3 ดอย 1 ม่อน ณ เชียงใหม่ ตอนดอยอ่างขาง
AIRZ48
และแล้วการเดินทางของพวกเราทั้ง 7 คนก็ได้เริ่มต้นขึ้น
ก้าวแรกที่เราทุกคนเดินทางไปยังสนามบินดอนเมือง ในมือถือตั๋วที่ได้โปรจากสายการบินราคาเบาๆ มาอยู่ในมือ
สมาชิกบางคน ยังไม่ได้เคยได้นั่งเครื่องบิน วันนี้ 3 ใน 7 คน จะได้นั่่งเครื่องบินเป็นครั้งแรก :)
และเมื่อเรามาถึงสนามบินเชียงใหม่ รถนอนสองแถวแดงที่เราติดต่อไว้ก็มารับ
ทันทีที่เห็นหน้ากันและกัน เราก็ยิ้มให้อย่างมีความสุข ทั้งๆ ที่เราไม่เคยรู้จักกันมาก่อน
คุณลุงภาพ คนขับ และคุณป้าอ้อย ซึ่งงานนี้เป็นทั้งไกด์ ตากล้อง และผู้ดูแลพวกเราตลอดการเดินทาง 5 วัน
โปรแกรมเที่ยวของครอบครัวเรา
วันแรกลุยดอยที่ 1 คือ ดอยอ่างขาง ซึ่งอยู่โซนเหนือของจังหวัดเชียงใหม่
ลุงภาพ ขับรถพาไปไหว้พระที่วัดพระสิงห์ฯ ซึ่งเป็นวัดประจำราศีเกิดของปะป๊า จากนั้นก็แวะกินข้าวซอยร้านเก่าแก่
ก่อนที่จะลุยกันอย่างต่อเนื่อง ซึ่งเวลานี้ลุงภาพพับเบาะจากนั่ง ให้เปลี่ยนเป็นเบาะนอน เพื่อความสะดวกสบาย
*** ปล.สองแถวนอนแบบนี้ ฉันว่ามีคันเดียวในเชียงใหม่นะ***
รถสองแถวคันเก๋า ขับพาเรามายังวัดอีกแห่งหนึ่ง ซึ่งอยู่อ.แม่แตง จ.เชียงใหม่ ซึ่งเป็นวัดที่สวยมาก อลังการมาก นั่นก็คือ "วัดบ้านเด่น" นั่นเองค่ะ ภายในโบสถ์และวิหาร ต่างทำจากไม้สักแกะสลักลวดลสายอย่างสวยงาม และมีวิวเบื้องหน้าวัดคือ ทุ่งนากว้าง ฉากหลังคือ ภูเขาสูง สวยจนลืมร้อน จากแสงแดดแรงๆ ในเดือนพฤศจิกายน
เมื่อเราซึมซับวัดแห่งนี้จนพอใจ เราก็ลุยกันต่อ ซึ่งจุดหมายของเรายังไปไม่ถึงดอยอ่างขาง เพราะเราจะต้องแวะที่
"ถ้ำเชียงดาว" อีกหนึ่งสถานที่ที่จะต้องไปเยือนให้ได้สักครั้ง
ลุงภาพพาพวกเราผ่านถนนโค้งเล็กๆ ไต่ระดับความสูงขึ้นมาอย่างต่อเนื่อง เวลานี้ดอกพญาเสือโคร่งยังไม่บาน เจอแต่ต้นของมันที่โกร๋นๆ เพราะรอเวลาที่จะอวดโฉม แต่นั่นก็ไม่ได้ทำให้ที่แห่งนี้สวยงามน้อยลง เพราะว่า เราได้เจอกับดอกไม้สีเหลืองๆ ไปตลอดเส้นทางแทน และนั่นก็คือ "ดอกบัวตอง"
และแล้วเราก็มาถึงถ้ำเชียงดาว แค่ปากทางเข้าถ้ำ เราก็ยืนถ่ายรูปกันเสียนาน
โดยเสียค่าเข้าชมคนละ 20 บาท และเสียค่าไกด์นำเที่ยวถ้ำอีกคนละ 20 บาท (แต่รายได้ส่วนหนึ่งจะบริจาคเข้าวัด)
ภายในถ้ำ ไม่มีแสงไฟ แต่จะมีแสงจากตะเกียงจ้าวพายุ นำทางเราเข้าไป ด้านในมีหินงอกหินย้อย และบางจุดจะต้องมุดรูถ้ำเพื่อเดินเข้าไปด้านในต่อ งานนี้ทำเอาเราเหนื่อยกันไปตามๆ กัน
และเมื่อได้เวลา ตะลุยถ้ำจบ เราก็ต้องลุยขึ้นสูงกันต่อ โดยเราแวะพักกันที่
"จุดชมวิวอโวคาโด" หรือ "จุดชมวิวผาแดง"
จุดนี้ เมื่อมองด้านล่างจะเป็นไร่อโวคาโด และภูเขาที่เราเห็นก็คือ พรมแดนที่กั้นเรากับประเทศพม่านั่นเองค่ะ
เรานั่งๆ นอนๆ อยู่บนรถกันอย่างต่อเนื่อง แต่เราไม่เบื่อนะคะ เพราะว่าวิวสองข้างทางทำเอาเรานอนไม่ลงกันเลยทีเดียว อีกฝั่งก็พม่า อีกฝั่งก็ดอกบัวตอง สวยจนตัวจะละลาย
และแล้ว เราก็มาถึงดอยอ่างขางจนได้ เรารีบวนรถเข้าไปยังสถานีเกษตรหลวงอ่างขางทันที ก่อนที่พระอาทิตย์จะหลบหน้าเราไป และเมื่อเราลงจากรถ อากาศหนาวๆ ก็มาทักทายเราอย่างเป็นมิตร
