โฟมล้างหน้านุ่มๆ ชุ่มชื้นด้วย "น้ำมันเบาบับ!"

Facial Foam
โฟมนุ่มๆ ชุ่มฉ่ำผิว (ดีจัง)
 
                เพราะอากาศเมืองไทยมันร้อนได้ใจ เวลาออกไปข้างนอกทีไร เหงื่อซึมออกทั้งหน้าและตามตัวทุกที ยิ่งคนใส่แว่นอย่างฉัน เวลาร้อนและเหงื่อออกแก้ม ฝ้าจับแว่นเลยจ้า ... ต้องคอยเอาออกมาเช็ด ไม่อย่างนั้นคงวิสัยทัศน์ในการมองเห็นของฉันจะวิกฤตแบบจริงจัง เท่านั้นไม่พอจับไปเจอแก้ม(ยุ้ยๆ) ของตัวเอง ทำไมมันมันอย่างนี้ หน้าผากก็ด้วย โดนแดดทีวิ๊งรับทรัพย์กันเลยทีเดียว แต่หน้ามันขนาดนี้ ไม่ดีเลย เพราะทำให้หน้าเราหมอง แถมตัวเราเองก็รู้สึกเหนียวหน้า ไม่สดชื่นอีกด้วย 

                 ไม่ได้การแล้ว เราต้องจัดการความมันบนใบหน้าของเราออกไป พร้อมกับเครื่องสำอางจางๆ ที่แอบแต้มไว้ให้สมความเป็นหญิง แน่นอนว่า เราจะต้องมีการคัดเลือกผลิตภัณฑ์ล้างหน้าของเรา ทั้งตามที่ตัวเองชอบ และดูด้วยว่า แพ้หรือเปล่า ล้างแล้วเหมาะสมกับสภาพผิวหน้าของเราหรือเปล่า แบรนด์ไหนเด่นในเรื่องของส่วนผสมอะไร ซึ่งมีให้เลือกอย่างหลากหลาย

                  สำหรับฉันแล้ว แรกเริ่ม ฉันใช้สบู่เด็ก เพราะรู้สึกว่า อย่างน้อยก็จะอ่อนโยนต่อผิวหน้าของเรา แต่จริงๆ แล้ว สำหรับสาวผิวธรรมดา ที่มันบริเวณทีโซนอย่างฉันแล้ว มันทำให้บริเวณอื่น ที่ใม่ใช่ทีโซนแห้ง และรู้สึก(ไปเอง) ว่า ล้างสิ่งสกปรกบนใบหน้า รวมทั้งเครื่องสำอาง(แต่งอ่อนๆ) ไม่หมด ทำให้ฉันตัดสินใจเปลี่ยน ไปเป็นครีมล้างหน้า แบบหลอดๆ ที่โฆษณาตามโทรทัศนันโครมๆ นั่นแหละ มีแบรนด์หนึ่ง ที่ฉันใช้แล้ว รู้สึกกรี๊ดดีใจจนออกนอกหน้าก็คือ ครีมล้างหน้าการ์นิเย่ ของเขาดีจริงๆ ใช้อยู่หลายเดือน รู้สึกได้ว่า หน้าใสปี๊ง ใสจนเลือดฝาด แต่เวลาที่เราออกไปเจอแดด เรารู้สึกว่า หน้าเราบางจัง และคล้ำเร็ว ฉันจึงตัดสินใจเปลี่ยน

                   จากนั้น เราก็ลองอยู่หลายแบรนด์ หลักๆ ที่เราเลือก เราจะเลือกประเภทของผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดผิวหน้าให้ตรงกับสภาพผิว เช่น เจลล้างหน้า จะเหมาะกับคนที่มีผิวมันและผิวผสม เพราะล้างออกง่าย (เจลล้างหน้าเหมาะกับผู้ชายเหมือนกันนะ เพราะล้างออกง่าย และหน้าไม่ตึงจนผู้ชายตกใจนั่นเอง)

                    และแล้ว ฉันก็มาเจอกับโฟมล้างหน้า ที่แบบหัวปั๊ม ฉันประทับใจกับโฟมนุ่มๆ และกลิ่นหอมอ่อนๆ ตอนแรกใช้ของบีโอเร  ใช้ได้เลยดีเลยทีเดียว ฉันใช้แบบเพลินๆ กดๆ ปั๊มๆ อยู่สัก 2 เดือน มันก็หมดลง! 

                   ทันใดนั้นเอง ฉันเหลือบไปเห็นโฟมล้างหน้าของเจ้ใหญ่วางอยู่ใกล้มือ ก็เลยกดสัก 2 ปั๊ม โฟมนุ่นๆ
หอมอ่อนๆ ใช้ได้ เราก็จัดการล้างหน้าตาม step ขั้นตอนของเรา ที่เรียกว่า เรานวดหน้าไปในตัว พร้อมทั้งเปิดรูขุมขน ให้สิ่งสกปรกมันออกมาให้หมด แล้วค่อยล้างออกด้วยน้ำที่เรารองไว้ในถังอาบน้ำ

*** ปล. ห้ามใช้น้ำร้อน หรือ น้ำเย็นจัดล้างหน้านะ เดี๋ยวหน้าพัง

                  เมื่อใช้เสร็จก็ซับหน้าด้วยผ้านุ่มๆ ปรากฏว่า หน้าไม่ตึง และรู้สึกว่า มันสะอาดหมดจด สบายหน้ามากๆ ก็เลยตั้งใจไปหยิบโฟมล้างหน้ามาดู เอ๊ะ! คุ้นๆ ชื่อ Perrieri ก็แบรนด์เดียวกับ ลิปปาล์มนั่นเอง 

                ถึงตอนนี้ฉันใช้โฟมล้างหน้า สูตรเบาบับ ตัวนี้มาได้ 2 สัปดาห์ ส่วนตัวฉันรู้สึกว่า บริเวณแก้ม (โหนกแก้มที่มักโดนขอบแว่นเสมอๆ) เม็ดสิว หรือเม็ดผื่น (เวลาเราจับแล้วมันสากๆ เป็นเม็ดๆ) มันจางลงไปเยอะมาก ทั้งๆ ที่ไม่ได้ไปชัดหน้า แต่ล้างหน้าด้วยโฟมล้างหน้า และใส่ใจในขั้นตอนการล้างหน้า ให้มากขึ้นอีกนิดเท่านั้น

                 นอกจากนี้ ยังรู้สึกว่า ตื่นมาหน้าไม่มันแผล่บเหมือนแต่ก่อนด้วย แต่ก็ยังมันนิดหน่อยอยู่นะ แต่พอหันไปถามเจ้ เจ้บอกว่า ตัวเจ้เองก็ชอบ เพราะมันนุ่ม และผิวไม่แห้งตึง (เจ้ผิวแห้ง) และรู้สึกว่า ชุ่มชื้นกำลังดี แสดงว่า ใช้ได้กับทุกสภาพผิว แต่หากรู้ว่า เป็นคนผิวแห้งมากๆ ตอนเช้า ล้างหน้าด้วยน้ำเปล่าก็พอค่ะ เดี๋ยวจะแห้งเป็นขุย ลงโลชั่นหรือครีม บางทีก็เอาไม่อยู่เหมือนกัน ซึ่งการเลือกใช้โฟมล้างหน้า ก็แล้วแต่คนจะชอบนะคะ ลองเลือกแบรนด์ที่ถูกใจกันอีกทีค่ะ
 
*****ปล.หากใครสนใจแวะเข้าไปชมรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ www.perrieri.com