-ladygaga23 Feb 1413-Discussion (13)SEND Anonymous11 yr.พี่ก็เป็น ตอนนั้นก็ได้แต่คิดว่าทำไมไม่เคยมีอิสระเหมือนเพื่อนคนอื่นเลยนะ แต่พอโตมา ต้องคิดย้อนกลับไปขอบคุณพ่อแม่มากๆเลยนะที่ไม่เคยปล่อยเราไปไหน เขาเป็นห่วงเรามากกว่าใครในโลกนี้เลย ทำให้ชีวิตเราอยู่บนทางที่ดีมาตลอดนะ ไม่เคยต้องหลงไปกับอบายมุขหรือทำอะไรเสียหายค่ะ REPLY Anonymous11 yr.สมัยเรียนมหาวิทยาลัยเราเป็นนักกีฬายูโด เทควนโด เลยค่อนข้างบู๊ๆ ไม่เรียบร้อย ผิดกับหน้าหวานๆ มาก(แหว่ะๆๆ) เป็นเด็กต่างจังหวัดที่เข้ากทม.มาอยู่บ้านคุณลุงคุณป้า คุณลุงเป็นทหาร ค่อนข้างเจ้าระเบียบ เราต้องกลับมานอนบ้านคุณลุงคุณป้าทุกวันไม่ไปค้างคืนที่ไหน แต่ถ้ามีเหตุจำเป็นก็ขอได้ เช่น เก็บตัวนักกีฬา ส่วนคุณพ่อกับคุณแม่ก็ไว้ใจเรามากๆ เคยขอท่านไปเที่ยวตจว.กับเพื่อนๆ คุณแม่ถามคำเดียว "มีผู้ชายไปด้วยมั๊ย" ก็ค่อนข้างตกใจนะว่านี่แม่ไม่ไว้ใจลูกสาวคนนี้แล้วหรือ แต่เราไม่เคยโกหกคุณแม่ค่ะ ก็ตอบไปว่า "มีค่ะ" ก็มีจริงๆนะ ไม่ใช่แฟนเฟินก็เพื่อนๆในชมรมนี่แหล่ะ แล้วแม่ก็พูดว่า "ดีแล้ว นึกว่ามีไปแต่ผู้หญิง มีเพื่อนผู้ชายไปด้วยจะได้ไม่อันตราย" ส่วนคุณพ่อแม่ว่าไงพ่อว่างั้นค่ะไม่เคยขัด พี่เลยเป็นเด็กผู้หญิงที่ไปมันร้อยเอ็ดเจ็ดย่านน้ำ เก็บตัวนักกีฬา กีฬามหา'ลัย กีฬาแห่งชาติ ไปเที่ยว ไปลุย ออกค่ายอาสา สร้างรร. สร้างส้วม ฯลฯ คุณพ่อคุณแม่ไม่เคยห้าม เพราะท่านไว้ใจ และพี่ก็ตั้งใจไว้ว่าจะไม่ทำให้ท่านผิดหวังเสียใจ ให้สมกับที่ท่านไว้ใจค่ะ REPLY 11Centimetres11 yr.ตอนเด็กๆพี่ก็เป็นแบบนี้แหละน้อง ไม่เคยได้ไปไหนหรอก งานกีฬาสี ทำเชียร์จะออกไปตั้งแต่ตี 5 ก็ได้ แต่หกโมงเย็นแกต้องถึงบ้าน จะไปไหนพ่อต้องไปรับไปส่ง ไม่เคยได้ไปเอง เคยแอบไปบ้านรุ่นพี่เพราะไปหาที่เรียนภาษาญี่ปุ่น กลับถึงบ้านหกโมงเศษ โดยด่าเหมือนว่าทำผิดร้ายแรง แทบจะให้ออกจากโรงเรียนเลย - -* จะได้ไปไหนเองก็ตอนเรียนมหาลัยเลยค่ะ ได้มาอยู่หอ เหมือนปลดแอก น้องเอ๊ย ตีสองตีสามยังตีแบดอยู่คอร์ด ตีห้ายังนอนเฝ้าสโมสรคณะ โทรบอกเค้าบ้างว่าทำอะไรอยู่ไหน เค้าก็ได้แค่ห่วง เพราะเค้าห้ามไม่ได้ คึคึ แล้วพี่อาจจะโชคดีกว่าตรงที่ บอกว่าไปนอนบ้านเพื่อนนะ ยอมให้เค้าขับรถไปส่ง จะไปนอนกี่คืน เค้าก็ไม่ห่วงแล้ว (ทั้งที่ความจริงแอบหนีไปต่างจังหวัดด้วยซ้ำ) แต่บางทีพี่ก็คิดนะว่า บ้านตูอยู่สบายสุดแล้วล่ะ พอย้ายกลับมาอยู่บ้านก็ไปไหนไม่ได้เหมือนเดิม ยิ่งทำงานใหม่ๆ ไปกินข้าวกับเพื่อนที่ทำงาน สามทุ่มโดนโทรตามแล้ว ทำไมไม่กลับ พรุ่งนี้จะตื่นไหวเหรอ บลาๆๆๆ ถ้าเกิน 2 ทุ่มยังไม่โทรบอกว่ามีประชุมหรือต้องไปไหน เค้าจะโทรหาแล้ว กลัวรถชน กลัวสารพัด มีครั้งนึงที่ไปงานแต่งแล้ว โดนเจ้าสาวและฝูงเพื่อนลากไปอาฟเตอร์ปาร์ตี้ แล้วแบตมือถือก็หมด มารู้ตัวอีกทีก็ตีสอง พอยืมมือถือเพื่อนโทรเข้าบ้าน แม่ร้องไห้อยู่ เพราะติดต่อไม่ได้ กลัวว่าเราจะเป็นอะไรไป กำลังจะให้พ่อขับรถออกมาตามที่โรงแรมที่จัดงาน ตอนนี้พี่อายุ 28 แล้ว ที่บ้านก็ยังเหมือนเดิม แต่ดีขึ้นมาหน่อย เพราะเค้าก็รู้ว่าพี่ก็มีสังคม กินเหล้าบ้าง เที่ยวบ้าง ประชุมบ้าง แต่ไม่ได้มากมาย จุดไหนขอได้ก็บอก ขอไม่ได้ก็ไม่ไป พอแก่ตัวลง จะอยากขลุกอยู่ในบ้านกว่าจะออกไปเผชิญรถติดและฝูงชนนะหนู บางครั้งพูดกับเค้าด้วยเหตุผล อย่างอแงใส่ บอกเลยว่าอาการดื้อมันใช้ไม่ได้ผลนะคะ ไม่อย่างนั้น น้องจะยิ่งโดนกักมากกว่าเดิม สุดท้าย..เมื่อความเข้าใจของเค้ากับความเข้าใจของเราจูนกัน จะรู้ว่า ทุกอย่างที่พ่อแม่ทำ เพราะห่วง ถ้าจะออกไปไหน เขาไม่ไว้ใจเท่าอยู่กับเค้า เค้ายอมนอนดึก ขับรถออกมารับ แล้วถ้าเกิดอุบัติเหตุจริง เค้าขอเป็นคนที่ขับพาลูกไปเจ็บ ดีกว่าไปนั่งรถคนอื่นแล้วลูกไม่ได้กลับบ้าน เค้าเจ็บกว่าหลายเท่า ขออภัยที่มาซะยาว แต่อยากแชร์เรื่องนี้จริงๆค่ะ ^ ^ REPLY sayhellokitty11 yr.ตอนเรียนไม่เคยได้ไปค้างบ้านเพื่อนเลยค่ะ...คุณพ่อไปรับตลอดต่อให้ดึกแค่ไหนหรือไกลก็ตาม เพิ่งจะไปค้างกะเพื่อนๆก็ตอนจบมหาลัยแล้ว แต่จริงๆก็ไม่ค่อยชอบไปค้างบ้านเพื่อนอยู่แล้วด้วยค่ะ...ไม่รู้นะอาจเพราะเป็นคนชอบนอนที่บ้าน นอนไหนกะไม่เหมือนที่บ้านเนอะ REPLY Mildy Barker11 yr.คนเราก็มีความคิดไม่เหมือนกันค่า เรื่องแบบนี้มันคงมาเปลี่ยนกันง่ายๆไม่ได้ เราอายุ 22 แม่ปล่อยให้ไปไหนมาไหนเองตั้งแต่ ป.5 ค่ะ! เพราะเริ่มจากย้ายบ้าน บ้านอยู่ไกลโรงเรียน แม่มาส่ง 1 เทอมแล้วจากนั้นให้มาเอง จากลาดพร้่าวมาดินแดง จากนั้นก็เริ่มมีไปเที่ยวห้าง(แบบไปเล่นของเล่นอ่ะ555) แม่ก็ไม่ว่าเพราะเป็นที่คุ้นเคยแม่พาไปบ่อย