ที่นี่ ดอกไม้สวย วิวสวย ทุกอย่างลงตัว สวยจนต้องบอกย้ำๆ กับทุกคนว่า มาเองเถอะ!!!! อธิบายไม่ถูกจริงๆ และที่สำคัญมาที่นี่อย่างลืมแวะมานั่งกินข้าวที่ "สโมสรอ่างขาง" และแวะกินกาแฟหรือเครื่องดื่มอร่อยๆที่ "ร้านดอยคำ" พร้อมส่งโปสการ์ดหาคนที่คุณคิดถึง โอ๊ย+++ ฟิน! มากจริงๆ ค่ะ
*** ชุดนี้ my style จริงๆ นะคะ ... รองเท้าHi-Tec กางเกงยีนขาดเอง และเสื้อกันหนาวลาย FireMan จากUSA.***
ปล. พลาดไม่ได้กับ "แปลงต้นบ๊วยอายุ 30 ปี" ซึ่งตอนนี้กำลังเริ่มทยอยออกดอกสีขาวจิ๋วๆ กันแล้วค่ะ เดือนธันวาคม คงบานเต็มต้น :)
ยามค่ำคืนก็ไม่ต้องห่วงว่าจะไม่มีอะไรให้ทำ
เพราะเราเดินไปหาของกินกันใน "ตลาดยูนนาน" แวะไปกินข้าวกันที่ร้าน "ถิง ถิง โภชนา" ขาหมูยูนนาน กับหม่านโถวร้อนๆ อร่อยมาก หรือบะหมี่ยูนนาน ก็อร่อยต้องลองจริงๆ ค่ะ
เดินเล่นดูของขายกันพักใหญ่ ก็แวะออกไปเดินดูชาวบ้านมานั่งขายของแบกะดิน ซื้อติดไม้ติดมือมาสักอย่างสองอย่างก่อนที่จะเข้านอน เพื่อเตรียมตืนแต่เช้าตรู่ในวันรุ่งขึ้น เรากำลังจะไปชมพระอาทิตย์ขึ้นกันค่ะ
เช้าวันที่สอง ยังอยู่ที่อ่างขาง และกำลังจะไปม่อนแจ่ม
ตื่นแต่ตี 4 เพื่อมานั่งรอพระอาทิตย์ขึ้นกันที่โรงเตี๋ยมริมทางแบบนี้ แวะกินโจีกเห็ดหอม ปาท่องโก๋ร้อนๆ ชาร้อนหอมๆ ในอากาศหนาวๆ ที่ต้องผิงไฟกันแบบนี้ สุดยอด!!!!!
และแล้วเราก็รอพระอาทิตย์ขึ้น แต่เขาก็โดนเมฆก้อนโตบังเสียมิด เราจึงทำได้แค่ยืนทำตาปริบๆ แล้วจากเขามา เพื่อมาแวะซื้อเบบี้แครอท แทะแก้เซ็ง และซื้ออโวคาโด โลละ 20 บาท ไปนั่งกินให้ฉ่ำใจ!! แทน
เราไม่รอให้อารมณ์เสียครอบใจเรานาน เราจึงเปลี่ยนเป้าหมายของเราไปยัง "ไร่สตรอเบอรี่โครงการหลวง"
สถานที่ซึ่งฉันเคยมากับคนรักเมื่อ 4 ปีที่แล้ว สถานที่แห่งแรก ที่เราออกเดินทางด้วยกัน แต่วันนี้ฉันมาที่นี่โดยปราศจากเขา อันเนื่องมาจากเขาขาหัก มาไม่ได้ ฉันเห็นไร่สตรอเบอรี่ขั้นบันได้ ผ่านความสุขวันวานก็ฉายขึ้นมา โดยไม่ต้องระลึก :) ขอบอกว่า สถานที่แห่งนี้ โรแมนติก หวานกว่าสตรอเบอรี่ลูกโตเสียอีกนะ
เราอ้อยอิ่่งอยู่ที่นี่กันเสียนาน เพราะอยากซึมซับกันให้จุใจ ก่อนที่เราจะมุ่งหน้าไปยัง "ฐานปฏิบัติการบ้านนอแล" กันต่อค่ะ
ที่นี่อากาศดีมาก สดชื่นมาก ฝั่งตรงข้ามที่เราเห็นก็คือ พม่า ซึ่งตอนนี้คงหยุดยืนกันไปนานแล้วล่ะ
ปล. พี่ทหารที่นี่หล่อมาก ... โอ๊กกกกกกกก
เอาล่ะได้เวลาไปกันต่อแล้ว เราออกจากอ่างขาง ลงมาตามเส้นทางเดิมที่เราขึ้นมา แวะที่ "น้ำตกศรีสังวาลย์" เล่นน้ำกันสักครู่ ก่อนที่จะไปแช่บ่อน้ำร้อนอย่างจริงจัง กันที่ "บ่อน้ำร้อนโป่งอาง" ให้สบายเนื้อสบายตัวกันเสียนาน
เราจบทริปอ่างขางไว้ที่บ่อน้ำร้อนโป่งอาง และเรากำลังจะไป "ม่อนแจ่ม" ที่ขอบอกไวตรงนี้เลยว่า แจ่มจริงๆ ค่ะ
และหากใครอยากพาคุณพ่อคุณแม่ไปบ้าง งานนี้ เหนื่อยนิดหน่อยค่ะ แต่คุ้มค่าที่ได้ออกเดินทางร่วมกัน :)
โปรดติดตามตอนต่อไป :)
ม่อนแจ่ม ม่อนม่วน ม่อนอิงดาว ม่อนวิวงาม และภูเขาดอกบัวตอง
Discussion (8)
คุณ bluewhale