ไม่รู้จะทำตัวอย่างไรให้ตรงใจพ่อแม่ ให้ลดความหวงห่วงลง

ตามหัวข้อเลยค่ะ ไม่รู้จะทำอย่างไรดี ตอนนี้อายุก็จะ22แล้ว ใกล้เรียนจบเต็มที ทำงานแล้วด้วย

เป็นลูกสาวโต พี่ชาย1น้องสาว1 แต่ป่านนี้ยังไม่มีพื้นที่ส่วนตัวเลยค่ะ ที่บ้านชอบให้นอนด้วยกัน จะว่าอบอุ่นก็อบอุ่นค่ะ แต่ไม่มีความเป็นส่วนตัวเลย

ปัญหาตอนนี้คือ จขกท.กำลังคุยกับหนุ่มอยู่คนนึง ก็แฮปปี้ดีค่ะ ไม่ได้รีบร้อน คุยเป็นเพื่อนกันไปก่อน แต่ก็เริ่มทะเลาะเบาะแว้งกับพ่อแม่และญาติๆเล็กๆด้วยเหมือนกัน
เพราะมีช่วงนึง เป็นระยะเวลายาวเหมือนกันค่ะ ที่จขกท.ไม่คุยกับหนุ่มคนไหนเลย ไม่สนใจ ตั้งกำแพงสารพัดไม่ให้ใครเข้าใกล้
จนคุณแดดดี้เป็นห่วง กลัวลูกสาวจะขายไม่ออก ก็ถามกับจขกท.ตรงๆว่า "ช่วงนี้(ในเวลานั้น) หนูไม่คุยกับใครเลยเหรอลูก ถ้าเขาเป็นคนดี หนูก็น่าจะลองคบลองเปิดใจนะคะ"
จขกท.ก็ตอบว่า "ยังไม่สนใจใครนะปะป๊า ยังสนุกกับชีวิตช่วงนี้อยู่ ทำอะไรๆคนเดียวได้ ไม่เหงาครับ"

จนได้รู้จักกับหนุ่มคนนี้ ก็คุยกันค่ะ(คุณพ่อคุณแม่รู้นะคะ เคยเจอด้วยเพราะมาหาจขกท.ที่ทำงาน) ตอนแรกคุณบอกเองว่าถ้าตาหนุ่มคนนี้ดีก็ลองคุยลองคบนะ ปะป๊าไม่ว่า 
แต่พอคุณพ่อรู้ว่าลูกสาวคุยกับหนุ่มคนนี้จริงๆจังๆขึ้นมาระดับนึงละ ก็เริ่มขัดขวาง เริ่มแทรกแซง จากที่ปล่อยให้จขกท.อยู่คนเดียว ไม่เคยมายุ่ง เพราะจขกท.โลกส่วนตัวสูง ชอบอยู่เงียบๆคนเดียว อ่านหนังสือฟังเพลงทำงานช่วยที่บ้านอะไรก็ว่าไป ก็เริ่มมานั่งด้วย ตัวติดตลอดถ้ามีเวลา ชอบพูดแทรกเวลาคุยโทรศัพท์(ทั้งๆที่เคยสอนว่าใครคุยสาย อย่าไปยุ่ง มันเสียมารยาทนะ) คุณแม่เริ่มตาม เราย้ายที่นั่งไปไหนก็ตาม เริ่มตะโกนแทรก จากที่ทุกคนไม่สนใจ ไม่เคยอยู่ ไม่มานั่งด้วย ก็เรียกตลอดเวลา เดี๋ยวถามเรื่องงาน เรื่องบัญชี เรื่องประกัน สารพัดที่จะถามได้ น้องสาวเริ่มสืบ พยายามหาว่าเราคุยกับใคร

จนมันระเบิดค่ะ เลยทะเลาะกับทั้งบ้าน เค้าก็ว่า ต่อให้โตแค่ไหนก็ยังเป็นเด็กสำหรับป๊าม๊า ทะเลาะอีกสักพัก เค้าก็บอกว่า หัดโตเป็นผู้ใหญ่สักที ลูกจะพึ่งป๊าม๊าไปจนตายไม่ได้นะ 
จขกท.ก็ อ่าว จะให้เป็นแบบไหน จะให้ทำยังไงกันแน่ ทำตัวไม่ถูก

จนใจค่

Discussion (4)

