มกับที่ shopping ไปแต่ก็ยังดีกว่ามาได้เลยนะคะ