3 ดอย 1 ม่อน ณ เชียงใหม่ ตอนดอยอินทนนท์ หนาวแท้!
AIRZ15ณ กิ่วแม่ปาน หนาว 10 องศา หนอกลงหนามากๆ
ที่แห่งนี้สวยงามมาก เริ่มแค่เห็นเจดีย์สีทองอยู่บริเวณหน้าวัด ก็ยิ้มสู้แดดสุดใจ แวะซื้อ "ดอกคำมั่นสัญญา" ไปกราบองค์พระประธานด้านในโบสถ์ และแวะชมโบราณวัตถุด้านใน เราเอาฤกษ์เอาชัยก่อนที่จะไต่ระดับความสูงกันไปยังดอยอินทนนท์กันค่ะ
"วัดพระธาตุศรีจอมทอง"
ดอกคำมั่นสัญญา "สัญญานะว่า ครอบครัวของเราจะรักกันตลอดไป"
รถสองแถวนอนวีไอพีของเรา ขับไต่ระดับความสูงกันไปเรื่อยๆ จนกระทั่งเรามาแวะกันที่ "บ้านแม่กลางหลวง" ทีแรกเราตั้งใจมาชมนาขั้นบันไดสีทอง แต่ยามนี้(15พย.56) ถึงเวลาที่ชาวบ้านเก็บเกี่ยวข้าวกันแล้ว แต่ก็ยังสวยจับใจเหมือนเดิม และแล้วสายตาของเราก็เหลือบไปเห็นชาวบ้านกำลัง "ฟาดข้าว" กันอยู่ เราจึงขออนุญาตชาวบ้าน ลองฟาดดูสัก
นาขั้นบันได "บ้านแม่กลางหลวง"
มัดสองมัด ให้ชาวบ้านลองทำให้ชมก่อน มัดฟางข้าว แล้วยกฟาด เอ้า!!!! ลุย!!!!
จับมัดข้าวยกขึ้น แล้วฟาด! เอ๊ะ!!! ทำไมมันไม่ดังป๊าบ!!! ล่ะคุณน้อง ประหนึ่งเหมือนคนไม่มีแรงแขนนะ แล้วน้องสาวคนเล็กก็ตะโกนบอกว่า "เจ๊! เห็นอย่างนี้มันหนักนะ มาลองมะ! อุ๊ตะ! คนสวยอย่่างเจ๊ ยืนถ่ายรูปให้ลื้อดีกว่า ว่าแล้วฉันก็ยืนถ่ายวิดีโอต่อ
น้องสาวฟาดข้าวท่ามกลางแรงเชียร์ของชาวบ้าน เชียร์กันยกใหญ่จนท้องแข็ง หัวเราะกันกระจุยกระจาย ฟาดทีหน้าทิ่มลงกองข้าวที มัดแรกหมดแล้วค่ะ นางกำลังจะมวนตัวกลับ คุณพี่ผู้ชายคนที่มัดข้าวให้ สะกิดนาง พร้อมยื่นให้อีกมัด ขอบอกว่า มัดไซส์ปกติ (มัดแรกตามขนาดตัว) ยกแทบไม่ขึ้น และน้องสาวของฉันก้สร้างรอยยิ้มและเสียงหัวเราะให้ชาวบ้านในช่วงกลางวันนี้ได้อย่างสวยงาม และก่อนที่น้องสาวจะลมจับ เขาก็ให้พอและขอถ่ายรูปคู่ด้วย ... เอิ่ม!!!!!
น้องสาวคนเล็กกำลัง(พยายาม)ฟาดข้าว
แว๊ก!!! คุณน้องลืมถอดรองเท้านะคะลูก!!!!!!!!
พวกเรากล่าวคำขอบคุณชาวบ้านแล้วเดินเลาะคันนากลับไปที่รถ แต่ยังไม่ทันถึงรถ คุณแฟนของน้องสาวก็ลงไปกองอยู่ในนาแห้ง .... นายเดินยังไงให้กลิ้งโกร่งโล่งลงไปอย่างน้านนนนนนน
และฉันได้ยินมาว่า ที่นี่มีการปลูกกาแฟด้วยนะ และมีกาแฟสด สดจริงๆ ต้มแบบชาวบ้านด้วย แหม! คอกาแฟอย่างฉันรึจะพลาด แต่แล้ว เราก็พลาด เพราะหมู่บ้านทำถนนเราไปยังบ้านที่ปลูกกาแฟไม่ได้!!!!! เสียใจสุดพลัง!!!! ไม่เป็นไร เราลุยกันต่อก็ได้ ฮึม!!!!
