ท่องเที่ยว : 3 ดอย 1 ม่อน ณ เชียงใหม่ ตอนดอยสุเทพ-ดอยปุย

  
ป๊ากับแม่ ณ วัดพระธาตุดอยสุเทพ

เช้าวันสุดท้ายที่เชียงใหม่ 
           เราตื่นไวกว่าอยู่ที่กรุงเทพฯ แล้วคว้ามอเตอร์ไซต์เช่าที่เช่าไว้เมื่อคืน ขึ้นมาขี่ ตั้งหน้าตั้งตาหาร้านกาแฟ ที่ใกล้กับเกสท์เฮ้าส์ และแล้วเราก็เจอกับร้าน Rich Coffee อยู่ตรงข้ามประตูช้างเผือกอีกฝั่งถนน เราไม่รอช้า รีบสั่งกาแฟ ... แต่รอบนี้ เราสั่งกาแฟที่ signature ของร้าน ก็คือ Rich coffee และชีสเค้กมาอีกหนึ่งชิ้น .... เช้านี้ฟินอีกหนึ่งวัน 

กาแฟมาเป็นเยือกแบบนี้ สะใจอย่างแรงงงงงง 

หลังจากนั้น รถสองแถวนอนของเราก็มารอรับเรา เพื่อจะไปดอยสุเทพ-ดอยปุยกันต่อ 
*** ปล. มื้อเช้า เราติดใจโรงอาหารในมช.เข้าให้แล้ว ก็ลยไปฝากท้องที่นั่นอีกหนึ่งมื้อ ทิ้งท้ายก่อนกลับ 

           อากาศในเดือนพฤศจิกายน เย็นสบายกำลังพอดี แต่พอรถเคลื่อนตัวขึ้นเขาไปเรื่อยๆ อากาศก็หนาวเย็นขึ้นมาทันตา เราเลือกที่จะไป "หมู่บ้านม้งดอยปุย" กันก่อน เพราะคิดว่า จะช้อปสินค้าพื้นเมืองอย่างสนุกสนานและต้องใช้เวลานานแน่ๆ ซึ่งก็เป็นอย่างนั่้น เพราะสองข้างทาง เต็มไปด้วยร้านรวงของชาวบ้าน ที่มีสินค้าให้เลือกมากมาย อาทิ ผ้าทอมือเป็นผืนใหญ่ๆ เสื้อผ้าฝ้ายสวยๆ กระโปรงผ้าทอลายพื้นเมือง เครื่องเงินต่างๆ กระเป๋า และผลไม้อบแห้ง รวมทั้งผลไมเมืองหนาวสดๆ 
          ละลานตา ละลายใจจริงๆ สตรอเบอรี่ :) 
 
ร้านค้าต่างๆ 

      เราเดินกันมาเรื่อยๆ จนถึงปากทางเข้าสวนดอกไมหมู่บ้านม้ง เราต้องเสียค่าเขาชมคนละ 10 บาท ทันใดนั้นเอง เราก็เห็นร้านให้เช่าชุดม้ง ชุดละ 50 บาท สามารถใส่แล้วเดินเข้าไปถ่ายรูปด้านในได้ด้วย ป๊ากับน้องสาวคนเล็กของเราไม่รอช้า จัดไปคนละชุด ... ขอบอกว่า เหมือนมาก เหมือนจนมีคนต่างชาติมาขอถ่ายรูป (ฮามาก)

ป๊ากับน้องสาวคนเล็ก
 
           ภายในหมู่บ้าน สวยมาก มีดอกไม้นานาชนิดให้เราชม มีน้ำตกเลกๆ ให้เราถ่ายรูป มีบ้านม้งอยู่ปลายเนินเขาให้เราแวะถ่ายรูป มีหน้าไม้ให้ลองยิง ที่นี่สวยและน่าอยู่มาก 
กระท่อมปลายเขา 
 
       
            และแล้ว เราก็ช้อปกันเสร็จสิ้น เราจึงนั่งรถลงไปยัง "วัดพระธาตุดอยสุเทพ"กันต่อ เวลานี้นักท่องเที่ยว ดดยเแพาะชาวต่างชาติทั้งฝรั่งและคนจีน มาที่นี่เยอะมาก มากถึงมากที่สุด ใครไม่อยากเดินก็มีกระเช้าขึ้น คนละ 50 บาท แต่สำหรับครอบครัวของเราแล้ว ต้องเดินขึ้น เพื่อความเป็นสิริมงคลให้ตัวเอง
           ส่วนฉันเดินขึ้นมานับครั้งไม่ถ้วน มากี่ครั้งก็เข่าสั่นทุกครั้งที่เดินขึ้น ไม่ใช่เพราะกลัวสูง แต่มันเหนื่อยจริงจังมาก และเมื่อเราขึ้นสู่ด้านบนเป็นที่เรียบร้อย เราก็พบกับนักท่องเที่ยว ที่มาเองและมากับทัวร์เยอะจนตาลาย พวกเราเดินวนขวา ชมบรรยากาศไปเรื่อยๆ ชมความสวยงามของที่นี่ ไปจนถึงจุดชมวิว ซึ่งเวลานี้ ท้องฟ้าเปิดโล่ง เราเห็นวิวเมืองเชียงใหม่ โดยเฉพาะรันเวย์ของสนามบินเชียงใหม่ได้อย่างชัดเจน และเราก็ขึ้นไปกราบพระธาตุดอยสุเทพ ซึ่งเป็นพระธาตุประจำปีมะแม นั่นเองค่ะ 
พระธาตุดอยสุเทพ ซึ่งเป็นพระธาตุประจำปีมะแม 

