รีวิว ครีมกันแดด
Mamajom1013ความสำคัญของครีมกันแดดกับผิว มีมากน้อยแค่ไหน ขอตอบว่าสำคัญมากนอกจากป้องกันปัญหามะเร็งผิวหนังแล้ว ยังช่วยป้องกันริ้วรอยก่อนวัยอันควรด้วย ยกตัวอย่างให้นึกภาพ นาง A เป็นผู้หญิงวัย 45 ที่อยู่ในกรุงเทพฯ กับนาง B ผู้หญิงวัย 45 ที่อยู่ต่างจังหวัด คุ ณคิดว่าใครจะดูแก่กว่ากัน ใช่ค่ะ นาง B จะดูแก่กว่า เพราะสิ่งแวดล้อมในเมืองทำให้คนให้ความสำคัญของครีมกันแดดมากกว่าคนต่างจังหวัด แต่ก็ไม่ใช่จะทุกคนนะคะ บางคนใส่ใจดูแลตัวเองดีมากกว่าคนในเมืองด้วยซ้ำไป
เมื่อเราเห็นความสำคัญของครีมกันแดดที่มีต่อผิวแล้ว การเลือกครีมกันแดดที่เหมาะกับผิวจะเลือกอย่างไร นั่นคือคำถามถัดมาค่ะ เพราะครีมกันแดดที่เหมาะกับผิวจะทำให้กันแดดอย่างมีประสิทธิภาพโดยที่ทาแล้วรู้สึกสบายผิวไม่เหนอะ ไม่เยิ้ม
อันดับแรก ดูที่ผิวเราก่อนค่ะ สังเกตการทนต่อแดดของผิวเรา ว่าผิวที่ไม่ได้ทาครีมกันแดด จะทนแดดได้โดยไม่ร้อนแดง นานแค่ไหน ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับสีผิวด้วย -- ผิวสีเ้ข้ม = มีเมลานินมาก = ทนได้นาน
อันดับต่อมา ดูความต้องการใช้ในวันนั้นๆค่ะ เช่น วันปกติธรรมดา โดนแดดเล็กน้อยเฉพาะตอนออกไปทานมื้อเที่ยงนอกนั้นทำงานอยู่ในออฟฟิศหน้าคอมพิวเตอร์ (ซึ่งมีรังสีอัลตร้าไวโอเลตด้วยเหมือนกัน) ให้เลือก SPF 30 PA +++
แต่ถ้าเป็นวันหยุด ไปทะเล ไปตีกอล์ฟ ไปทำกิจกรรมกลางแจ้ง ที่จะต้องมีเหงื่อไหลไคลย้อยให้เลือก SPF 50 PA+++
ค่า SPF มากกว่านี้คือไม่จำเป็นค่ะ เพราะอะไร มาดูกัน
SPF 50 จะเท่ากับ 50เท่า ของผิวที่ไม่ทากันแดด
สมมติถ้าเมื่อโดนแดด ผิวจะร้อนแดงใน15นาที
จะเท่ากับ 15 * 50 = 750 นาที หรือ 12.5 ชั่วโมง
แปลว่า ถ้าเราครีมกันแดดที่มีค่า SPF 50 ผิวจะทนแดดได้ 750 นาที = 12.5 ชั่วโมง
วันหนึ่งๆเราจะออกแดดนานขนาดนั้นหรือเปล่าคะ ตอบว่าไม่ แต่ทำไมต้องเลือกที่มีค่า SPF สูงๆเพราะมันจะทนน้ำ(เหงื่อ)ได้ดีกว่าเล็กน้อย เพราะจะมีส่วนผสมของน้ำมันมากกว่า แต่ก็จะทำให้เกิดสิวอุดตันได้ง่ายกว่าครีมกันแดดที่มีค่า SPF ต่ำกว่านั้น
ส่วนค่า SPF 30 ก็จะเท่ากับ 15*30 =450 นาที หรือ7.5 ชั่วโมง
อย่างไรก็ตามเมื่อโดนเหงื่อบ่อยๆซ้ำๆ ครีมกันแดดก็จะหายไปได้ระหว่างวันอยู่ดี จึงควรทาซ้ำบ่อยๆ ในเมื่อต้องทาซ้ำๆบ่อยๆเมื่อโดนเหงื่อก็ทาแบบที่มีค่า SPF 30 ไปเลยดีกว่าเพราะจะเหนอะน้อยกว่าอยู่แล้ว
แล้วค่า PA ที่ต่อท้ายคืออะำำำำไร PA ย่อมาจากคำว่า Protection Grade of UVA หรือระดับการป้องกันแสง UVA เอาง่ายๆเลือก PA+++ เพราะกันได้สูงสุด ตรงนี้ต่างหากที่สำคัญ ไม่ใช่ตัวเลข SPF เพราะรังสี ยูวีเอ นั่นแหละที่ทำร้ายผิว ทำให้แก่ก่อนวัย สาเหตุที่สำคัญของ ฝ้า กระ และมะเร็งผิวหนัง
วิธีการทาครีมกันแดดก็สำคัญ ควรทาก่อนออกแดดประมาณ20-30 นาที ไม่ใช่ทาปุ๊บออกไปทะเลเลยจ้า อัันนั้นครีมกันแดดยังไม่ทำงานเลย แล้วทารอไม่ไหวทำยังไง คำตอบคือให้เลือกครีมกันแดดที่เป็นPhysical Sunscreen ที่มีแค่สารกันแดด Titanium Dioxide & Zinc oxide อันนี้จะเหมาะกับคนท้องที่กังวลเรื่องสารเคมีด้วยค่ะ แต่ข้อเสียของครีมกันแดดประเภทนี้คือ ทาแล้วหน้าวอก และไม่กันน้ำและเหงื่อ เพราะฉะนั้นออกกลางแจ้งต้องเติมบ่อยมากๆ เท่าที่เห็นในท้องตลาด ครีมกันแดดแบบ Physical Sunscreen คือ สมูทอีนะคะ ไม่เคยลองใช้เหมือนกัน