รถของเราเคลื่อนตัวไปเรื่อยๆ เวลานี้เรามาถึง "น้ำตกวชิรธาร" แล้ว อลังการงามแท้ แค่ก้าวลงจากรถ ละอองน้ำก็กระเด็นมากระทบกับเราแล้ว สวยมาก แถมมีรุ้งกินน้ำให้เห็นอีกด้วยล่ะ
"น้ำตกวชิรธาร"
จากนั้นเราก็ลุยกันต่อที่ "สถานีเกษตรหลวงอินททนน์" กันต่อ โดยเสียตังค์ค่าเข้าเป็นที่เรียบร้อย ก็เดินเข้าไปชมแปลงเดินไม้ ต้นไม้ด้านในกันเลย และระหว่างทาง เราเห็นน้ำตกสิริภูมิอยู่บนภูเขาไกลๆ สวยมาก เราเดินไปดูหงส์ดำในสระดำ และดอกไม้เมืองหนาวนานาชนิด สวยมาก เพลินมากๆ และที่สำคัญไม่ลืมแวะ ร้านค้าสโมสรอินทนนท์ ซื้อโปสการ์ด ซื้อกาแฟสด พร้อม!!! เขียนโปสการ์ด ส่งถึงบุคคลที่ฉันคิดถึง ... ฟินนะ จะ บอก ให้
และจู่ๆ ฝนก้กระหน่ำตกลงมา แหม ... ฟินเกินไปและ สร้างบรรยากาศให้ฉันเกินไปและ มันแฉะนะ!!!! แต่มันก็ยิ่งทำให้ต้นไม้และดอกไม้ สีสดมากขึ้นนั่นเองค่ะ
ต้นคริสต์มาสสีสวย
สีกางเกงของป๊า ตัดกับมอสสีเขียว
เราลั๊ลลากันในที่นี่อยู่นานมาก และแล้วเราค่อยขึ้นไปหาจุดกางเต้นท์ ทีแรกตั้งใจจะไปกางเต้นท์กันที่ดอยชัวร์ญ่า แต่ว่า เสียค่ากางเต้นท์แพงกว่าที่คิด หากเช่าเต้นท์ก็ไม่ได้มีจุดกางประจำไว้ให้คือ คุณอยากจะบอกให้เรากางตรงไหนเราก็จะกางให้ แต่เช่าเต้นท์ปล่านะ ค่าเครื่องนอนแยกต่่างหาก เราจึงตัดสินใจ ลงไปยังจุดกางเต้นท์กม. 31 แทน
เราเสียค่ากางเต้นท์คนละ 30 บาท เช่าเต้นท์เพิ่ม 1 เต้นท์ 250 บาท เช่าผ้าห่ม 7 ผืน ผืนละ 50 บาท สบาย!!!! ที่สำคัญเจ้าหน้าที่บริการดีมากกกกกก จุดรับผ้าห่มก็มี mini shop ให้ซื้อของกิน และมีบริการชาร์ตแบต เครื่องละ 20 บาท เพราะบริเวณที่เราไปกางเต้นท์ ไม่มีไฟฟ้าให้ใช้
บริเวณลานกางเต้นท์จุดนี้ สวยไม่แพ้ที่ไหน เห็นแล้วก็นึกถึงปางอุ๋งที่ไม่มีสระน้ำ และก้นึกถึงทุ่งแสลงหลวง เพราะที่นี่คือ "ลานกางเต้นท์ดงสน" นั่นเอง พวกเราเลือกทำเลบริเวณ เยื้องๆ ห้องน้ำที่มีเครื่องทำน้ำอุ่น เวลานี้ฟ้าเริ่มมืดลงแล้ว พวกเราจัดแจงกางเต้นท์ให้เรียบร้อย แล้วจึงออกไปกินข้าวที่แถวๆ ที่ทำการอุทยานฯ ก่อนกลับเข้ามา นั่งกินขนมหน้าเต้นท์ เม้าส์มอย หัวเราะเสียงดังลั่นป่า เกรงใจนะ แต่มันฮาอ่ะ และคงฮามากเกินไปหน่อย ฝนตกลงมาอีกแล้วคับทั่น! เข้าเต้นท์กันสิคับพี่น้อง นอนสิคับพี่น้อง พวกเราหลับไปท่ามกลางเสียงฝนที่ใจก้หวั่นว่า เต้นท์จะเปียกมาจนถึงเรา แต่แล้วเราก็ไม่เปียก เพราะฝนหยุดตกเสียก่อน ดีใจ!
