น้องหมีพาชิม Let Them Eat Cake
flinkz23101พลาดที่จะแต่งตัวตามสไตล์ร้านเพื่อรับรส บรรยากาศได้อย่างเต็มที่
สไตล์การตกแต่งของทางร้านนี้จะเน้นไปที่สี ขาวล้วนๆ ไม่ว่าจะเป็นเชิงเทียน แจกัน จานชาม หรือแม้กระทั่งโคมไฟของที่ร้านยังใช้ชุดถ้วยชาในการประดับตกแต่ง
เมนูใช้เป็นรูปวาดให้อารมณ์ศิลปินดีจริงๆเลย หมีชอบ แต่จากที่เห็นในรูปเมนูยังไม่ได้อรรถรสเท่าเห็นด้วยตา หมีขอไปเลือกเองเลยดีกว่าจะได้ถูกใจสุดๆ
ที่ตู้ข้างหน้าร้านมีเค้กเรียงรายกันเต็มไป หมดเลยและรู้สึกว่าที่นี่จะมีแต่อะไรที่เป็นกุหลาบๆนะ อย่างเช่นเค้กก็จะมีทั้งมูสกุหลาบ พุดดิ้งกุหลาบ อีกทั้งยังล้วนแต่สอดไส้ราสเบอร์รี่ทั้งนั้นเลย หมีไม่รู้จะทานอะไรดีเลยสอบถามเขาว่า Signature ของที่นี้คืออะไร พี่เขาบอกหมีว่า Mango Bellini หรือหมีจะเรียกง่ายๆว่า เค้กมูสมะม่วงสอดไส้เยสลี่พีชที่จะขายดี แต่ถ้าเป็นคนที่ชอบช๊อกโกแลตอาจจะมีตัวเลือกน้อยหน่อยเพราะเขาทำมาแค่ 2 ตัวเท่านั้น คือ Caeur Noi (เกอร์ นัวร์ – เป็นบิสกิตช๊อกโกแลตราดด้วยมูสดาร์คชอคโกแลตทำเป็นรูปหัวใจโรยด้วยราสเบอร์รี่อบแห้งแบบแตกด้วยนะ) และ All-Chocolate Tart หมีจะสั่งแล้วนะคร๊าบบบ
เลือกไม่ถูกเลยน่ากินไปทุกชิ้นน่าถ่ายรูปไปสะหมดและในวันนี้หมีขอสั่ง เค้ก 3 ชิ้น, คาปูชิโน่ร้อน,โซดาดอกไม้แก่!?
ขออ้างอิงถึงคาปูชิโน่ร้อนเจ้าประจำที่ชอบ ดื่มเป็นประจำนั่นคือแบรนด์คุ้นหูของคนไทยอย่าง สตาร์บัง เอ้ย สตาร์บัค (Starbucks) ด้วยรสชาติที่กลมกล่อม ถูกปาก ไม่หวานมาก อีกทั้งยังให้ความรู้สึกว่ากาแฟของเขามีมาตรฐาน มาในแก้ว Grande สนนราคา 1xx ต้นๆ เช่นกัน
และขอเปรียบเทียบกับคาปูชิโน่ร้อนในส่วนของแบรนด์ Coffee โลก จะรู้สึกว่าแบรนด์นี้รสชาติกาแฟเข้มมาก อาจจะด้วยเมล็ดกาแฟหรืออย่างใดไม่แน่ใจ + กับรสหวานที่เด่นเกินไป ส่วนเรื่องกลิ่นไม่มีปัญหาตรงนี้หอมกาแฟ
และมาในส่วนของ Hot Cappuccino ที่ Let Them Eat Cake ตกราคา 130บาท/แก้ว ส่วนตัวคิดว่าราคาค่อนข้างสูงถ้าเทียบกับการที่มาในรูปแบบของกาแฟธรรมดาไม่ มีการวาดฟองนมและโรยแค่ผงชินนามอนผสมกับชอคโกแลต และขนาดแก้วที่ไม่ใหญ่มาก ทางด้านรสชาติรู้สึกว่ากาแฟไม่เข้มมากคาดว่าน่าจะใส่ประมาณ 1 ชอต โดยรวมรสชาติกลมกล่อม กลิ่นหอมแต่เสียดายที่ไม่วาดรูปฟองนมน่ารัก แต่ถ้าเทียบกับสถานที่และอารมณ์ในร้านก็โอเคนะ หมีให้อภัยได้
