เตือนภัยสังคม จาก fw mail

เป็นข้อความจาก fw mail ค่ะ เอมาให้อ่านกัน มีหลายเรื่องแล้วก็ยาวหน่อยนะคะ (ขนาดย่อแล้วนะเนี่ย) ถ้าใครเคยอ่านแล้วก็ขออภัยด้วยค่ะ

เรื่องที่ 1
ที่ลานจอดรถชั้นใต้ดินของห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่ง ผมรู้สึกว่ามีคนเดินตามผมห่างๆ คิดว่าคงเป็นผู้มาใช้บริการที่จอดอยู่ชั้นเดียวกัน บังเอิญว่าผมอยากจะทิ้งแก้วน้ำในมือก็เลยมองหาถังขยะ ระหว่างที่ผมเดินหาถังขยะอยู่นั้น ผมก็เดินเลยรถตัวเองไปหลายคันเ แต่ก็หาถังขยะไม่เจอ เลยตัดสินใจว่าเอาไปไว้ตรงที่วางแก้วในรถก่อนก็ได้ (ซึ่งตลอดเวลาไอ้บ้านี่ก็ยังเดินตามผมอยู่)

พอหมุนตัวจะกลับมาที่รถตัวเอง ไอ้บ้านี่มันก็ทำเป็นเดินให้เลยผมไป แล้วก็ทำเป็นมองหารถตัวเอง ช่วงที่เดินสวนกันนี่เอง ดูจากลักษณะแล้วไม่ใช่คนขับรถเก๋งแน่นอน ผมก็เลยแกล้งทำเป็นเดินเลยรถตัวเองอีกสักสี่ห้าคัน แล้วไปหยุดทำท่าทางจะไขกุญแจรถ (รถใครไม่รู้) ซึ่งมันก็รีบเดินตามกลับมา  แต่ผมก็ทำเป็นเปลี่ยนใจอีกครั้งมองหาที่ทิ้งแก้วน้ำ แล้วเดินสวนกับมันในระยะที่ปลอดภัย แน่นอนว่าผมเดินกลับไปหารถคันที่เป็นของผมจริงๆ แต่ตัวมันไปหยุดยืนอยู่ท้ายรถคันที่ผมทำท่าจะไขประตู (รถใครไม่รู้)  ผมจึงรีบกดรีโมท พอขึ้นรถได้ผมก็สตาร์ทเครื่อง กดเซ็นทรัลล็อค แล้วขับออกไป มองกลับไปเห็นมันยืนทำหน้างงๆ จากนั้นผมจึงนำ ร.ป.ภ ไปค้นตัวก็พบว่าท่าทางมีพิรุธและพกมีด จึงจับส่งตำรวจในที่สุด

ต้องระวังนะครับ อย่าประมาทเด็ดขาด ถ้าเป็นสุภาพสตรี อย่าลีลาอย่างผม เพราะไม่คุ้มแน่นอนถ้าเราพลาด เป็นห่วงทุกคนนะครับ โจ

เรื่องที่ 2

ขณะที่ขับรถกลับบ้านคนเดียวประมาณ 2ทุ่ม
พอเข้าซอยรู้สึกว่ามีรถมอเตอร์ไซด์ขับตามมาเรื่อยๆ

พอจอดรถหน้าบ้านเขาก็ขับเลยเข้าไปในซอยซึ่งเป็นซอยตัน
และเลี้ยวกลับมาจอดอยู่ใกล้ๆ และลงมาเปิดประตูข้างคนขับที่นั่งอยู่
พอดีคอยระวังอยู่แล้วและคอยมองอยู่ และรถก็ล็อคอยู่ เขาจึงเปิดไม่ได้
แต่ทำท่าบุ้ยใบ้ให้เราเปิดประตูเหมือนจะถามอะไร
ก็เลยบีบแตรดังมากๆหลายครั้ง แล้วโบกมือให้รู้ว่าไม่เปิด
พอดีแม่บ้านเดินมาที่ประตู เขาก็รีบเดินไปขึ้นรถขับออกไป
ทั้งหมดนี่เกิดขึ้นเร็วมากนับจากที่จอดรถหน้าประตูบ้าน ประมาณ 2-3 นาทีเท่านั้น
ปกติเมื่อถึงบ้านจะบีบแตร แล้วเปิดประตูรถ เพื่อส่งกุญแจประตูใหญ่ให้แม่บ้านไขประตูบ้านให้
พอดีวันนั้นมองเห็นรถมอเตอร์ไซด์คันนี้อยู่ เลยยังไม่ได้กดแตร
เขาอาจจะคิดว่าเราจะลงจากรถมาเปิดประตูบ้านเองก็ได้
ไม่อยากคิดเลยว่า ถ้ารถไม่ได้ล็อคอยู่จะเกิดอะไรขึ้น ต่อให้หน้าบ้านเราเองพวกมิจฉาชีพพวกนี้จะลงมือเร็วมาก คนม าช่วยก็อาจช่วยไม่ทัน ดังนั้น ขอย้ำให้ระมัดระวังมากๆ เพราะเหตุการณ์ประเภทนี้เกิดขึ้นบ่อยมาก และขอให้ทุกคนปลอดภัยนะคะ
ฌลาวิภา เมฆใจดี