เราเสียค่ากางเต้นท์คนละ 30 บาท เช่าเต้นท์เพิ่ม 1 เต้นท์ 250 บาท เช่าผ้าห่ม 7 ผืน ผืนละ 50 บาท สบาย!!!! ที่สำคัญเจ้าหน้าที่บริการดีมากกกกกก จุดรับผ้าห่มก็มี mini shop ให้ซื้อของกิน และมีบริการชาร์ตแบต เครื่องละ 20 บาท เพราะบริเวณที่เราไปกางเต้นท์ ไม่มีไฟฟ้าให้ใช้
บริเวณลานกางเต้นท์จุดนี้ สวยไม่แพ้ที่ไหน เห็นแล้วก็นึกถึงปางอุ๋งที่ไม่มีสระน้ำ และก้นึกถึงทุ่งแสลงหลวง เพราะที่นี่คือ "ลานกางเต้นท์ดงสน" นั่นเอง พวกเราเลือกทำเลบริเวณ เยื้องๆ ห้องน้ำที่มีเครื่องทำน้ำอุ่น เวลานี้ฟ้าเริ่มมืดลงแล้ว พวกเราจัดแจงกางเต้นท์ให้เรียบร้อย แล้วจึงออกไปกินข้าวที่แถวๆ ที่ทำการอุทยานฯ ก่อนกลับเข้ามา นั่งกินขนมหน้าเต้นท์ เม้าส์มอย หัวเราะเสียงดังลั่นป่า เกรงใจนะ แต่มันฮาอ่ะ และคงฮามากเกินไปหน่อย ฝนตกลงมาอีกแล้วคับทั่น! เข้าเต้นท์กันสิคับพี่น้อง นอนสิคับพี่น้อง พวกเราหลับไปท่ามกลางเสียงฝนที่ใจก้หวั่นว่า เต้นท์จะเปียกมาจนถึงเรา แต่แล้วเราก็ไม่เปียก เพราะฝนหยุดตกเสียก่อน ดีใจ!
เรากางเต้นท์กันแบบนี้แหละ สนุกดี
ป๊าตั้งนาฬิกาปลุกไว้ที่ตี 3 เพราะเช้ามืดนี้ เราจะฝ่าหมอกหนา กันไปยังยอดดอยอินทนนท์กัน .....
เช้ามืดนี้ เรายืนหนาวสั่นกันอยู่ที่ "กิ่วแม่ปาน"
หนาวจนควันออกปาก ไม่ได้สูบบุหรี่นะ!!!
ระหว่างทางขึ้นมายังกิ่วแม่ปาน เรามองไม่เห็นอะไรเลย เห็นแค่หมอกหนาที่ตัดกับไฟรถเท่านั้น และเมื่อมาถึงกิ่วแม่ปาน กลางทางยอดดอยอินทนน์ เราก์หนาวจนจนปากสั่น ไม่ได้พร้อมว่าจะหนาวขนาดนี้ เพราะคิดว่าแค่เดือนพฤศจิกายน พวกเรารีบไปที่กองไฟโต ไปผิงไฟ แวะกินเครื่องดื่มอุ่นๆ ที่ร้านค้า .... ยามนี้รถรายังไม่มากันมาก เพราะมันมืด เราจึงได้โอกาสจับจอง วิวริมทางเพื่อรอชมพระอาทิตย์ขึ้น ...... แต่แล้วนางก็ไม่โผล่ให้เห็น เราจึงย้าายตัวเองไปดุวิวทะเลเมฆกันที่บริเวณลานจอดรถ ซึ่งอีกไม่นาน เราจะขึ้นไปยัง "พระมหาธาตุนภเมทนีดล และพระมหาธาตุนภพลภูสิริ"
ขอบอกว่า ข้างบนวิวงามแท้ งามนัก งามมาก อธิบายไม่ได้จริงๆ ต้องไปเห็นเองกับตาถึงจะอินจริงๆ
ขอบอกว่า ข้างบนวิวงามแท้ งามนัก งามมาก อธิบายไม่ได้จริงๆ ต้องไปเห็นเองกับตาถึงจะอินจริงๆ
หนาวมาก ลมหนาวมาก และวิวข้างบนสวยมากกกกก
"พระมหาธาตุนภเมทนีดล และพระมหาธาตุนภพลภูสิริ"
จากจุดถึง ไฮไลท์ของเราก็ใกล้จะมาถึงแล้ว เรากำลังจะไปยอดดอยอินทนนท์กันค่า ... เย้!!!!!
