ALL ABOUT SKIN feat. Chanel, Dior, Armani, YSL, Nars, Bobbi Brown, Mac and Rimmel

สวัสดีค่ะ วันนี้จะมารีวิวเมคอัพสำหรับผิวหน้าที่ใช้อยู้ทั้งหมดตอนนี้นะคะ
สภาพผิว ผสม นะคะ อายุ 20 ค่ะ
ชอบแต่งหน้าแบบง่ายและเร็ว เพราะเรียนเช้าทุกวันค่ะ

Diorskin Nude BB creme - 002 (1,750บาท)
BB cream อันแรกที่ชอบเพราะบางและดูเป็นธรมมชาติมากค่ะ ตัวนี้จะทำให้หน้าดู glow เลยทำให้หน้ามันนิดหน่อยระหว่างวัน แต่ดีมากช่วงอากาศเย็นหรือวันที่อยู่แอร์ทั้งวัน ถ้ามีผิวแห้งเป็นบางจุดตัวนี้จะทำให้เห็นชัดขึ้นนะคะ ควรจะทาครีมก่อนทาอันนี้ค่ะ และโดยส่วนตัวรูเสึกว่าใช้นิ้วทาจะดีที่สุดนะคะ หลังจากที่ลองมาแล้วด้วย นิ้ว แปรง และ beauty blender ตัวนี้ต้องระวังนะคะเพราะกลิ่นน้ำหอมแรงมาก
คะแนน 8/10 ถ้าเจออย่างอื่นที่ดีกว่าอาจจะไม่ซื้อต่อค่ะ

Giorgio Armani Face Fabric - 3 (1,700บาท จาก pre-order)
ตัวนี้เป็นเนื้อแบบมูส/ซิลิโคนนะคะ ประมาณ porefessional แบบมีสีและช่วยปกปิด แต่เพียงเล็กน้อยนะคะ ไม่ปกปิดได้มาก ที่ชอบคือเบาหน้ามากๆและทาง่ายมากๆค่ะ เพราะมันเบลนกับผิวหน้าง่ายสุดๆ ตัวนี้จะเหมาะกับหน้าร้อนนะคะ เพราะรู้สึกว่ามันช่วยทำให้หน้ามันช้าลงค่ะ และไม่ค่อยทำให้รอยแห้งลอกเห็นชัดเท่าตัว Dior BB creme ด้วยนะคะ ข้อเสียคือหาซื้อยากค่ะและมีกลิ่นน้ำหอมแต่จะน้อยกว่าตัว dior
คะแนน 10/10 ซื้อต่อแน่นอนค่ะ

Bobbi Brown Creamy Concealer - Natural ($32 หรือ ฿1,050 จาก อเมริกา)
เหมาะกับใต้ตามากที่สุดค่ะ เพราะมันรู้สึกแห้งๆ หรือปิดรอยแดงนิดๆหน่อยๆได้ แต่ว่ามันไม่ทนเลยค่ะ แป๊ปเดียวก็หายหมดแล้ว แต่ตัวนี้ทาง่ายค่ะ แค่ใช้นิ้วแตะๆก็เนียนแล้ว บางและดูไม่ออกว่าเป็น concealer ค่ะ ถ้าเอามาปิดสิวจะดูแย่มากๆเพราะมันทำให้แห้งและเป็นขุยๆเลยค่ะ
คะแนน 5/10 ไม่ซื้อต่อค่ะ ชอบYSLมากกว่าสำหรับใต้ตา

Nars Radient Creamy Concealer - Medium2 Ginger (1,200บาท)
เนื้อหนาที่สุดที่เคยมีเลยค่ะ แต่ว่าเบลนกับผิวง่ายมากๆ ปิดรอยสิวได้ดีแต่ไม่เหมาะกับทาใต้ตานะคะ ติดทนนานทั้งวันค่ะ วิธีที่ชอบใช้คือ นำคอนซีลเลอมาทาลงหลังมือและใช้นิ้วแตะที่ละน้อยๆ ค่อยมาทาปิดสิวค่ะ
คะแนน7/10 ถ้าเจอตัวอื่นที่ดีกว่าจะไม่ซื้อต่อค่ะ เพราะรู้สึกว่าหนาไป

