[Jeban's Talk] Must have items 2013

สวัสดีค่ะ เพื่อนๆพี่ๆชาวจีบันทุกคน 
วันนี้มิ้มก็มีรีวิวดีๆมาฝากกันค่ะ
เป็น must have item หรือ ของใช้ดี ที่ขาดไม่ได้จริงๆนั้นเองค่ะ
ซึ่งตอนแรกที่เลือกมา มันมีเยอะมากๆ แต่ก็พยายามตัดออกให้เหลือ ตัวที่คิดว่าดีที่สุดจริงๆ
จะมีอะไรนั้นไปดูกันเลยค่าา 



ของทุกชิ้นเป็นของที่ซื้อเอง ใช้เองจริงๆรีวิวตามความเห็นส่วนตัวล้วนๆนะคะ

มิ้มเป็นคนที่ผิวมันแต่ขาดความชุ่นชื้น แล้วก็จะชอบระคายเคือง เป็นสิวง่าย
ดังนั้นทุกตัวที่มิ้มเลือกมานี้ ก็จะเน้นที่ไม่มีแอลกอฮอ ไม่มีน้ำหอม 
ใครที่ผิวแพ้ง่ายก็สามารถลองเก็บไปคิด เผื่อจะซื้อใช้ตามได้นะคะ 






 ซ้าย : Clinique Moisture Surge Extended Thirst Relief 

สำหรับตัวแรกนี้ก็จะเป็นมอยเจอไรเซอร์ที่หลายๆคนก็คงจะรู้จักกันดี
ตัวนี้เรียกได้ว่าเป็นสกินแคร์ที่ชอบมากที่สุดเลยก็ว่าได้ค่ะ เนื่องจากให้ความชุ่มชื้นกับผิวได้ดีมาก 
ซึ่งเมื่อผิวมีความชุ่มชื้นแล้ว ก็จะทำให้มีผิวสุขภาพดีตามมาค่ะ
หลังจากใช้จะรู้สึกได้เลยว่าผิวหน้าเนียนนุ่มชุ่มชื้น ไม่แห้งลอก ความมันก็ลดน้อยลง
แถมตัวนี้ยังมีสารลดการระคายเคือง ใช้แล้วพวกสิว ผดผื่น ลดลงอย่างเห็นได้ชัดเลยค่ะ
ตัวครีมเจลก็บางเบามาก ซึมเข้าสู่ผิวได้รวดเร็ว ไม่เหนียวหน้าเลย
คิดว่าคงจะไม่เปลี่ยนใจไปใช้ตัวอื่นแล้วล่ะค่ะ ดีทุกอย่าง ยกเว้นราคาที่แอบโหดเล็กน้อย 





 สรุปรายละเอียด
ราคา : 1,800 บาท
ปริมาณ : 50 ml กระปุกนึงใช้ได้นานอยู่ค่ะ
ผลลัพธ์ที่ได้ :
- ความชุ่มชื้น
- ผิวสุขภาพดี
- ลดการระคายเคือง

รีวิวเพิ่มเติม : http://www.jeban.com/reviews_product.php?p_id=1000

 ขวา : Paula's choice Hydralight Healthy Skin Refreshing Toner

มาถึงตัวที่สองนี้ก็จะเป็นโทนเนอร์ค่ะ ใช้เทลงบนสำลีแล้วเช็ดหน้าหลังจากล้างหน้าเสร็จ
ตัวนี้ก็ชอบมากๆเหมือนกันค่ะ ไม่เคยใช้โทนเนอร์ตัวไหนแล้วให้ผลลัพได้ดีขนาดนี้เลย
เค้าเคลมมาว่ามันจะช่วยปรับสมดุลของผิว และช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนบนผิวหน้า
แถมยังมีสารอนุมูลอิสระช่วยปกป้องผิวจากมลภาวะต่างๆด้วย
ซึ่งใช้แล้วก็บอกได้เลยว่าดีจริงๆค่ะ มันจะทำให้ผิวแข็งแรงขึ้น ไม่ค่อยแพ้ รอยแดงจากสิวที่แพ้หลายๆอย่างก็จะหายไปอย่างเห็นได้ชัด ผิวดูสุขภาพดีขึ้นมากค่ะ 