        ช่วงบ่าย แดดด้านบนแรง แต่ลมเย็นสบาย หลังจากที่เราอิ่มใจกับที่แห่งนี้แล้ว เรานั่งรถลงมาที่ตัวเมืองเชียงใหม่อีกครั้ง เป้าหมายต่อไปคือ ร้านไอเบอรี่ ของพี่โน๊ต อุดม แถวนิมมานเหมินทร์ 
ปีนี้ เจ้าตัวนี้ สีชมพูแหละ

       ขอบอกว่า ที่ร้านไอเบอรี่เฮียโน๊ต คนแสนแปด เยอะมาก คนจีนเยอะมากกกกกกกก ไม่ไหวค่ะ เข้าไปสั่งไม่ได้เลย ที่นั่งก็ไม่มี เสียงก็จอแจ เพราะคนเยอะ เราได้แค่แวะมาทักมายเจ้าตัวนี้ แล้วก็กลับออกไป (จะดีที่สุด)
     
       "วัดเกตการาม
      เราจึงตั้งใจไปพักหายใจกันต่อ ที่ "วัดเกตการาม" ซึ่งเป็นวัดประจำปีเกิด ปีจอ ค่ะ ซึ่งวัดแห่งนี้สวยมาก มีพิพิธภัณฑ์ของเก่าขนาดเล็กอยู่ด้านหน้า (แต่เรามาสายไปประตูปิด!) และการมาที่วัดแห่งนี้ พลาดไม่ได้ที่จะ กราบไหว้ขอพรพระธาตุด้วยชุดข้าวตอก  ซึ่งประกอบไปด้วยข้าวตอก รูปปั้นปีเกิด ดอกไม้ ธูป และผางประทีป (เทียนที่อยู่ในถ้วยเล็กๆ เวลาลมพัด เปลวไฟจะไม่ดับ) และผางประทีปนี้ ชาวเชียงใหม่จะนำมาจุดไว้หน้าบ้าน เพื่อให้ความเป็นสิริมงคล ให้บ้านสว่างไสวต่อไปและต่อไปค่ะ 
 ผางประทีปน้อยๆ 
  
        เวลานี้เทสกาลยี่เป็งก็เริ่มต้นขึ้นไปแล้ว มีประกวดกระทง ขบวนแห่ตามเส้นริมปิง และจุดปล่อยโคมที่สะพานนวรัฐอันเลื่องชื่อ แต่ก่อนที่เราจะแวะไปปล่อยโคมกันอีกครั้ง เราต้องไปที่ "วัดเจดีย์หลวง" กันก่อน เพราะเวลาที่ฟ้ามืด เจดีย์โบราณอายุกว่า 100 ปีนี้ จะสวยและมีมนต์เสน่ห์อย่างคาดไม่ถึง นอกจากนี้ยังมีต้นไม้ดบราณที่สูงมากๆๆๆ อยู่ในบริเวณวัดถึง 2 ต้น ศาลาที่มีพระพุทธรูปงดงามอยู่ด้านหลัง ... ที่นี่อลังการ จนเผลอคิดว่า เรากลับไปสู่ยุคโบราณที่นานมาแล้ว 

         
"วัดเจดีย์หลวง"
        ระหว่างนั้น สามเณรก็ทยอยนำเทียนมาวางรอบๆ ฐานเจดีย์ สวยมากกกกกกกกก และรอลม เพื่อปล่อยโคม แต่เพราะลมแรง โคมจึงปล่อยไม่ได้ เราจึงเดินไปที่ "วัดพันเตา" อีกวัดที่มีการจัดสวดมนตร์ ในประเพณีประทีปเบิกฟ้า ยี่เป็งล้านนา ณ วัดพันเตา 

ประเพณีประทีปเบิกฟ้า ยี่เป็งล้านนา ณ วัดพันเตา 
 
      ที่นี่ เป็นอีกวัดที่เราไม่ได้พิกัดตั้งใจมา แต่เมื่อวานเย็น เราแวะมาที่นี่่ และเห็นว่า วัดพันเตากำลังจัดงานประเพณี ซึ่งจะจัดอย่างอลังการในคืนวันที่ 17 พย. 56 และคืนนีก็อลังการ และศักดิ์สิทธิ์ในความรู้สึกเป็นอย่างมาก และที่วัดพันเตานักท่องเที่ยว มาจากไหนไม่รู้ มารอถ่ายรูปกันอย่างคึกคัก แน่นวัดไปหมด แน่นจนปีนฐานโบสถ์โบราณ (อยากบอกว่า ลงมาเถอะ สถานที่ที่คุณเหยียบเรานับถือจากใจนะ แต่พูดไม่เป็น) 
       เมื่อเราอิ่มกับเทศกาลภายในวัดแล้ว เราก็ต้องเดินค่ะ เดินไปโซนที่ปล่อยโคม คือ แถว "สะพานนวรัฐ" ตลอดเส้นทางริมปิงกันเลยทีเดียว 
ปล่อยโคมยี่เป็ง ที่สะพานนวรัฐ

เราปิดทริปการเดินทางท่องเที่ยวกับที่สะพานนวรัฐ เป็นการปิดทริปได้อย่างสวยงาม
ปล. มีฝรั่งมาขอแต่งงานกันกลางสะพาน ท่ามกลางโคมที่ปล่อยกันอย่างต่อเนื่อง ...
โรแมนติก :) 

Discussion (4)

:) หนาวแล้ว ไปเที่ยวกันค่ะ

 

อยากไปบ้าง อากาศแบบนี้ด้วยน่าไปสัมผัสลมหนาว

ภาพบรรยากาศสวยมากๆเลยค่ะ เห็นแล้วก็อยากไปอีกบ้าง