แต่งหน้ายังไง ไม่ให้เป็นสิว??

pakbungsdiary24 Oct 1375

สวัสดีค่า หัวข้อในวันนี้คงจะเป็นที่ถูกใจสาวๆที่รักการแต่งหน้านะคะ บุ้งก็เป็นคนหนึ่งที่ชอบแต่งหน้ามาก และหน้าก็พังมาแล้วก็เพราะแต่งหน้าเนี่ยแหละ กว่าจะมาถึงบางอ้อ ก็ทำเอาต้องงดแต่งหน้าไปหลายเดือนเลยทีเดียว แรกเริ่มเดิมทีสมัยเป็นเด็กมัธยม บุ้งเป็นคนหน้าใสค่ะ พอเริ่มเข้ามหาลัย ก็เป็นสิวบ้างประปราย ตามประสาฮอร์โมนวัยว้าวุ่น แต่หลังจากที่บุ้งเริ่มทำงาน ก็เริ่มแต่งหน้าเป็น เริ่มมีการใช้รองพื้น เบส แป้งอัดแข็ง ตอนนั้นแหละค่ะ "สิวอุดตัน" ก็เริ่มอาละวาด... จากสิวอุดตัน พอเจอมลภาวะ เจอน้ำมันที่ผิวสร้างขึ้นมา ประกอบกับเชื้อแบคทีเรีย ทำให้วันดีคืนดี ก็กลายเป็นสิวอักเสบขึ้น คราวนี้หนักเลยค่ะ เม็ดนึงยุบ เม็ดนึงขึ้น ไม่หายซักที น่าเบื่อที่สุด! จากการค้นคว้า หาข้อมูล ประกอบกับใช้ความรู้ทางเภสัชที่อุตส่าร่ำเรียนมาตั้ง 5ปี บุ้งก็ค้นพบต้นตอแห่งปัญหา วิธีการรักษา และวิธีการป้องกัน แต่วันนี้ขอพูดถึงแค่สาเหตุ กับวิธีป้องกันนะคะ เพราะถ้าให้พูดเรื่องวิธีรักษาเนี่ยคงจะยาว สาเหตุที่ทำให้เกิดทุกข์ของบุ้งก็คือ เครื่องสำอาง ค่ะ มันเกิดจากการที่ล้างเครื่องสำอางไม่สะอาดพอ ไม่ใช่ไม่ล้างนะคะ แต่ไม่สะอาดพอ แล้วเครื่องสำอางก็ไปอุดตันในรูขุมขน ทำให้เกิดสิวนั่นแหละค่ะ ที่จริงก็ใช้ที่เช็ดเครื่องสำอางอยู่นะ แต่มันก็ยังไม่สะอาดพออยู่ดี ดังนั้น 3 Cleansing steps จึงเกิดขึ้น 3 Cleansing steps อุปกรณ์ 1. สำลีแผ่น 2. cotton bud 3. eye-lip makeup remover 4. ครีมล้างเครื่องสำอาง (ใครจะใช้แบบที่เป็น Oil ก็ได้ค่ะ) 5. สบู่/เจล ล้างหน้า 6. toner