 สรุปรายละเอียด
ราคา : ประมาณ 800 บาท
ปริมาณ : 190 ml ขวดใหญ่คุ้มค่าใช้ได้นานเป็นปีๆ
ผลลัพธ์ที่ได้ :
- ผิวแข็งแรงไม่แพ้ง่าย
- ผิวดูสุขภาพดี

รีวิวเพิ่มเติม : -



ซ้าย : Freshel Mineral BB cream (Moist)

ตัวนี้เป็นบีบีครีม จากเครือ kanebo ของญี่ปุ่นค่ะ ที่เลือกใช้บีบีของญี่ปุ่นก็เพราะคิดว่าโอเคกว่าบีบีเกาหลี ที่ใช้แล้วสีไม่ค่อยจะเข้ากับผิวคนไทยเท่าไร ตัวนี้ก็จะเป็นทั้งรองพื้น และกันแดดในตัว แถมยังมีส่วนผสมของสารบำรุงที่ช่วยให้ความชุ่มชื้นกับผิวได้ด้วยค่ะ
ตัวนี้จริงๆแล้วมันก็ไม่ได้ให้คุณสมบัติที่ดีเทียบเท่ารองพื้นทั่วไปซักเท่าไร
แต่ชอบตรงที่ว่ามันไม่หนักหน้าเลย ใช้แล้วรู้สึกสบายผิวเหมือนไม่ได้ทา
สามารถใช้ในชีวิตประจำวันได้แบบไม่ต้องกังวลว่าจะอุดตันผิวหน้า
ปกปิดอาจจะไม่ดีเท่าไร แต่ก็ช่วยให้ผิวหน้ากระจ่างใส ชุ่มชื้น ไม่เป็นคราบๆ
( ตัวนี้เคยเอาไปเที่ยวแล้วทำหาย พอกลับบ้านมาต้องรีบไปหาซื้อมาไว้เลย เพราะขาดไม่ได้จริงๆ 555 )


ปาดให้ดูซักเล็กน้อย

 สรุปรายละเอียด
ราคา : ประมาณ 500 บาท
ปริมาณ : 50 g
ผลลัพธ์ที่ได้ :
- ให้ความชุ่มชื้น
- กันแดด
- ผิวหน้ากระจ่างใส 

รีวิวเพิ่มเติม : http://www.jeban.com/reviews_product.php?p_id=44207

ขวา : Eos Lemon Drop Lip Balm With SPF 15

ตัวนี้ก็เป็นลิปมันที่ต้องมีติดตัวตลอดค่ะ ช่วยให้ริมฝีปากชุ่มชื้นไม่แห้งลอก
มีกลิ่นหอมเลมอนอ่อนๆด้วย แพ็กเกจก็น่ารักดี


 
 สรุปรายละเอียด
ราคา : ประมาณ 170 บาท
ปริมาณ : 0.25 oz
ผลลัพธ์ที่ได้ :
- ให้ความชุ่มชื้น
- กันแดด

รีวิวเพิ่มเติม : http://www.jeban.com/reviews_product.php?p_id=18799




 ซ้าย : Laura mercier Translucent Loose Setting Powder

แป้งฝุ่นในตำนานที่หลายคนคงจะรู้จักดี เป็นแป้งฝุ่นโปร่งแสง ใช้ได้กับทุกสีผิว ให้ความกระจ่างใสกับใบหน้าได้ระดับหนึ่งแต่ก็ไม่ทำให้หน้าวอก ใช้เซ็ตรองพื้นได้ดี ให้ลุคแมท ผิวหน้าดูไม่มันเงา ควบคุมความมันเล็กน้อย
ข้อเสียคือ บางทีถ้าผิวแห้งมากก็ไม่ควรใช้เพราะจะทำให้เป็นขุยๆ

