คิดยังไงที่พ่อแม่ฝ่ายชายจะไม่ยอมจ่ายค่าสินสอด
far12321เราไม่ได้จะแต่งนะคะ เพื่อนเราจะแต่งค่ะ
คือเพื่อนคบกับแฟนมา 5 ปีแล้วค่ะ
พี่เอเราขอบีแต่งงาน แล้วพี่เอก็บอกว่าจะให้พ่อแม่มาคุยกับพ่อแม่บีอย่างเป็นทางการ
แล้วปรากฏว่าตกลงกันไม่ได้ค่ะ เพราะพ่อแม่ฝ่ายชายจะให้หารค่าจัดงานคนละครึ่ง
ถ้าไม่หารก็ไม่จัด!!!! แถมสินสอดฝ่ายพ่อแม่บีเรียกเงินสองแสน ทองสองบาท แต่พ่อแม่พี่เอซึ่งมีกิจการนำเข้าเครื่องจักรจากต่างประทเศและส่งให้กับโรงงานอุตสาหกรรมในไทยกลับบอกว่า ไม่จำเป็นต้องจ่ายหรอกเพราะคบกันมาตั้งนาน
จนไปถึงไหนต่อไหนแล้ว ถึงจะไม่ได้อยู่กันแต่ก็มีอะไรกันไปแล้ว เสียไปแล้วไม่ควรเรียกร้องอะไรมากมาย
พ่อแม่บีเลยบอกว่า มันเป็นธรรมเนียม ค่าเลี้ยงดู อะไรก็ว่าไป พ่อแม่ฝ่ายพี่บีก็ยังไม่ยอม และสุดท้ายก็บอกว่า
ได้!! จะเอาสินสอดมาวางแต่พอจบงานก็เอาคืน!!! พ่อแม่บีเลยบอกว่าก็ให้ลูกไปสิ ให้ไปตั้งตัวกัน
พ่อแม่ฝ่ายพี่เอก็ไม่ยอมอีกค่ะ บอกว่าถ้าปัญหาเยอะก็ไม่ต้องแต่งก็อยู่ๆกันไปเลย
พ่อแม่บีเลยบอกว่า ยังไงก็ต้องมีพิธีเพราะเรามีญาติพี่น้องมีคนรู้จัก ยังไงก็ต้องแต่งเอาหน้าบ้าง จะเล็กจะใหญ่ก็ว่ากันไป
สุดท้ายพี่เอเลยบอกว่าจะเอาเงินของพี่เอ มาขอน้องเองและสินสอดของพี่เอนี้จะยกให้พ่อแม่บีไปเลย
พ่อแม่พี่เอก็ไม่ยอมอีก บอกว่า
"อะไรกัน เสียกันไปถึงไหนต่อไหนยังมาเรียกสินสอดเป็นแสนๆ ไม่รู้ล่ะ ยังไงชั้นก็ไม่จ่ายจะแต่งก็แต่งไม่แต่งก็ไม่แต่ง!!!"
สุดท้ายพี่เลยต้องพาอพ่อแม่กลับบ้าน ฝ่ายสาวบีเพื่อนเราก็นั่งอึ้งไม่กล้ามีปากเสียง
พ่อแม่บีก็บอกว่า ถ้าเค้าพูดขนาดนี้ก็ไม่ต้องแต่งหรอก
พอดีเพื่อนเรามันมาระบายมาร้องไห้ให้เราฟังค่ะ เราก็พลอยลำบากใจไปด้วย เห็นใจมันมาก
จะเลิกก็คิดหนักเพราะคบมานาน ตัวพี่เอเองเค้าก็ดีค่ะ ดีมาก แต่พ่อแม่เค้านี่สิ ส่วนเพื่อนเรา
ตัวบีนี่คบกับพี่เอเป็นคนแรกในชีวิตเลยค่ะ พูดได้เต็มปากเลยว่าใครได้เป็นเมียนี่โคตรโชคดีเลยค่ะ
เพราะนางเป็นแม่ศรีเรือนมาอก หน้าตาสวย ทำงานเก่ง
ส่วนเรื่องที่พ่อแม่ฝ่ายชายว่าถึงไหนต่อไหนกันแล้วเนี่ย เราคิดว่า มันก็(เกือบ)ทุกคนล่ะว้าาา คนมันรักกันนี่
เพื่อนๆคิดยังไงกันคะกับกรณีแบบนี้ เดี๋ยวนี้เค้าไม่ลงทุนกันขนาดนี้เลยหรอ