YSL Touche Eclat Radiant Touch - 2.5 (1,300บาท จากHK ในไทยขาย 1,500บาท)
ชอบมากๆค่ะ ทำให้ตาดูสว่างไม่หนาเลยค่ะ แต่ต้องเลือกสีให้สว่างกว่าผิวจริงนะคะ ใช้เป็น highlight ทั้งหน้าก็ดีค่ะ สำหรับเวลากลางวัน เพราะมันไม่มี shimmer/ glitter และเกลี่ยง่ายๆมากๆนะ ใช้นิ้วแตะก็เนียนไปกับผิวแล้ว ไม่แห้งแหละไม่หนาค่ะ
คะแนน 10/10 ซื้อต่อแน่นอนค่ะ ชอบมากๆ ใช้ทุกวัน

COLOR SWATCH : Diorskin Nude BB creme 002> Giorgio Armani Face Fabric 3 > Nars Creamy Concealer Ginger> YSL Touche Eclat 2.5 > Bobbi Brown Creamy Concealer Natural

Chanel Poudre Universelle Libre - 30 Naturel Translucent 2 (2,100บาท)
ตัวนี้เฉยๆมากค่ะ อาจจะดูสวยตอนทาแรกๆ แต่ว่าไม่ช่วยเรื่องความมัน และทำให้หน้าหมองค่ะ
คะแนน 5/10 ไม่ซื้อต่อค่ะ มีที่ถูกและดีกว่านี้ค่ะ

Chanel Double Perfection - Medium Beige ( ประมาณ $50 หรือ ฿1,639 )
ชอบมากค่ะ เวลารีบๆสุดๆ แค่ทาตัวนี้ก็ได้แล้ว แต่เหมือนจะเลิกผลิกแล้วนะคะ BAบอกว่ารุ่นที่เทียบเท่าอันนีคือ Matte Lumier Perfectionค่ะ อันนี้ชอบมากเพราะเวลาเหงื่อออกหน้าก็ยังดูดี ไม่มันเกินไปและสีไม่ดรอปค่ะ ช่วยปกปิดได้ค่อนข้างดีนะคะ
คะแนน 9/10 อาจจะลองรุ่น matte perfectionถ้าตัวนี้หมดค่ะ

Rimmel Stay Matte - 001 Transparent (£5 หรือ ฿267 ซื้อจากอังกฤษ)
ชอบตัวนี้มากกว่า Loose Powder ของชาแนลเยอะเลยค่ะ ราคาถูกมากและทำให้หน้าไม่หมองและไม่มันทั้งวัน ชอบใช้ตัวนี้คู่กับ Armani Face Fabric ค่ะ เข้ากันดีมากๆวันที่อากาศร้อน ถ้าจะซื้อแป้งชาแนล ขอแนะนำให้ซื้อตัวนี้แทนค่ะ ถูกและดีกว่ามากๆ
คะแนน 9/10 อาจจะซื้อต่อค่ะ ยังมีตัวอื่นที่อยากลองอยู่

Mac Mineralize Skinfinish - Medium Dark/Natural and Shimmer ( น่าจะประมาณ $30 หรือราวๆ ฿1600 มั้ง) 
ดูเป็นธรรมชาติมากค่ะ ทาเดียวๆก็ได้ทำให้หน้าดูไม่ซีดและเนียนมากๆ แต่ไม่ช่วยเรื่องความมันเท่าไหร่นะคะ ตัวShimmer วิ้งมากๆค่ะ ชอบเอามาทาตามากกว่าใช้เป็นhighlightค่ะ อันนี้ทีมี่highlightด้วย เป็น limited editionนะคะ ไม่น่าจะมีขายแล้ว ซื้อมาจากที่อเมริกาค่ะ
คะแนน 8/10 ซื้อต่อค่ะ ถ้าใช้หมดนะคะ เพราะอันนี้ใช้มานานแล้วยังเหลือเยอะมาก

COLOR SWATCH: Rimmel Stay Matte > Mac Mineralize Skinfinish Medium Dark/Natural > Mac Mineralize Skinfinish Shimmer > Chanel Double Perfection > Chanel Poudre Universelle Libre

จบแล้วค่ะ วันหลังจะมารีวิวตัวอื่นที่ใช้อยู่อีกนะคะ