สรุป ผิวมัน ผิวผสม ไม่ได้มีกิจกรรมกลางแจ้ง จงเลือก SPF 30 PA +++
ผิวมัน ผิวผสม มีสิว ไม่ได้มีกิจกรรมกลางแจ้ง ยังเป็น SPF 30 PA +++
ผิวแห้ง ไม่ได้มีกิจกรรมกลางแจ้ง เลือกได้ทั้ง SPF 30 PA +++ และ SPF 50 PA +++
ผิวแห้ง มีกิจกรรมกลางแจ้ง เลือกได้ทั้ง SPF 30 PA +++ และ SPF 50 PA +++
จำไว้ว่า ไม่ว่าจะผิวประเภทไหน เมื่อเหงื่อออกต้องเติม และต้องทำความสะอาดด้วยคลีนเซอร์ประเภท น้ำนมหรือน้ำมัน เพราะน้ำมันต้องล้างออกด้วยน้ำมัน
ค่าSPF มากๆไม่ได้จำเป็น คือเลขเยอะไม่ได้แปลว่ากันแดดได้เยอะกว่าแค่กันแดดได้นานกว่า และไม่เหมาะกับคนที่เสี่ยงเป็นสิว
ค่าPA +++ ต่างหากที่เราต้องเลือก ให้เลือกที่มีเครื่องหมาย + สามอัน
มาดูครีมกันแดดที่ใช้อยู่ช่วงนี้บ้าง ปกติครีมกันแดดจะมีทั้งทาที่หน้าและทาที่ตัวค่ะ ที่ทาตัวจะมันกว่าอยู่แล้ว ที่เราจะเลือกกันเยอะๆคือ ครีมกันแดดทาหน้ามากกว่า ปัญหาอันดับแรกคือ ความมัน ทาแล้วเยิ้มหรืิอไม่ จ๋อมทดสอบให้ดูด้วยการเทสต์ลงบนแผ่นฟิล์มซับมัน ผลการทดสอบได้ตามภาพค่ะ
ชิ้นแรก Biore UV Aquarich SPF 50 PA +++ อันนี้ทาตอนไปทะเล เหมือนจะมันแต่ไม่มัน เนื่องจากเป็นสูตรน้ำ คนผิวผสมและผิวมัน แนะนำอันนี้
ชิ้นที่สอง ZA SPF 40 PA +++ เยิ้มพอควร ไม่เหมาะกับคนผิวมัน แนะนำสำหรับสาวผิวแห้ง
ชิ้นที่สาม ลูกรัก Biore UV Aquarich Water Jelly Water base สูตรน้ำเนื้อเจล ทาแล้วเย็นสบายผิวเหมาะกับหน้าร้อน ในชีวิตปกติประจำวัน ได้ทุกผิวค่ะ ทาตัวก็ได้นะ ข้อเสียคือไม่กันน้ำแต่ด้วยความที่เนื้อเป็นเจลทำให้เติมในระหว่างวันได้ง่าย ทาทับเครื่องสำอางได้เลย
ชิ้นที่สี่ ใช้ล่าสุด ตอนลองตกใจที่มันเยิ้มลงบนฟิล์มอย่างรวดเร็ว ต้องมันแน่ๆ แต่ไม่ใช่เลยเมื่อได้ทาจริง ไม่ทิ้งความเหนอะหนะไว้บนผิวเลย หน้าไม่มันระหว่างวัน
ส่วนผสมลำดับต้นๆเป็นน้ำนี่เอง นอกจากนี้ยังมีส่วนผสมของอโลเวรา และสมุนไพรต่างๆด้วย มิน่าทาแล้วรู้สึกดีมากๆ ขึ้นมาเป็นลูกรักอีกตัวนึงเลย ราคา 420 บาท ขนาด 60 ml ซื้อที่วัตสันค่ะ ลืมบอกชื่อ มันคือHawaiian Tropic Facial Sunscreen Lotion SPF 50 UVA/UVB PA+++
ใช้นิดเดียวก็ทาได้ทั่วทั้งหน้าแล้วค่ะ ลองเทสต์ให้ดูที่แขนบีบเยอะไปหน่อยทาได้ทั้งแขนเลย ไม่เหนอะ ไม่เยิ้มระหว่างวัน แนะนำอีกตัวเลยสำหรับคนที่มองหาครีมกันแดด
ที่รีวิวมาทั้งหมด คือครีมกันแดดที่ใช้จริง คนที่กำลังเลือกครีมกันแดดอยู่เอาข้อมูลที่ให้ไปประกอบการตัดสินใจดูนะคะ เลือกที่เหมาะและจำเป็นกับผิวเราจริงๆ และ ทำความสะอาดให้หมดจดด้วยค่ะ จะได้ไม่เป็นสิวอุดตัน
ขอบคุณที่อ่านจนจบค่า พบกันใหม่รีวิวหน้าค่ะ
ขอบคุณที่อ่านจนจบค่า พบกันใหม่รีวิวหน้าค่ะ
Discussion (13)
@ Saoploii จริงป่าวลดเยอะนะคะ ไปมั่งๆ