[Re'View] SkinCerity สกินแคร์แนวใหม่ กลิ้งแล้วสวย !!

สวัสดี ครับวันนี้พีทจะมารีวิวสกินแคร์แนวใหม่ ที่พีทเห็นแล้วน่าสนใจเลยลองสั่งมาดูให้รู้แล้วรู้รอดไปกับแบรนด์ SkinCerity ที่เค้าบอกว่าดีนักดีหนา ไอโรลออนมาส์คหน้ากลิ้งละสวยเนี่ยราคา 2000 กว่าบาท เป็นราคาที่สั่งจากอเมริกาซึ่งเมืองไทยผมไม่ทราบราคาที่แน่ชัดว่าจะบวกอะไร เพิ่มเติมแค่ไหน แต่ว่าก่อนอื่นเลยเรามารู้จักกับแบรนด์นี้กันก่อนเลยครับผม

Skincerity เป็นความก้าวหน้าทางแพทย์อย่างแท้จริง คุณสามารถใช้ ผลิตภัณฑ์เพียงอย่างเดียวก็ได้ หรือจะใช้ร่วมกับครีมอื่นๆก็ได้หลักสำคัญทางวิทยาศาตร์ของ Skincerity ทำหน้าที่เปรียบเสมือนฟิล์มเคลือบชั้นผิวที่ระบายอากาศได้ จึงทำให้ครีมที่เราใช้มีประสิทธิภาพมากขึ้นการเคลือบผิวแบบพิเศษนี้ถูกคิด ค้นโดย Biomedical Development Corporation และได้รับการวิจัยจากสถาบันโรคผิวหนังซึ่งอยู่ภายใต้สถาบันสุขภาพแห่งชาติ (the National Institutes of Health) การพัฒนาทางด้านวิทยาศาสตร์ชีวการแพทย์ที่ล้ำหน้าในตอนนี้คือ Skincerity ซึ่งทำหน้าที่เปรียบเสมือนผิวชั้นนอกของเรา และซ่อมแซมผิวเราจนเราสัมผัสและรู้สึกได้ฟิล์มระบายอากาศนี้เลียนแบบผิวหนัง ของคน ในแผ่นฟิล์มมี รูพรุนขนาดไมโคร ซึ่งจะทำงานขณะที่คุณนอนหลับ แผ่นฟิล์มจะรักษาความชุ่มชื่นตามธรรมชาติของผิวเรา และจะกระตุ้นให้ผิวเราเกิดการระบายอากาศ

Skincerity มีอะสิโตนสามารถฆ่าเชื้อแบคทีเรียบนผิวเราได้ เชื้อแบคทีเรียที่อาศัยอยู่บนผิวหนังเรา สามารถที่จะทำลายเซลล์เรา และเป็นต้นเหตุที่ทำให้เกิดสิว ดังนั้น Skincerity สามารถที่จะช่วยเราลดสิวได้จากต้นตอของปัญหาและยังมีวิตามิน อี และน้ำมันสกัดจากเมล็ดองุ่น ไปยังผิว ซึ่งเป็นที่ทราบกันดีว่า วิตามิน อี มีสารต้านเอนตี้ออกซิเด้น ที่ช่วยปกป้องผิวเราจากการถูกทำร้ายจากแสงแดด ลดการก่อตัวของอนุมูลอิสระ นอกจากนั้น ผิวหนังของเรา ยังดูดซึมวิตามิน อี  เพื่อไปรักษาผิวหนัง ต่อมา น้ำมันสกัดจากเมล็ดองุ่น มีสารแอนตี้ออกซิเด้นสูง สามารถช่วยซ่อมแซม เนื้อเยื่อที่ถูกทำร้าย และคืนความชุ่มชื่นให้ผิวหนัง ที่สำคัญช่วยลดอนุมูลอิสระที่เป็นต้นเหตุของริ้วรอย

ซึ่ง วิธีใช้ของมันก็คือกลิ้งหน้าแล้วนอนซะ มันจะเป็นฟิลม์บางๆเคลือบผิวหน้าเอาไว้เป็นสารบำรุงที่สามารถกักเก็บไว้ได้ ยาวนานตลอดทั้งคืนด้วยฟิลม์ อะสิโตน ซึ่งตอนเช้าตื่นมาเราต้องค่อยๆล้างน้ำออกและขัดเบาเบาให้ฟิลม์หลุดออกมา มันจะช่วยผลัดเซลล์ผิวที่ตายแล้วออกมาได้อย่างอ่อนโยนอีกด้วยครับ ดั่งในภาพด้านล่างที่ผมกำลังลอกเจ้าฟิลม์ผมใบหน้าของผม

ก่อน ใช้ผมเองมีรอยสิวประปราย ซึ่งบอกก่อนว่าสองภาพนี้เป็นใบหน้าที่สด โดยล้างเครื่องสำอางออกหมดแล้วจะสังเกตุได้ว่ารอยสิวและจุดด่างดำดูจางลง อย่างเห็นได่ชัด โดยส่วนตัวผมบอกตามตรงว่าผมชอบผลลัพธ์ที่ได้ของผลิตภัณฑ์มากแต่มีข้อเสีย อยู่บ้างตรงเรื่องของกลิ่นที่ค่อนข้างรุนแรงจากอะสิโตน และหาซื้อยากเพราะเมืองไทยยังไม่ค่อยมีขายมากนักแต่ถ้ามีผมจะมาอัพเดทอีกที นะครับซึ่งคาดว่าเพื่อนๆคงไม่ผิดหวังแน่นอนครับ
 

สรุป โดยรวมผิวหน้าดูสดใสเปล่งปลั่งมากขึ้น รู้สึกว่าผิวเราดูสุขภาพดีประมาณนั้น ถ้าหมดก็คงซื้อใช้ต่อครับ แหม่ถ้ามีขายในเมืองไทยก็ต้องรีบคว้าละ (แต่ไม่ทราบเท่าไหร่นะครับ) ถ้าเกิดทางแบรนด์สามารถปรับเรื่องของกลิ่นได้ ผมจะให้เป็นมาส์คสุดยอดบำรุงในตอนนี้ทีทาแล้วสวยภายในค่ำคืนครับ สำหรับวันนี้การรีวิว SkinCerity ก็ขอจบเพียงเท่านี้ยังไงถ้าเพื่อนๆมีคำถามอะไรสงสัย ก็ถามกันมาได้เลยครับ