มีคนเคยถามว่าทำไมปล่อยลูกล่ะ แม่เราคิดว่าการปล่อยให้ไปไหนมาไหนเอง ให้รู้จักใช้ชีวิตเอง ช่วยเหลือตัวเองได้ เผื่อวันนึงไม่มีใครช่วยแล้วจะทำยังไง (นี่เป็นความคิดของแม่เราอ่านะ) นี่ขำตัวเองมากตอนอายุ15เคยพาหลานอายุขวบเดียว!! ย้ำขวบเดียว ไปหาแม่ที่สิงห์บุรี นั่งรถทัวร์ด้วย ทำไปได้ไงวะ 555 หอบหลานกะเตงๆ ดีนะหลานไม่ดื้ออ่ะ 55555555+ แต่ปัจจุบันนี้แม่ไม่ได้ห่วงเรามากเท่าไหร่เพราะแม่รู้แล้วว่าเราเอาตัวรอดได้ 55 กลายเป็นแฟนค่ะ แฟนห่วง คือไม่อยากให้ไปค้างบ้านคนอื่นบ่อยค่ะ เที่ยวตจว.ไปได้ เที่ยวกลางคืนปกติไม่เที่ยวอยู่แล้วค่ะ REPLY VIEW 5 OLDER COMMENTS
Anonymous11 yr.พี่ก็เป็น ตอนนั้นก็ได้แต่คิดว่าทำไมไม่เคยมีอิสระเหมือนเพื่อนคนอื่นเลยนะ แต่พอโตมา ต้องคิดย้อนกลับไปขอบคุณพ่อแม่มากๆเลยนะที่ไม่เคยปล่อยเราไปไหน เขาเป็นห่วงเรามากกว่าใครในโลกนี้เลย ทำให้ชีวิตเราอยู่บนทางที่ดีมาตลอดนะ ไม่เคยต้องหลงไปกับอบายมุขหรือทำอะไรเสียหายค่ะ REPLY
Anonymous11 yr.สมัยเรียนมหาวิทยาลัยเราเป็นนักกีฬายูโด เทควนโด เลยค่อนข้างบู๊ๆ ไม่เรียบร้อย ผิดกับหน้าหวานๆ มาก(แหว่ะๆๆ) เป็นเด็กต่างจังหวัดที่เข้ากทม.มาอยู่บ้านคุณลุงคุณป้า คุณลุงเป็นทหาร ค่อนข้างเจ้าระเบียบ เราต้องกลับมานอนบ้านคุณลุงคุณป้าทุกวันไม่ไปค้างคืนที่ไหน แต่ถ้ามีเหตุจำเป็นก็ขอได้ เช่น เก็บตัวนักกีฬา ส่วนคุณพ่อกับคุณแม่ก็ไว้ใจเรามากๆ เคยขอท่านไปเที่ยวตจว.กับเพื่อนๆ คุณแม่ถามคำเดียว "มีผู้ชายไปด้วยมั๊ย" ก็ค่อนข้างตกใจนะว่านี่แม่ไม่ไว้ใจลูกสาวคนนี้แล้วหรือ แต่เราไม่เคยโกหกคุณแม่ค่ะ ก็ตอบไปว่า "มีค่ะ" ก็มีจริงๆนะ ไม่ใช่แฟนเฟินก็เพื่อนๆในชมรมนี่แหล่ะ แล้วแม่ก็พูดว่า "ดีแล้ว นึกว่ามีไปแต่ผู้หญิง มีเพื่อนผู้ชายไปด้วยจะได้ไม่อันตราย" ส่วนคุณพ่อแม่ว่าไงพ่อว่างั้นค่ะไม่เคยขัด พี่เลยเป็นเด็กผู้หญิงที่ไปมันร้อยเอ็ดเจ็ดย่านน้ำ เก็บตัวนักกีฬา กีฬามหา'ลัย กีฬาแห่งชาติ ไปเที่ยว ไปลุย ออกค่ายอาสา สร้างรร. สร้างส้วม ฯลฯ คุณพ่อคุณแม่ไม่เคยห้าม เพราะท่านไว้ใจ และพี่ก็ตั้งใจไว้ว่าจะไม่ทำให้ท่านผิดหวังเสียใจ ให้สมกับที่ท่านไว้ใจค่ะ REPLY