 สรุปรายละเอียด
ราคา : ประมาณ 1,100 - 1,500 บาท
ปริมาณ : 29 g
ผลลัพธ์ที่ได้ :
- ให้ลุคแมท
- ควบคุมความมัน
- ผิวหน้ากระจ่างใส

รีวิวเพิ่มเติม : http://www.jeban.com/reviews_product.php?p_id=335

ขวา : Laura mercier Foundation Powder

แบรนนี้นอกจากแป้งฝุ่นจะดีแล้ว แป้งพัฟก็ดีไม่แพ้กัน ตัวนี้เราจะใช้สลับกับตัวแป้งฝุ่นค่ะ
เวลารองพื้นหนาๆก็จะลงแป้งฝุ่น แต่ถ้าลงรองพื้นเบาๆก็จะลงแป้งพัฟตัวนี้
หรือไม่วันไหนถ้าหน้าแห้งมากๆเราก็จะไม่ลงแป้งฝุ่น แต่จะลงตัวนี้แทนเพราะ ตัวนี้จะใช้ความชุ่มชื้นดีกว่าค่ะ
เป็นแป้งที่ดีมากๆตัวนึงค่ะ ใช้แล้วไม่เป็นคราบ แม้จะเติมระหว่างวันก็ตาม
ให้การปกปิดที่ดีในระดับหนึ่ง ทาแล้วดูเป็นธรรมชาติไม่หนาจนเกินไป 
ข้อเสียคือแพ็กเกจไม่ทนเลย ยังไม่เคยทำหล่น แต่แป้งแตกซะงั้น 


 สรุปรายละเอียด
ราคา : ประมาณ 1,700 บาท
ปริมาณ : 7.4 g
ผลลัพธ์ที่ได้ :
- ผิวหน้าเนียนสวยเป็นธรรมชาติ
- ควบคุมความมัน
- ผิวหน้ากระจ่างใส
- ไม่แห้ง เป็นคราบ

รีวิวเพิ่มเติม : http://www.jeban.com/reviews_product.php?p_id=326



ซ้าย : Maybelline Eyestudio Color Tattoo Eyeshadow  สี too cool

ตัวนี้เป็นอายชาโดวเนื้อครีมค่ะ สีขาวมีชิมเมอร์สวยมากๆ เราชอบเอามาเขียนหัวตา หรือไม่ก็ใช้ไฮไลท์ตา
ราคาไม่แพง ติดทนระดับหนึ่ง เวลาแต่งหน้าจะขาดตัวนี้ไม่ได้เลย 


 สรุปรายละเอียด
ราคา : ประมาณ 200 บาท
ปริมาณ : 4 g
ผลลัพธ์ที่ได้ :
- เป็นประกายวิ้งๆ

รีวิวเพิ่มเติม : http://www.jeban.com/reviews_product.php?p_id=19952

 ขวา : Lunasol Modeling Cheeks เบอร์ Ex02 Soft Coral

บลัชออนตัวนี้เป็นลิมิเต็ดของปีไหนแล้วก็ไม่รู้ ใช้นานมากแล้วแต่ยังไม่หมดซะที
ชอบสีมันมากๆ เป็นสีชมพูอมส้ม มีชิมเมอร์ ปัดแล้วดูน่ารักใสๆดีค่ะ 
ส่วนด้านสีขาวๆก็เอามาใช้ไฮไลท์ใบหน้าได้ด้วยค่ะ
ใช้คู่กับแปรงอันเล็กของ lunasol เหมือนกัน แปรงเนื้อนุ่มไม่บาดหน้าดี ( แปรงราคา 300 บาท )

 สรุปรายละเอียด
ราคา : ประมาณ 900 บาท
ปริมาณ : 9 g
ผลลัพธ์ที่ได้ :
- ให้แก้มดูสุขภาพดี
- มีชิมเมอร์เป็นประกาย ให้ลุคดิวอี้