เราว่าคุณพ่อคุณแม่เค้ากำลังเผชิญช่วงที่เรียกว่าช่วงปรับตัวปรับใจค่ะ คือเค้ารักคุณนั่นแหละ พ่อแม่น่ะ ลึกๆ(หรือตื้นๆ)ก็อยากเห็นลูกเป็นฝั่งเป็นฝาทั้งนั้นแหละ โดยเฉพาะลูกสาว 

แต่พอเค้าrealiseว่า เฮ้ย คุณกำลังจะโตออกไปจากอ้อมอกเค้านะ คิด(มาก)ว่าเค้ากำลังค่อยๆเสียคุณไป เค้าเลยใจหายน่ะค่ะเราว่า แบบ อยากเห็นคุณเป็นเด็กหญิงตัวน้อยของเค้าตลอดไป 

 

เราเข้าใจค่ะว่ามันเป็นสถานการที่ยากจะจัดการ แต่อดทนนะคะ พยายามเข้าใจเค้าให้มากๆ แล้วมันจะดีเองค่ะ ยังไงคุณจะลองถามเค้าตรงๆเลยก็น่าจะได้นะคะว่า กลัวว่าจะเสียหนูไปเหรอ แล้วก็พยายามconvinceเค้าว่า ยังไงเค้าก็จะสำคัญที่สุดสำหรับคุณเสมอ เราว่าเค้าจะเข้าใจแล้วก็หายห่วงค่ะ

 

เอาใจช่วยนะคะ

เราว่านะพามาให้เจอหน้าที่บ้านเลย เมื่อเค้าเจอกันแล้ว เค้าก็จะรู้ว่าเราคุยกับใคร ผู้ใหญ่จะสกรีนได้ดีกว่าเราว่าคนๆนี้เป็นยังไง ดังนั้นพามาให้ที่บ้านรู้จักจะได้ลดความห่วงลงไป ถ้าฝ่ายนู้นเค้าจริงใจกับเราเค้าจะพร้อมที่จะเข้าใจและปรับตัวเข้ากับครอบครัวเรา ที่พ่อแม่จขกท.บอกเป็นเรื่องจริงที่ไม่ว่าเราจะโตแค่ไหนเราก็ยังเป็นเด็กสำหรับเค้าเสมอ 

น่าจะลองพามาทานข้าวที่บ้านนะคะ เปิดตัวอย่างเป็นทางการให้ทุกคนรู้จัก 

จะได้เข้าออกบ้านได้สะดวก สบายใจทั้งคนที่พ่อแม่ และตัวคุณเอง

ถ้ามันเลยไปจนถึงจุดที่แฟนคุณมาเป็นส่วนหนึ่งในครอบครัวคุณได้แล้ว ทุกอย่างจะสบายใจขึ้นค่ะ

 

 ต่อให้โตแค่ไหนก็ยังเป็นเด็กสำหรับป๊าม๊า อันนี้คือความจริงค่ะ

 

น้องต้องยอมรับและเข้าใจถึงสัจธรรมที่ว่า ถ้าเป็นคู่กันแล้ว ถ้าเค้ารักเราจริง เค้าต้องเข้าใจ

 

และถ้าคนที่น้องคุยอยู่ด้วย เค้าผ่านโมเมนต์ตรงนี้ไปได้ ชีวิตรักก็จะราบรื่นมากๆเลย

 

บางครั้ง บางที คนเป็นพ่อแม่ก็ต้องสกรีน ผู้ชายที่จะเข้ามาในชีวิตลูกเหมือนกันนะคะ

 

ทางออกที่ดีที่สุด คือการพูดคุยกับครอบครัวเราดีๆค่ะ พูดกันด้วยเหตุผล ไม่ใช่การวีนแตก เพราะมันจะทำให้ทุกอย่างแย่ลง

 

สุดท้า้ย พี่อยากจะบอกมากๆเลย สำหรับคู่รักทุกคู่ ถ้าวันนึง ความรักมันถึงทางตัน ไปด้วยกันไม่ได้แล้ว ครอบครัว พ่อแม่ คือคนที่อยู่กับเราในเวลานั้นค่ะ

 

โชคดีนะคะ ตอนนี้หนูอาจจะยังเด็กเกินไปที่จะเข้าใจ แต่สักวัน ถ้าเกิดมันมีโมเมนต์ที่หนูต้องผิดหวังในเรื่องนี้ หนูจะเข้าใจค่ะ ^^