11Centimetres11 yr.ตอนเด็กๆพี่ก็เป็นแบบนี้แหละน้อง ไม่เคยได้ไปไหนหรอก งานกีฬาสี ทำเชียร์จะออกไปตั้งแต่ตี 5 ก็ได้ แต่หกโมงเย็นแกต้องถึงบ้าน จะไปไหนพ่อต้องไปรับไปส่ง ไม่เคยได้ไปเอง เคยแอบไปบ้านรุ่นพี่เพราะไปหาที่เรียนภาษาญี่ปุ่น กลับถึงบ้านหกโมงเศษ โดยด่าเหมือนว่าทำผิดร้ายแรง แทบจะให้ออกจากโรงเรียนเลย - -* จะได้ไปไหนเองก็ตอนเรียนมหาลัยเลยค่ะ ได้มาอยู่หอ เหมือนปลดแอก น้องเอ๊ย ตีสองตีสามยังตีแบดอยู่คอร์ด ตีห้ายังนอนเฝ้าสโมสรคณะ โทรบอกเค้าบ้างว่าทำอะไรอยู่ไหน เค้าก็ได้แค่ห่วง เพราะเค้าห้ามไม่ได้ คึคึ แล้วพี่อาจจะโชคดีกว่าตรงที่ บอกว่าไปนอนบ้านเพื่อนนะ ยอมให้เค้าขับรถไปส่ง จะไปนอนกี่คืน เค้าก็ไม่ห่วงแล้ว (ทั้งที่ความจริงแอบหนีไปต่างจังหวัดด้วยซ้ำ) แต่บางทีพี่ก็คิดนะว่า บ้านตูอยู่สบายสุดแล้วล่ะ พอย้ายกลับมาอยู่บ้านก็ไปไหนไม่ได้เหมือนเดิม ยิ่งทำงานใหม่ๆ ไปกินข้าวกับเพื่อนที่ทำงาน สามทุ่มโดนโทรตามแล้ว ทำไมไม่กลับ พรุ่งนี้จะตื่นไหวเหรอ บลาๆๆๆ ถ้าเกิน 2 ทุ่มยังไม่โทรบอกว่ามีประชุมหรือต้องไปไหน เค้าจะโทรหาแล้ว กลัวรถชน กลัวสารพัด มีครั้งนึงที่ไปงานแต่งแล้ว โดนเจ้าสาวและฝูงเพื่อนลากไปอาฟเตอร์ปาร์ตี้ แล้วแบตมือถือก็หมด มารู้ตัวอีกทีก็ตีสอง พอยืมมือถือเพื่อนโทรเข้าบ้าน แม่ร้องไห้อยู่ เพราะติดต่อไม่ได้ กลัวว่าเราจะเป็นอะไรไป กำลังจะให้พ่อขับรถออกมาตามที่โรงแรมที่จัดงาน ตอนนี้พี่อายุ 28 แล้ว ที่บ้านก็ยังเหมือนเดิม แต่ดีขึ้นมาหน่อย เพราะเค้าก็รู้ว่าพี่ก็มีสังคม กินเหล้าบ้าง เที่ยวบ้าง ประชุมบ้าง แต่ไม่ได้มากมาย จุดไหนขอได้ก็บอก ขอไม่ได้ก็ไม่ไป พอแก่ตัวลง จะอยากขลุกอยู่ในบ้านกว่าจะออกไปเผชิญรถติดและฝูงชนนะหนู บางครั้งพูดกับเค้าด้วยเหตุผล อย่างอแงใส่ บอกเลยว่าอาการดื้อมันใช้ไม่ได้ผลนะคะ ไม่อย่างนั้น น้องจะยิ่งโดนกักมากกว่าเดิม สุดท้าย..เมื่อความเข้าใจของเค้ากับความเข้าใจของเราจูนกัน จะรู้ว่า ทุกอย่างที่พ่อแม่ทำ เพราะห่วง ถ้าจะออกไปไหน เขาไม่ไว้ใจเท่าอยู่กับเค้า เค้ายอมนอนดึก ขับรถออกมารับ แล้วถ้าเกิดอุบัติเหตุจริง เค้าขอเป็นคนที่ขับพาลูกไปเจ็บ ดีกว่าไปนั่งรถคนอื่นแล้วลูกไม่ได้กลับบ้าน เค้าเจ็บกว่าหลายเท่า ขออภัยที่มาซะยาว แต่อยากแชร์เรื่องนี้จริงๆค่ะ ^ ^ REPLY