ยี่ห้อไม่จำเป็นต้องตามนี้ก็ได้นะคะ แต่นี่คือเป็นสิ่งที่บุ้งใช้แล้วมันดี มันได้ผล และราคาไม่แพง ของทั้งหมดหาซื้อได้ตาม Watson เลยนะคะ ตัว eye remover ของ Garnier ไม่แน่ใจว่า มีวางขายที่ประเทศไทยมั้ย เพราะซื้อที่ออสเตรเลียค่ะ 150 บาท 200mL คุ้มมากก! ดีด้วย เรามาเริ่มทำความสะอาดกันเลยค่ะ แต่จะไม่ลงรายละเอียดวิธีเช็ดนะคะ เพราะคิดว่าคงจะทำเป็นกันอยู่แล้ว และบุ้งก็ไม่ได้มีเทคนิคพิเศษอะไรมากมาย ขอแค่เบามือ ไม่รุนแรงกับหน้าก็พอ ขั้นตอนที่ 1 การเช็ดเครื่องสำอาง เริ่มจากการเช็ดทำความสะอาดตา ขั้นตอนนี้ต้องเบามือมากๆนะคะ เพราะผิวที่ตาบอบบาง ถ้ารุนแรงอาจจะทำให้เกิดริ้วรอยได้ เสร็จแล้วก็ลงครีมเช็ดเครื่องสำอาง โบกตามความเยอะของเครื่องสำอางเลยค่ะ ถ้ามีรองพื้น ก็โบกเยอะๆไปเลย อย่าเสียดาย นี่แหละค่ะข้อดีของการใช้ของถูก บางทีซื้อของแพงแล้วเสียดาย ไม่กล้าใช้เยอะ กลายเป็นว่าทำให้ล้างหน้าไม่สะอาดอีก จากนั้นก็ใช้สำลี 2-3 แผ่น ชุบน้ำหมาดๆ แล้วเช็ดออก ในวันที่ไม่แต่งหน้า แต่มีการทาครีม ทากันแดด ก็ต้องใช้ครีมเช็ดเครื่องสำอางนะคะ แต่อาจจะใช้น้อยหน่อย เพราะส่วนผสมของครีมที่เราทา ก็มีน้ำมันอยู่ด้วยเช่นกัน หลังจากกลับมาบ้านแล้ว ก็รีบทำขั้นต้องเช็ดเครื่องสำอางก่อนเลยนะคะ เพื่อให้ผิวหน้าได้รับ oxygen หน้าไม่แก่ ไม่เหี่ยว ขั้นตอนที่ 2 ล้างหน้า บุ้งจะแยกขั้นตอนการเช็ดเครื่องสำอางกับล้างหน้าออกจากกัน และใช้ผลิตภัณฑ์ต่างกันค่ะ ขั้นตอนนี้จะเป็นการล้างครีมที่ใช้เช็ดเครื่องสำอางออกอีกที ซึ่งที่บุ้งแนะนำคงจะมี 2 ตัว คือ Cetaphil กับ Acne Aid ค่ะ เพราะใช้แล้วหน้าไม่แห้งตึง ไม่แพ้ และสะอาดดี ส่วนราคา Acne Aid จะถูกกว่า Cetaphil ขั้นตอนที่ 3 Toner toner จะใช้เฉพาะวันที่แต่งหน้าค่ะ วันไหนที่อยู่บ้านเฉยๆ ไม่แต่งหน้าก็ไม่ใช้ บางคนสงสัยว่าก็เช็ดเครื่องสำอางแล้ว ล้างหน้าสะอาดแล้ว ต้องใช้ toner อีกหรอ? ใช้ค่ะ toner จะช่วยทำความสะอาดขั้นสุดท้าย เพื่อให้มั่นใจ ว่าไม่มีอะไรหลงเหลืออีกแล้ว แนะนำว่าให้ใช้แบบ alcohol-free นะคะ เพราะจะไม่ระคายเคืองผิวหน้า ไม่ทำให้เป็นสิว ถ้าใครได้เห็นวิดีโอที่สอนแต่งหน้า อาจจะเห็นว่าบุ้งมีรอยสิวเยอะแยะไปหมด จะบอกว่ามันเป็นรอยที่เกิดจากการผ่านสรภูมิรบมาอย่างโชกโชน เพราะให้ความสำคัญกับการล้างเครื่องสำอางน้อยเกินไป แต่ตอนนี้พอใจกับหน้าตัวเอง ไม่มีสิวขึ้นใหม่อีกเลย หลังจากนี้ก็ต้องให้เวลาในการรักษารอยกันต่อไปค่ะ บางคนอาจจะบ่นว่าขี้เกียจเช็ด ขี้เกียจล้าง ลองทำให้ติดเป็นนิสัยเหมือนการแปรงฟัน และลองสนุกกันมันดูนะคะ อาจจะมโนว่าตัวเองกำลังเป็น beauty blogger สอนล้างเครื่องสำอางอยู่ก็ได้ (อันนี้ทำอยู่ 55555)
เป็นกำลังใจให้กับคนที่เป็นสิวอยู่นะคะ ลองให้ความสำคัญกับเรื่องความสะอาดอีกสักนิด แล้วชีวิตจะสดใส เชื่อเจ๊

" There are no ugly women, only lazy ones." - Helena Rubinstein