พัฒนาการความสวยของเค้าเอง(ผู้หญิงอย่าหยุดสวย)

สวัสดีค่ะ ก็ไม่มีอะไรมากหรอก พอดีวันนี้ไปเจอรูปเก่าๆสมัยก่อนตอนที่เคยอ้วน(จากโยโย่เอฟเฟคของยาลดความอ้วน)

ก็เลยไล่หารูปไล่มาจนถึงปัจจุบันมาให้ฮากัน(ว่าเป็นไปได้เหรอเนี่ย???) 

ทุกวันนี้ก็ยังลดน้ำหนักอยู่นะคะ แต่ลดด้วยวิธีออกกำลังกายและคอยควบคุมอาหารเอา

แล้วก็บีเป็นพวกทานอาหารเสริมโน่นนี่อยู่เรื่อย ก็ยังงงๆอยู่ทุกวันนี้ว่าตกลงที่ลดมาได้นี่เพราะอะไรหนอ???

เหมือนจะไร้สาระใช่มั้ย??? ไปดูรูปดีกว่าเนอะ 

 

อันนี้คือรูปสมัยตอนยังกินยาลดน้ำหนักนะคะ ช่วงนั้นเหนื่อยง่าย ใจสั่น เข้าๆออกๆโรงพยาบาลบ่อยมาก จนสุดท้ายพอรู้ว่าเป็นเพราะยาลดความอ้วนนี่แหละเลยต้องหยุดทานไปในที่สุด (ช่วงนี้ยังแต่งหน้าไม่ค่อยเป็น แถมตากแดดไม่มีการทากันแดดก็คล้ำไปตามสภาพ) = ="

หลังจากหยุดยาลดความอ้วนมันก็เริ่มมาเลยค่ะเจ้าน้ำหนักที่หายไปก่อนหน้าเริ่มกลับมา สังเกตุว่าหน้าจะเริ่มบวมขึ้น ช่วงนี้หัดแต่งหน้าแล้ว แต่ก็ยังไม่รู้จักดูแลผิว มีสิวขึ้นตามจมูกและคางตลอด

แต่น้ำหนักมันไม่หยุดแค่ที่ก่อนหน้าที่จะกินยานี่สิ!!! เพิ่มขึ้นมากกว่าก่อนที่จะไปกินยาลดความอ้วนซะอีก 

และด้วยความที่เป็นคนไม่ค่อยออกกำลังกาย มันก็เลยป่องเอาป่องเอา T^T แต่รูปนี้ยังไม่พีคที่สุดค่ะ รูปข้างล่างนี่ถือว่าเป็นตอนที่อ้วนที่สุดในชีวิตเลย

นี่แหละค่ะสภาพ!!! ตอนนั้นรู้สึกน้ำหนักจะอยู่ที่ 82-85 กก.  ตอนนั้นจำได้ว่าไม่อยากส่องกระจกเลย ส่องทีไรก็ร้องไห้ รู้สึกเกลียดตัวเองมากที่ปล่อยให้ขึ้นมาขนาดนี้

สังเกตุได้จากชั้นคางเลยทีเดียว

หลังจากนั้นก็บินไปหาแม่ ช่วงระหว่างที่อยู่กับแม่ แม่จะคอยช่วยบีควบคุมอาหารค่ะ ซึ่งก็ทำให้น้ำหนักบีลดลงมาบ้าง เหลือประมาณ 79-81 กก.

หลังจากนั้นพอกลับไทยก็พยายามควบคุมอาหารตามที่แม่สอน แล้วก็หาวีซีดีเต้นออกกำลังกายบ้าง โยคะบ้าง 

ในรูปนี้บีก็ได้ทำการใหญ่ค่ะ คือไปผ่าตัดเสริมจมูกมา จากที่แหมบไม่มีเลยก็มีดั้งกะเขาแล้ว ส่วนเรื่องลดน้ำหนักตอนนั้นก็มีหาอาหารเสริมที่มีใยอาหารสูงทาน แล้วก็ทานผลไม้ ผักให้เยอะหน่อย งดไขมัน แล้วก็ลดคาร์โบไฮเดรตให้น้อยลงจากกินข้าวที2จาน ก็ลดลงมาเหลือจานเดียว(ปัจจุบันเหลือครึ่งจาน)

นอกจากลดน้ำหนักแล้วก็ยังพยายามดูแลผิวมากขึ้น รู้จักทากันแดด หลีกเลี่ยงแสงแดดบ้าง 

ผลที่ได้คือน้ำหนักค่อยๆลด (แต่ดันมีโรคกระเพาะแถมมาซะนี่!!!)

