น้ำตาเด็กมหาลัยไกลบ้าน

สวัสดีค่ะ สาวๆจีบัน
เราเพิ่งจะเข้ามหาลัยแห่งหนึ่งในอังกฤษ เป็นปีแรก แต่เราเรียนมัธยมในอังกฤษมาแล้วสองปี ตลอดมา เราจะมีปัญหาเรื่องคิดถึงบ้านเอามากๆ ปีแรกที่มาอยู่เราถึงกับเป็นซึมเศร้าเลย แม้ว่าเราจะกลับบ้านบ่อย(ปีละ3ครั้ง ครั้งละเดือน กับปิดเทอมใหญ่สองเดือน) เราก็ยังชอบอยู่บ้าน คิดถึงพ่อกับแม่ คิดถึงเพื่อนๆที่เมืองไทย ปีที่แล้วคือ ม.6 เราไม่เป็นไรมากเพราะโฮสกับครูดูแลดี แต่ตอนนี้มาอยู่ปีหนึ่ง รู้สึกทุกอย่างมันเคว้งไปหมด มหาลัยใหญ่มากๆๆๆๆๆ แล้วเราเรียนวิชาสายศิลป์ที่อย่าว่าแต่คนไทย ไม่มีต่รงชาติเรียนด้วยซ้ำ เราเป็นคนค่อนข้างขี้อาย เลยไม่รู้จะพูดอะไรกับเพื่อนๆดี แล้วเราก็ไม่ชอบไปปาร์ตี้ดึกๆอย่างเด็กอังกฤษเค้า แต่เราอยากมีเพื่อนมากเลยค่ะ เพราะเราเหงา โทรไปขี้แยกับพ่อแม่ตลอด เราห่วงเรื่องเรียนด้วย เพราะเราเป็น นร ทุน ต้องmaintain เกรดให้สวยๆ กดดันมากเลยค่ะ

เพื่อนๆที่เรียนมหาลัย ไม่ว่าจะไทยหรือเทศ มีประสบการณ์แบบนี้บ้างไหมคะ แชร์กันหน่อยนะคะ ขอบคุณที่ฟังเราดราม่าค่ะ รักเพื่อนๆทู๊กคนค่า

Discussion (8)

เข้าใจความรู้สึกเลย  แต่เราแค่เรียนต่างจังหวัด  ร้องไห้ตลอด จากเด็กที่ไม่เคยทำอะไรเองเลย  ต้องทำเองทุกอย่าง  แต่ช่วงแรกๆๆ กลับบ้านทุกอาทิตย์  พอช่วงหลังๆๆดีขึ้น  อยู่ได้แล้ว

 

จขกท.สู้ๆๆนะค่ะ  หากิจกรรม หรือกีฬาเล่นก็ดีนะค่ะ 

เราก็ไม่ชอบ party แต่ก็มีอีกตั้งหลายวิธีที่จะทำให้สนิทกับเพื่อนๆต่างชาตินะคะ

(บางที ถึงไปปาร์ตี้ก็ไม่ได้ช่วยให้สนิทกัน เอาจริงๆก็ไปเฮฮากันอย่างเดียว ไม่ได้คุยกันหรอก)

 

ไปนั่งห้องสมุดอย่าง คห.1 ว่าก็ดีค่ะ

มันเป็นสถานที่ที่อยู่นั่งคนเดียวแต่ไม่รู้สึกเหงา อยู่กับตัวเองได้ อ่านหนังสือเรียน อ่านอะไรเล่นๆชิลๆก็ได้

ถ้าอยู่หอคนเดียว หรือไปนั่งร้านกาแฟคนเดียว บางทีเหมือนชิล แต่บางทีก็จะแอบเหงานะ

 

คุยกับเพื่อนในคลาส หากิจกรรมทำ เช่นกีฬา...

อย่างที่เราเคยไป เค้าจะมีนัดตีแบตกันทุกวันพุธ ทุกวันพฤหัส อะไรก็ว่าไป... เราก็ไปจอยกันเขาก็ได้

หรืออย่างที่เราเคยอยู่ (เยอรมัน) เค้าก็จะมีบาร์บีคิวปาร์ตี้กันตอนบ่ายๆถึงเย็นๆ

เราก็ไปสนุกๆกับเพื่อนๆ... เขามี after party กันต่อตอนกลางคืน เราก็ไม่ต้องไปก็ได้ถ้าไม่ชอบ

 

ไปอยู่ต่างบ้านต่างเมือง อาการเหงาคงมีทุกคนอ่ะค่ะ

(ขนาดไปเมืองที่มีเพื่อนๆ นร.ไทยอยู่บ้าง ยังแอบเหงาเลยบางที) 

แต่การปรับตัว เข้ากับเพื่อนๆที่นู่นให้ได้เป็นเรื่องสำคัญมาก

ถ้าเราเรียนรู้ที่จะปรับตัวกับชีวิตที่นั่นให้ได้ ถึงเหงาบ้าง แต่ก็สนุกค่ะ

สู้ๆนะคะ :)))