และเมื่อรถจอดเทียบท่าเรียบร้อย ลงรถมาหมอกหนาและอากาศหนาวก็โอบพวกเราไว้อย่างเต็มใจ เรายิ้มออกมาอย่างสุดใจ สบายใจไทยแลนด์จริงๆ ค่ะ
จากจุดถึง ไฮไลท์ของเราก็ใกล้จะมาถึงแล้ว เรากำลังจะไปยอดดอยอินทนนท์กันค่า ... เย้!!!!!
และเมื่อรถจอดเทียบท่าเรียบร้อย ลงรถมาหมอกหนาและอากาศหนาวก็โอบพวกเราไว้อย่างเต็มใจ เรายิ้มออกมาอย่างสุดใจ สบายใจไทยแลนด์จริงๆ ค่ะ
หมอกหนาที่ออกมาต้อนรับพวกเรา
เวลาเช้าๆ แบบนี้ เราเดินชมธรรมชาติกันในป่าอย่างสบายๆ ค่ะ เพราะนักท่องเที่ยวยังคงบางตา เราเดินไปถ่ายรูปที่ป้ายสูงสุดแดนสยาม และเดินชมป่าดิบชื้นเขียวๆ นี้กันอย่างเพลินเพลิน ... เอ๊ะ! เรามายืนที่จุดสูงสุดไปแล้วนี่หน่า คือ เดินออกมาได้สักพักแล้ว เพิ่งรู้สึก
พวกเราเดินกันไปเรื่อยๆ ถ่ายรุปกันไปตลอดทาง จนกระทั่งมาแวะนั่งที่่ "doi Inthanon Summit Coffee" เรียกได้ว่าเป็นร้านกาแฟที่ตั้งอยู่บนที่สูง สูงที่สุดในประเทศก็ว่าได้ และขอบอกว่า กาแฟลาเต้ร้อนเวลานี้ ฟินมาก! มีนกบินลงมาเกาะกระถางที่เจ้าของร้านเอาผลไม้วางไว้้ สักพักเจ้ากระรอกน้อยก็วิ่งโฉบมา ขอบอกว่า มีความสุขมากๆ ซึ่งเจ้าของร้านบอกว่า ที่นี่เป็นแหล่งดูนก และอากาศไม่เคยต่ำกว่า 24 องศาตลอดทั้งปี และเคยต่ำสุดที่ -8 องศา .... หนาวทั้งปีจริงๆ
พวกเราเดินกันไปเรื่อยๆ ถ่ายรุปกันไปตลอดทาง จนกระทั่งมาแวะนั่งที่่ "doi Inthanon Summit Coffee" เรียกได้ว่าเป็นร้านกาแฟที่ตั้งอยู่บนที่สูง สูงที่สุดในประเทศก็ว่าได้ และขอบอกว่า กาแฟลาเต้ร้อนเวลานี้ ฟินมาก! มีนกบินลงมาเกาะกระถางที่เจ้าของร้านเอาผลไม้วางไว้้ สักพักเจ้ากระรอกน้อยก็วิ่งโฉบมา ขอบอกว่า มีความสุขมากๆ ซึ่งเจ้าของร้านบอกว่า ที่นี่เป็นแหล่งดูนก และอากาศไม่เคยต่ำกว่า 24 องศาตลอดทั้งปี และเคยต่ำสุดที่ -8 องศา .... หนาวทั้งปีจริงๆ
"doi Inthanon Summit Coffee"
เมื่อเราเต็มที่กลับกาแฟและเค้กแล้ว เราจึงลุยกันต่อ เพื่อไปชมความอลังการของผืนป่าดิบชื้นที่
"เส้นทางเดินศึกษาธรรมชาติอ่างกา" กันต่อเลยค่ะ