รีวิวเพิ่มเติม : -





ปาดๆให้ดูสี



ซ้าย CLEAN & CLEAR Deep Action Daily Pore Cleanser

สำหรับโฟมล้างหน้าแล้วไม่ต้องใช้ของแพงที่ไหน บอกได้เลยค่ะ ว่าตัวนี้ถูกและดีมาก
หลอดนี้เป็นหลอดที่ 3 ที่เราใช้แล้ว ( และใกล้จะหมดแล้วด้วย )
ตอนแรกก็ซื้อมาใช้แบบไม่ได้คิดอะไร แต่พอใช้ไปแล้วมันเห็นได้อย่างชัดเจนเลยค่ะว่าสิ้วเสี้ยนหายไปจริงๆ!
คิดว่าคงจะบังเอิญ แต่พอหยุดใช้แล้วสิวเสี้ยนก็กลับมาอีก เลยกลายเป็นลูกรักไปเลยค่ะตัวนี้ขาดไม่ได้เลย
แถมมีกลิ่นหอมอ่อนๆด้วย ชอบมากๆ
( ตัวนี้มีเม็ดบีตสังเคราะห์ อาจจะไม่เหมาะกับการใช้ล้างหน้าเป็นประจำ ควรใช้ควบคู่กับโฟมล้างหน้าสูตรธรรมดาด้วยค่ะ )

 สรุปรายละเอียด
ราคา : จำไม่ได้ค่ะ ไม่น่าจะเกิน 200 บาท
ปริมาณ : 100 g
ผลลัพธ์ที่ได้ :
- ทำความสะอาดผิวหน้า และรูขุมขนได้ดี
- สิวเสี้ยนหายไปอย่างเห็นได้ชัด

รีวิวเพิ่มเติม : http://www.jeban.com/reviews_product.php?p_id=25668

ขวา : Freshel cleansing cream

คลีนซิ่งครีมที่ถูกและดีมากๆ  และคิดว่าคงจะไม่มีตัวไหนดีกว่าตัวนี้อีกแล้ว
แถมปริมาณเยอะจุใจ ใช้ได้นานเป็นปีๆ
เป็นเนื้อครีมสีขาวๆ ใช้นวดๆลงบนใบหน้าซักพักหนึ่ง แล้วเช็ดออกด้วยทิชชู่เปียกจากนั้นตามด้วยโฟมล้างหน้า
รองพื้นที่ติดอยู่จะค่อยๆหลุดออกมา โดยไม่หลงเหลือให้อุดตันรูขุมขนเลยค่ะ
( ถ้าเป็นสิวไม่ควรนวดแรงและนาน อาจจะกระตุ้นให้สิวเพิ่มได้ )




 สรุปรายละเอียด
ราคา : ประมาณ 400 บาท
ปริมาณ : 250 g 
ผลลัพธ์ที่ได้ :
- ทำความสะอาดเครื่องสำอางได้หมดจด
- ไม่อุดตันตกค้าง ไม่ระคายเคือง
- ล้างออกง่าย
 
เป็นยังไงกันบ้างคะ สำหรับ must have ที่นำมาฝากกันในวันนี้
หวังว่ารีวิวก็คงจะเป็นประโยชน์กับสาวๆที่กำลังมองหาเครื่องสำอางดีๆใช้อยู่นะคะ
หากผิดพลาดประการใดก็ขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วยค่ะ
ขอบคุณที่ติดตามรับชมค่ะ 

Discussion (5)

เข้ามาเชียร์ clinique อิอิ ใช้เหมือนกัน

บางตัวก็น่าสอยตาม อิอิ

Freshel cleansing cream น่าสนฝุดๆๆๆ

ใช้เหมือนกันหลายตัวค่ะ

อยากลอง cleansing cream kanebo อ่ะ

ว้าว น่าลองหลายตัวเลย โดยเฉพาะตัวที่ว่าถูกและดี 55555+ อย่างโฟมกะ cleansing cream งี้