หรือใครเจอแบบนี้มีบ้างมั้ยแล้วแก้ปัญหายังไง ตอนนี้สงสารเพื่อนมากค่ะ
คือเพื่อนคบกับแฟนมา 5 ปีแล้วค่ะ
พี่เอเราขอบีแต่งงาน แล้วพี่เอก็บอกว่าจะให้พ่อแม่มาคุยกับพ่อแม่บีอย่างเป็นทางการ
แล้วปรากฏว่าตกลงกันไม่ได้ค่ะ เพราะพ่อแม่ฝ่ายชายจะให้หารค่าจัดงานคนละครึ่ง
ถ้าไม่หารก็ไม่จัด!!!! แถมสินสอดฝ่ายพ่อแม่บีเรียกเงินสองแสน ทองสองบาท แต่พ่อแม่พี่เอซึ่งมีกิจการนำเข้าเครื่องจักรจากต่างประทเศและส่งให้กับโรงงานอุตสาหกรรมในไทยกลับบอกว่า ไม่จำเป็นต้องจ่ายหรอกเพราะคบกันมาตั้งนาน
จนไปถึงไหนต่อไหนแล้ว ถึงจะไม่ได้อยู่กันแต่ก็มีอะไรกันไปแล้ว เสียไปแล้วไม่ควรเรียกร้องอะไรมากมาย
พ่อแม่บีเลยบอกว่า มันเป็นธรรมเนียม ค่าเลี้ยงดู อะไรก็ว่าไป พ่อแม่ฝ่ายพี่บีก็ยังไม่ยอม และสุดท้ายก็บอกว่า
ได้!! จะเอาสินสอดมาวางแต่พอจบงานก็เอาคืน!!! พ่อแม่บีเลยบอกว่าก็ให้ลูกไปสิ ให้ไปตั้งตัวกัน
พ่อแม่ฝ่ายพี่เอก็ไม่ยอมอีกค่ะ บอกว่าถ้าปัญหาเยอะก็ไม่ต้องแต่งก็อยู่ๆกันไปเลย
พ่อแม่บีเลยบอกว่า ยังไงก็ต้องมีพิธีเพราะเรามีญาติพี่น้องมีคนรู้จัก ยังไงก็ต้องแต่งเอาหน้าบ้าง จะเล็กจะใหญ่ก็ว่ากันไป
สุดท้ายพี่เอเลยบอกว่าจะเอาเงินของพี่เอ มาขอน้องเองและสินสอดของพี่เอนี้จะยกให้พ่อแม่บีไปเลย
พ่อแม่พี่เอก็ไม่ยอมอีก บอกว่า
"อะไรกัน เสียกันไปถึงไหนต่อไหนยังมาเรียกสินสอดเป็นแสนๆ ไม่รู้ล่ะ ยังไงชั้นก็ไม่จ่ายจะแต่งก็แต่งไม่แต่งก็ไม่แต่ง!!!"
สุดท้ายพี่เลยต้องพาอพ่อแม่กลับบ้าน ฝ่ายสาวบีเพื่อนเราก็นั่งอึ้งไม่กล้ามีปากเสียง
พ่อแม่บีก็บอกว่า ถ้าเค้าพูดขนาดนี้ก็ไม่ต้องแต่งหรอก
พอดีเพื่อนเรามันมาระบายมาร้องไห้ให้เราฟังค่ะ เราก็พลอยลำบากใจไปด้วย เห็นใจมันมาก
จะเลิกก็คิดหนักเพราะคบมานาน ตัวพี่เอเองเค้าก็ดีค่ะ ดีมาก แต่พ่อแม่เค้านี่สิ ส่วนเพื่อนเรา
ตัวบีนี่คบกับพี่เอเป็นคนแรกในชีวิตเลยค่ะ พูดได้เต็มปากเลยว่าใครได้เป็นเมียนี่โคตรโชคดีเลยค่ะ
เพราะนางเป็นแม่ศรีเรือนมาอก หน้าตาสวย ทำงานเก่ง
ส่วนเรื่องที่พ่อแม่ฝ่ายชายว่าถึงไหนต่อไหนกันแล้วเนี่ย เราคิดว่า มันก็(เกือบ)ทุกคนล่ะว้าาา คนมันรักกันนี่
เพื่อนๆคิดยังไงกันคะกับกรณีแบบนี้ เดี๋ยวนี้เค้าไม่ลงทุนกันขนาดนี้เลยหรอ
หรือใครเจอแบบนี้มีบ้างมั้ยแล้วแก้ปัญหายังไง ตอนนี้สงสารเพื่อนมากค่ะ
Discussion (21)