เรื่องที่ 3

ระหว่างที่รถผมติดไฟแดง มีชาย 2 คนเดินมาข้างหลัง
ทั้งคู่กระตุกประตูหลังคนละข้าง โชคดีที่ประตูล๊อกอยู่ 1 ใน 2 คนนั้นพยายามดึงแรงขึ้นอีก
แล้วทั้งคู่ก็เดินเร็วผ่านรถผม แล้วปนไปในฝูงชน เดี๋ยวนี้ เหตุร้ายเกิดได้ตลอดไม่ว่ามืดหรือสว่าง
เราคงต้องระวังอย่าเผลอเชียวละ
Regards,
Suraphong

เรื่องที่ 4
ภรรยาผม จะมีนิสัยต้องกดเซนทรัลล๊อคทั้งก่อนสตาร์ทเครื่องและก่อนดับเครื่อง
มีรถเก๋งคันหนึ่งสีเงิน มีคนสองคนเดินลงมาจากรถแล้วก็เดินมาที่รถของเราอย่างสุภาพ
ขณะที่ภรรยาผมกำลังเล่นกับลูกอยู่ เพลินๆ ก็ได้ยินเสียงตึ๊กจากข้างหลัง
ภรรยาผมก็ตกใจรู้สึกตัวว่ามีคนพยายามเปิดประตูหลังของรถเรา
แต่เพราะรถล๊อคพวกเขาก็เดินกลับ ไปขึ้นรถเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น

ทั้งๆที่ตอนนั้นมันกลางวันแสกๆ
ถ้าหากบังเอิญรถไม่ได้ ล๊อค ผมไม่กล้าคิดเลยว่าจะเกิดอะไรขึ้น
อยากจะให้ทุกคนมีนิสัย ขึ้นรถต้องล๊อครถ
พวกผู้ร้ายมักจะ ลงมือจากเบาะหลัง เพราะจะ ควบคุมสถานการณ์ได้ง่าย

เรื่องที่ 5
หลังจาก จ่ายเงินค่าจอดรถเลี้ยวออกจากโรงพยาบาล ก็จอดติดไฟแดง
ขณะนั้น ( ยังไม่ ถึง 3 นาที ระบบล๊อคอัตโนมัติคงยังไม่ทำงาน )
ชายหนุ่ม สองคนก็เข้ามา นั่งที่เบาะหลังของรถ
โชคดีที่พ่อแม่ของผมไหวตัวเร็วมาก รีบถอดเข็มขัดนิรภัย ดับเครื่อง ดึงกุญแจออกแล้วออกมายืนนอกรถโดยเร็ว
คนทั้งสองคนนั้นก็ยังนั่งอยู่ในรถหน้าตาเฉย จนกระทั่งคุณแม่ของผมตะโกนใส่พวกเขาว่า
พวกเรายังมีเพื่อนฝูงอยู่ในโรงพยาบาลอีกเยอะ ! จะให้ เรียกพวกเขาลงมาคุยกับพวกแกไหม ?
พวกเขาจึงออกมาจากรถแล้วบอกว่าขอโทษขึ้นผิดคัน (นี่มันปล้นกันชัดๆ)
แล้วรถคันข้างหลัง ( มีคนอยู่ในรถสองคน) ก็ขับมารับพวกเขาจากไป
น่ากลัวที่สุด

เรื่องที่ 6
ตอนรถจอดติดไฟแดง รถของผมอยู่ห่างจากทางแยกประมาณคันที่สามหรือสี่
สักครู่ หนึ่ง จู่ ๆ ก็มีมอเตอร์ไซค์คันหนึ่งจอดอยู่ท้ายรถผม บนรถมีชายหนุ่มอายุ ประมาณ 20 กว่า สองคน
แล้วที่น่าสงสัยก็คือ พวกเขาพยายามมองเข้ามาในรถของผม ผมจึงจ้องพวกเขาอยู่ครู่หนึ่ง
พอไฟเขียวก็ออกรถพร้อมมัน ผมบังเอิญได้ยินหนึ่งในนั้นพูดขึ้นว่า “รถมันล๊อคหมด”แล้วก็ขับเลยไป