ทางร้านบอกว่าเป็นเค้กที่คนนิยมสั่งกันมาก หมีไม่รอช้าจัดมาเลย 1 ชิ้นถ้วน ซึ่งถ้าเรียกกันภาษาบ้านๆมันก็คือพายสอดไส้ราสเบอร์รี่แล้วฉีดด้วยมูสกุหลาบ พร้อมกับเยลลี่กุหลาบ ถือว่าเป็นเอกลักษณ์ของร้าน Let Them Eat Cake ที่ใช้กุหลาบสร้างความแปลกใหม่ เพราะปกติเราจะเห็นว่าร้านส่วนใหญ่ใช้เป็นสตอเบอร์รี่ หรือเชอร์รี่อะไรประมาณนั้น ซึ่งถ้าหากว่าใครชื่นชอบกลิ่นอันเป็นเอกลักษณ์ของกุหลาบคงจะหลงรักเจ้าเค้ก ชิ้นนี้ทีเดียวเชียว ส่วนตัวหมีไม่ชอบอ่ะ
ความเห็นคุณผู้ชาย : ทางด้านของรูปเค้กดูสวยงามจัดแต่งได้ดูน่ากิน สัมผัสแรกที่รู้สึกเลยคือกลิ่นหอมของกุหลาบ ให้ความรู้สึกสดชื่น ต่อมาคือรสชาติที่ไม่หวานจนเกินไป แต่วิปครีมพอทานไปซักพักก็รู้สึกเลี่ยน
concern : ด้วยความที่แป้ง ชูส์ชุบคาราเมลมีความแข็งกรอบจึงอาจจะทำให้ทานยากไปสักหน่อยแต่ทางร้านเขามี มีดมาให้ซึ่งหมีไม่รู้ว่าเขาให้มาหั่นเค้กหรือเปล่า หมีเลยใช้สองมือช่วยกันทั้งมีดทั้งส้อมจึงผ่านจุดนั้นมาได้
มาต่อกันที่คนรักชอคโกแลตกันบ้างซึ่งอย่าง ที่บอกว่าร้าน Let Them Eat Cake มีเมนูเค้กสำหรับคนรักช๊อกโกแลตทั้งหมด 2 แบบด้วยกัน ซึ่งวันนี้หมีขอเลือกเมนู All – Chocolate Tart (ออล ช๊อกโกแลต ทาร์ต) : 145฿
ทางร้านบอกว่า Tart ชิ้นนี้ทำมาจากแป้งอัลมอนด์ – โกโก้ , กานาซช๊อกโกแลต , เค้กช๊อกโกแลตไร้แป้งชุบน้ำเชื่อมโกโก้,มูสช๊อกโกแลต และเกลสช๊อกโกแลต แต่หมีไม่เข้าใจเลย หมีก็ขออธิบายว่ามันคือรวมทุกสิ่งของช๊อกโกแลตมาไว้ที่ Tart ชิ้นนี้แล้วกัน ภาพลักษณ์เรียบง่ายแต่ดึงดูดด้วยช๊อกโกแลตเยิ้มๆดูท่าทางน่าอร่อยเป็นที่สุด ประดับด้วยเปลวทองคำให้ดูหรูหราสมราคานิดนึง
รสชาติ : ชอบความนุ่มของช๊อกโกแลตที่ผสมอยู่ในทั้งหมดของ All-chocolate ชิ้นนี้ + กับด้านในจะมีการแยกเป็นชั้นๆของช๊อกโกแลตต่างๆที่ทางร้านผสมมาจึงทำให้ความ รู้สึกโดยรวมแล้วอร่อย ไม่หวานมาก และที่สำคัญ All – Chocolate Tart ตัวนี้ทานแล้วไม่ติดฟันนะจ้ะ สาวๆไม่ต้องกลัวว่าหลังจากกินเสร็จแล้วจะโชว์ฟันดำออกสู่สาธารณชน