เมื่อเราเต็มที่กลับกาแฟและเค้กแล้ว เราจึงลุยกันต่อ เพื่อไปชมความอลังการของผืนป่าดิบชื้นที่
"เส้นทางเดินศึกษาธรรมชาติอ่างกา" กันต่อเลยค่ะ
เราใช้เวลาที่อ่างกา นานมาก เพราะมันสวยมาก ต้นไม้ใหญ่ ต้นมอส เฟิร์น แหล่่งน้ำ ต้นข้าวตอกฤาษี และอีกมากมาย ตลอดเส้นทางเดิน เราเพลินจนลืมเวลากันไปได้เลยค่ะ
สำหรับวันนี้ เราหยุดที่ดอยที่ 2 ในเวลาช่วงเที่ยง แล้วเราก็ตีรถลงไปตัวเมืองเชียงใหม่ ไปยังเกสท์เฮ้าส์น่ารักและเจ้าของใจดีอย่าง "Little Gresthouse" ย่านประตูช้างเผือกค่ะ เพื่อพักเอาแรง หลังจากที่เรานอนเต้นท์กันมาตลอด 3 คืน โดยที่ค่ำคืนนี้ เราแวะไปที่ "ถนนคนเดินช้างคลาน" และไป "ปล่อยโคมประเพณียี่เป็งที่ธุดงคสถาน ม.แม่โจ้"กันค่ะ อลังการงานสร้างมาก สวยมากๆ แต่เสียดาย แบตหมด อดถ่ายความอลังการที่มีปีละครั้งของเชียงใหม่
มาให้ชมกันเลย
สำหรับวันนี้ เราหยุดที่ดอยที่ 2 ในเวลาช่วงเที่ยง แล้วเราก็ตีรถลงไปตัวเมืองเชียงใหม่ ไปยังเกสท์เฮ้าส์น่ารักและเจ้าของใจดีอย่าง "Little Gresthouse" ย่านประตูช้างเผือกค่ะ เพื่อพักเอาแรง หลังจากที่เรานอนเต้นท์กันมาตลอด 3 คืน โดยที่ค่ำคืนนี้ เราแวะไปที่ "ถนนคนเดินช้างคลาน" และไป "ปล่อยโคมประเพณียี่เป็งที่ธุดงคสถาน ม.แม่โจ้"กันค่ะ อลังการงานสร้างมาก สวยมากๆ แต่เสียดาย แบตหมด อดถ่ายความอลังการที่มีปีละครั้งของเชียงใหม่
มาให้ชมกันเลย
เสาวรสสดๆ โรยเกลือเบาๆ แแก้วละ 20 บาท เด็ดสะระตี่จริงเชียว
ปิดท้ายดอยที่สองด้วย น้ำเสาวรสสดๆ จี๊ดๆ แซ่บๆ ที่น้องสาวรีเควส ณ ถนนคนเดินช้างคลานกันค่ะ
ตอนต่อไป เราจะไปลุยดอยสุดท้ายกันที่ "ดอยสุเทพ-ดอยปุย"
ความสนุกและความฮาของบ้านเรายังไม่จบค่ะ
อย่าลืมติดตามกันนะคะ :)
Discussion (5)
ขอบคุณมากค่าาาาา ไว้ติดตามตอนต่อไปได้เลยนะคะ
เที่ยวเลยค่ะ เมืองไทยของเรา เจ๋งสุดยอดดดดดดดดดดด
น้ำตกวชิรธารของจริงสวยเว่อร์ค่ะ เราถ่ายภาพไม่เก่ง ได้มาแค่นี้เอง
น้ำตกวชิรธาร สวยมากเลยยยค่าาาา ถ้ามีโอกาสก็อยากลองไปบ้างนะคะ :D
รีวิวละเอียดมากกก อยากไปรับลมหนาวจัง
อ๊ากกกกกกกก ดูแล้วอยากไปเที่ยวบ้าง
สวยมากเลย น่าไปมากๆ