เข้าใจนะค่ะ เราอยู่กรุงเทพ แต่สอบติดที่เชียงใหม่ ดีใจมากเลย ได้ไกลพ่อแม่ อยากคิดตัดสินใจเอง  ผ่านไป 1 เดือนคิดถึงบ้านมากๆ โทรไปคุยเราก็เสียงสั่น แต่ไม่อยากให้พวกเขารู้ พอวางปล่อยโฮเลย มาอยู่นี่ทำเองทุกอย่าง ซักผ้าเองล้างจานเอง บางทีซักผ้าด้วยมือจนมือถลอกไปหมด  กวาดบ้าน เดินไปเรียนเอง หาข้าวกินเอง จัดตารางชีวิตเอง  อยู่บ้านพ่อแม่ยังไปรับไปส่งตอนไปเรียนตลอด ตั้งแต่อนุบาลถึงมอหก กลับบ้านเองไม่เกิน 20 ครั้ง ข้าวเช้าได้กินทุกวัน ตื่นมามีอาหารรอ แม่ซักผ้าให้ อยู่บ้านกินกับนอน  อยู่กรุงเทพมีแก๊งเพื่อนประจำ เฮฮา มาอยู่นี่เจอใครไม่รู้ ไม่รู้จักซักคน อาทิตย์แรกกินข้าวคนเดียว กินไปปาดน้ำตาไป ทุกวันนี้อยู่ปีสาม ไม่ได้กลับบ้านมา 4 เดือนแล้ว แต่เราได้อะไรมากมาย ได้เพื่อนใหม่ๆ ได้เพื่อนดีๆ ทุกวันนี้บ้าๆบอแล้วค่ะ 5555 ทำอะไรเป็นเองหมด จัดการชีวิตตัวเองเอง ตัดสินใจทุกอย่างเอง ที่สำคัญจากเด็กที่ไม่กล้าบอกรักพ่อแม่ กลายเป็นเด็กที่พูดคำว่ารักเสมอ กล้าแสดงความรัก กล้าที่จะกอดอย่างไม่เขิน เพราะเราอยากเก็บเกี่ยวความทรงจำดีๆให้มากที่สุด ^^

ยังดีที่ได้กลับบ้านค่ะ เราเคยเรียน Sydney สามปี ไม่เคยกลับบ้านสักครั้ง โทรไม่ถึงยี่สิบครั้งด้วยซ้ำ เหมือนได้มาปลดปล่อย ลืมเรื่องที่บ้านไปเลยค่ะ party บ้างก็ดีนะคะ อย่างน้อยก็จะได้เพื่อนกลับมาบ้าง ระวังเรื่องยาด้วยนะคะ UK ไม่ค่อยมี Asians อยู่หรอคะ? Sydney มีแต่ Asians 55555 internet ก็ช่วยได้นะคะ พวก interpals อะไรพวกนี้อ่ะ หรือไม่ก็แอด facebook เรามาคุยได้นะคะ ถ้าเหงา 5555 แต่ทางที่ดี outgoing บ้างเหอะค่ะ ไม่้เห็นจำเป็นต้องอยู่ในกรอบตลอดเวลาเลย ปลดปล่อยบ้างก็ดีนะคะ :) 

 

take care ka :-* 

เพื่อนทางอินเตอร์เน็ตที่ไว้ใจได้รึแฟนสักคนช่วยได้เยอะค่ะ 55555

ลองคุยกับใครสักคนที่ระบายความอัดอั้นได้สิคะ :D

โทรกลับหาพ่อแม่ก็ได้ค่ะ คุยว่าเราเจออะไรบ้างวันนี้ .. แชร์ให้ท่านรู้ค่ะ แล้วเราจะสบายใจ

แต่ไม่ต้องบอกว่าเราไม่ค่อยมีเพื่อนนะค่ะ เดี๋ยวท่านจะเป็นห่วง

เราก็อยู่ต่างประเทศนะคะ เข้าใจดี ..  แรก ๆ ก็เข้าโหมดซึมเศร้าค่ะ แต่พยายามติดต่อกับเพื่อนอินเตอร์เนตเยอะๆ ก็ช่วยได้ค่ะ

พอเปิดเทอมใหม่ ห้องเรา .. มีต่างชาติไม่กี่ชีวิตเรียนร่วมกับเจ้าของชาติล้วน ๆ  อีก 10 ชีวิต

ทุกคนไม่ค่อยชอบคุยกับต่างชาติอย่างเราค่ะ เพราะเค้ากลัวไม่เข้าใจกันและกัน .. จนทุกวันนี้ก็ไม่ค่อยคุยเหมือนเดิมค่ะ

แต่สิ่งแรกเลยคือ กล้าและมั่นใจค่ะ ลองชวนเค้าคุยเรื่องทั่ว ๆ ไป ไม่ว่าจะเรื่องเรียน เรื่องเครื่องสำอาง

อาจจะใช้เวลานานสักนิด แต่ให้เค้ารู้ค่ะ ว่าเป็นมิตรกับเค้า และอยากเป็นเพื่อน

สู้ ๆ นะค่ะ เป็นกำลังใจให้ ^___________________^

 

ปล. ยังโชคดีนะค่ะ ที่ได้กลับบ้านบ่อย ๆ 3 ครั้งต่อปี

ของเรานี่ .. เกือบ ๆ 2 ปีต่อ 1 ครั้งเลยนะค่ะ คุณโชคดีแล้วค่ะ