ความเห็นคุณผู้ชาย : สำหรับตัวเค้กออลช๊อกโกแลตนี้หากคนที่ชอบทานดาร์คชอคโกแลต คิดว่าคงถูกใจเลยเพราะ เข้มกำลังดี ตัวเค้กทำขนาดออกมาได้พอดีเลย ไม่ใหญ่จนเกินไป เนื้อเค้กละเอียดแน่น ทานคู่กับกาแฟได้ลงตัว แต่คนที่ชอบทานช๊อกโกแลตหวานๆคาดว่าคงจะไม่ถูกใจเท่าไหร่
Concern : คนที่ปกติไม่ค่อยได้ใช้มีดอาจจะลำบากอยู่สักหน่อยเพราะชิ้นมันเล็กแล้วทำให้ตอนที่ตักมันจะเลื่อนไปเลื่อนมา
เค้กชิ้นที่ 3 มาต่อกันที่ Tar
แหม๋ แค่ชื่อก็ดูเลอค่า อมตะ สุดๆ ทางร้านเขาเคลมไว้ว่า แป้งทาร์ตเฮเซลนัท กานาซช๊อกโกแลตสีบลอนด์ดัลซีจากวาลโรนา บิสกิตฟิน็องซิเยร์ ครีมช็องติยี่ ช๊อกโกแลตสีบลอนด์ดัลซีจากวาลโรนา เอิ่ม หมีงง??
พูดแบบบ้านๆแล้วกัน หมีรู้สึกว่ามันเป็นเค้กที่ให้ความรู้สึกเหมือนทานคุ๊กกี้ และยังมีรสชาติมันๆของเฮเซลนัท ชิ้นนี้ต้องบอกว่าหมีชอบที่สุดเลยเพราะความรู้สึกตอนทานจะได้การสัมผัสที่ กรอบๆแล้วมีความนุ่มจากครีมช็องติยี่ (หมีจำเขามา) จึงทำให้ Tart สีบลอนด์ชิ้นนี้อร่อยถูกปากหมีมาก ด้วยรสชาติที่ไม่หวานจนเกินไป + กับความมันจากถั่ว ทำให้ Tart ชิ้นนี้หมดลงไปอย่างรวดเร็ว และขอแนะนำให้ใครที่มาทาน Let Them Eat Cake ต้องลองสั่งทานดูสักครั้ง
มาที่เครื่องดื่มกันบ้าง หมีหิวน้ำแล้วไหนๆก็กุหลาบก็เอาให้สุดๆไปเลยแล้วกันกับ
Elderflower soda : 120฿
ดับกระหายได้เป็นอย่างดีดูดเข้าไปวินาที แรกกลิ่นกุหลาบลอยมาเตะจมูกหมีเลย แต่ไม่ฉุนมาก ดูดครั้งที่สองยังรู้สึกว่ามันยังไม่ผสมเข้ากัน เลยต้องคนๆ ๆ ๆ แล้วดูดอีกทีนึง ฮ้า ชื่นใจ มีรสหวานนิดๆ + กลิ่นกุหลาบอ่อนๆ
ทางด้านภาพลักษณ์สวยดูดี จากการไล่ระดับสีซึ่งเป็นสไตล์ของเครื่องดื่มประเภทนี้อยู่แล้ว แต่ถ้าเทียบกับราคาก็ยังรู้สึกว่าราคาสูงไปสักหน่อยสำหรับแก้วนี้ หมีว่าน่าจะเพิ่มเชอร์รี่มาสักลูกนึง
ด้านการบริการ (Service) – ทางร้านมีแบบฟอร์มให้พนักงานหญิง-ชาย ใส่ น่ารักดีมีการใส่เสื้อกั๊กด้วย และถึงแม้วันที่ไปทางร้านแจ้งว่าพนักงานขาดแต่ก็ยังรู้สึกว่าได้รับการ บริการที่ดี ประทับใจ สุภาพ อ่อนน้อม ให้ 10 ตีนหมีเลย