ตอนนั้นพอน้ำหนักลดก็ดีใจสุดๆ ขยันหาเสื้อผ้านั่นนี่มาใส่ เปลี่ยนสีผมไปมา มีความสุขกับตัวเองมากขึ้น แต่เรื่องแต่งหน้าก็ยังแต่งแบบงูๆปลาๆไปตามประสา ตอนนั้นแต่งเอาเองไม่ได้ดูคลิปหรือบล็อกเกอร์ความงามอะไรกับเขาเลย(ตอนนั้นไม่รู้จักด้วยซ้ำว่าบล็อกเกอร์คืออะไร??)

 

แต่หลังจากนั้นก็ได้บินไปหาแม่อีกครั้ง เนื่องจากอยู่ที่โน่นว่างเพราะฟังทีวีภาษาเยอรมันไม่รู้เรื่อง เลยเปิดเน็ตหาอ่านเว็บไทยแล้วก็มีโอกาสได้หาอ่านเรื่องเกี่ยวกับการแต่งหน้ามากขึ้น ก็พยายามหัดแต่งตามมาเรื่อยๆ

พอกลับไทยมาก็สนุกเลยค่ะ ซื้อทั้งเครื่องสำอางค์ ทั้งแปรงแต่งหน้า อุปกรณ์ต่างๆมาลองเล่น

แล้วก็ได้ไปดัดฟัน

ตอนนั้นก็เริ่มแต่งหน้าคล่องแล้ว 

พอคราวนี้แม่บินมาหาบ้าง แม่ได้มาเห็นคลังแสง(ที่เก็บเครื่องสำอางค์ทั้งหลาย)แม่แอบบ่นใหญ่เลยว่าหน้ามีอยู่หน้าเดียวจะทาให้ถึงชาติหน้ารึไงซื้อมาเยอะขนาดนี้ 555+

แล้วแม่ก็พาไปคลีนิครักษาสิว ก็ดีขึ้นค่ะ มีสิวขึ้นบ้างยามวันนั้นของเดือน แต่ก็ไม่เยอะเท่าเมื่อก่อน แล้วก็ซื้ออาหารเสริมวิตามินซี คอลลาเจนมาทานค่ะ

ตอนนี้สนุกกับการแต่งหน้ามาก เวลาไปเที่ยวก็จัดเต็มแบบนี้ล่ะค่ะ

และล่าสุดเพราะกัดสีผมมากไป ผมเสียจนกู่ไม่กลับ และเริ่มจะมีอาการปวดหัวบ่อยๆโดยเฉพาะช่วงที่เพิ่มเติมโคนมาใหม่ๆ แม่เลยบอกว่าน่าจะเป็นเพราะหนังศรีษะโดนสารเคมีจากการย้อมมากไป จึงตัดสินใจย้อมดำ และจะเลิกเปลี่ยนสีผมอีก กลับคืนสู่สีผมธรรมชาติที่ไม่ได้เห็นมานานหลายปี แล้วก็ได้มีโอกาสไปต่อขนตาถาวรมาค่ะ ^^

รูปนี้ถ่ายล่าสุดเมื่อวาน ตอนนี้ก็ยังคงพยายามลดน้ำหนักอยู่ เพราะน้ำหนักปัจจุบันคือ 57.5 กก. ค่ะ แล้วก็ยังคงไปทำทรีตเมนท์ผิวหน้าที่คลีนิคเหมือนเดิม ไปฟิตเนสบ้างอย่างน้อยอาทิตย์ละ 3 วัน ดูแลตัวเองมากขึ้น

ผู้หญิงอย่าหยุดสวยค่ะ มาพยามกันต่อไปเนอะ สู้ๆ!+++