บรรยากาศร้าน – เป็นแบบ Open โปร่งสบายและการตกแต่งแบบหรูหราให้ความรู้สึกแบบ Victorian Style และมีลูกเล่นน่ารักๆบนโคมไฟ และด้วยความที่เป็นแบบ open จึงไม่ค่อยให้ความรู้สึกที่เป็นส่วนตัวเท่าไร มีการจ้องมองจากผู้คนที่เดินผ่านไปมาและแสงไฟที่สลัวทำให้การถ่ายรูปออกมา ไม่ค่อยสวยต้องพึ่งเทคโนโลยีพอสมควร แต่ทางร้านก็ยังสามารถทำให้รู้สึกถึงกลิ่นอายแบบสไตล์ฝรั่งเศสไว้ได้
ควรมากับใคร – จากการที่ได้ทานเมนูที่ร้านนี้แล้วคิดว่าสามารถพาเพื่อน กิ๊ก แฟน หรือคุณพ่อที่เป็นเพศชายมาได้เพราะขนมหลายๆอย่างของทางร้านไม่ได้มีความเป็น ครีมและความเลี่ยนที่มากเกินอัตรา ท่านผู้ชายสามารถเพลิดเพลินกับขนมหวานของทางร้านนี้ได้
ความคิดเห็นต่อร้าน Let Them Eat Cake – หากใครเป็นนักกินเค้กมือฉมังหมีพาชิมแนะนำว่าร้าน Let Them Eat Cake เป็นอีกทางเลือกหนึ่งของนักกินซึ่งตอนนี้เขาได้มาเปิดสาขาที่ Siam Center ชั้น 4 หมีคิดว่าคงทำให้หลายๆคนมีโอกาสได้มาชิมเค้กที่ร้านนี้กันง่ายขึ้น บรรยากาศโดยรวมนั่งสบายมีโต๊ะหลายแบบทั้งแบบโซฟาและโต๊ะไม้สไตล์ฝรั่งเศสให้ เลือกนั่งกันตามอัธยาศัย ในส่วนของเค้กมีความแปลกใหม่ในด้านการเพิ่มรสชาติของกุหลาบเข้ามา สำหรับคนรักกุหลาบเชื่อว่าต้องเป็นที่ชื่นชอบและน่าลองสักครั้ง ทางด้านของราคาอาจจะยังรู้สึกไม่คุ้มค่ากับราคาเค้กบางชิ้น แต่ด้วยบรรยากาศและการบริการโดยรวมแล้วถือว่าควรจะไปลองสักครั้งสำหรับสาวๆ ที่ชอบการถ่ายภาพและ Check – in
คะแนน 3.5/5 ตีนหมี
จะกลับมาใช้บริการอีกไหม : 3.5/5 ตีนหมี
ขอลาไปด้วยภาพ Candid ของน้องหมีพาชิมวันนี้
น้องหมีเกาะกระจกเลือกเค้กอย่างตั้งใจ น้องหมีเนียนทำตัวกลมกลืนกับของตกแต่ง
ก่อนจากกันหมีขอแนะนำตัวเองเผื่อไว้คอลัมน์หน้าเราจะได้เข้าใจกันมากขึ้นนะจ๊ะ : รักการแต่งตัว ชื่นชอบการทดลองชิมอาหาร-ขนม ตามสถานที่่ต่างๆที่เซิร์ชเจอทาง internet กินยากและค่อนข้างเรื่องมากในด้านการทานอาหาร ไม่ชอบทานผักแต่ถ้าเจอร้านไหนที่สามารถทำให้ทานผักได้ถือว่าอร่อย ไม่ถึงกับชื่นชอบการทานขนมหวานแต่ถ้าร้านไหนสามารถทำให้ทานหมดได้จริงๆถือ ว่าอร่อย
สอบถามรายละเอียดของร้านได้ที่ Facebook Fanpage : Let Them Eat Cake
ไปดูกันว่าคราวหน้าพี่หมีจะพาไปกินเที่ยวที่ไหนได้ที่ Pingpoy , pingpoyofficial
ได้ลอง st honore rose เหมือนกันค่ะไม่ค่อยชอบกุหลาบดูรสชาติิกับกลิ่นตีกันแรงมาก จนขมคอเลย แต่ได้เยลลี่ราสเบอร์รี่มาตัดค่อยดีขึ้นบ้าง