sayhellokitty11 yr.ตอนเรียนไม่เคยได้ไปค้างบ้านเพื่อนเลยค่ะ...คุณพ่อไปรับตลอดต่อให้ดึกแค่ไหนหรือไกลก็ตาม เพิ่งจะไปค้างกะเพื่อนๆก็ตอนจบมหาลัยแล้ว แต่จริงๆก็ไม่ค่อยชอบไปค้างบ้านเพื่อนอยู่แล้วด้วยค่ะ...ไม่รู้นะอาจเพราะเป็นคนชอบนอนที่บ้าน นอนไหนกะไม่เหมือนที่บ้านเนอะ REPLY
Mildy Barker11 yr.คนเราก็มีความคิดไม่เหมือนกันค่า เรื่องแบบนี้มันคงมาเปลี่ยนกันง่ายๆไม่ได้ เราอายุ 22 แม่ปล่อยให้ไปไหนมาไหนเองตั้งแต่ ป.5 ค่ะ! เพราะเริ่มจากย้ายบ้าน บ้านอยู่ไกลโรงเรียน แม่มาส่ง 1 เทอมแล้วจากนั้นให้มาเอง จากลาดพร้่าวมาดินแดง จากนั้นก็เริ่มมีไปเที่ยวห้าง(แบบไปเล่นของเล่นอ่ะ555) แม่ก็ไม่ว่าเพราะเป็นที่คุ้นเคยแม่พาไปบ่อย มีคนเคยถามว่าทำไมปล่อยลูกล่ะ แม่เราคิดว่าการปล่อยให้ไปไหนมาไหนเอง ให้รู้จักใช้ชีวิตเอง ช่วยเหลือตัวเองได้ เผื่อวันนึงไม่มีใครช่วยแล้วจะทำยังไง (นี่เป็นความคิดของแม่เราอ่านะ) นี่ขำตัวเองมากตอนอายุ15เคยพาหลานอายุขวบเดียว!! ย้ำขวบเดียว ไปหาแม่ที่สิงห์บุรี นั่งรถทัวร์ด้วย ทำไปได้ไงวะ 555 หอบหลานกะเตงๆ ดีนะหลานไม่ดื้ออ่ะ 55555555+ แต่ปัจจุบันนี้แม่ไม่ได้ห่วงเรามากเท่าไหร่เพราะแม่รู้แล้วว่าเราเอาตัวรอดได้ 55 กลายเป็นแฟนค่ะ แฟนห่วง คือไม่อยากให้ไปค้างบ้านคนอื่นบ่อยค่ะ เที่ยวตจว.ไปได้ เที่ยวกลางคืนปกติไม่เที่ยวอยู่แล้วค่ะ REPLY
Discussion (13)
จะได้ไปไหนเองก็ตอนเรียนมหาลัยเลยค่ะ ได้มาอยู่หอ เหมือนปลดแอก น้องเอ๊ย ตีสองตีสามยังตีแบดอยู่คอร์ด ตีห้ายังนอนเฝ้าสโมสรคณะ โทรบอกเค้าบ้างว่าทำอะไรอยู่ไหน เค้าก็ได้แค่ห่วง เพราะเค้าห้ามไม่ได้ คึคึ
แล้วพี่อาจจะโชคดีกว่าตรงที่ บอกว่าไปนอนบ้านเพื่อนนะ ยอมให้เค้าขับรถไปส่ง จะไปนอนกี่คืน เค้าก็ไม่ห่วงแล้ว (ทั้งที่ความจริงแอบหนีไปต่างจังหวัดด้วยซ้ำ)
แต่บางทีพี่ก็คิดนะว่า บ้านตูอยู่สบายสุดแล้วล่ะ
พอย้ายกลับมาอยู่บ้านก็ไปไหนไม่ได้เหมือนเดิม ยิ่งทำงานใหม่ๆ ไปกินข้าวกับเพื่อนที่ทำงาน สามทุ่มโดนโทรตามแล้ว ทำไมไม่กลับ พรุ่งนี้จะตื่นไหวเหรอ บลาๆๆๆ ถ้าเกิน 2 ทุ่มยังไม่โทรบอกว่ามีประชุมหรือต้องไปไหน เค้าจะโทรหาแล้ว กลัวรถชน กลัวสารพัด
มีครั้งนึงที่ไปงานแต่งแล้ว โดนเจ้าสาวและฝูงเพื่อนลากไปอาฟเตอร์ปาร์ตี้ แล้วแบตมือถือก็หมด มารู้ตัวอีกทีก็ตีสอง พอยืมมือถือเพื่อนโทรเข้าบ้าน แม่ร้องไห้อยู่ เพราะติดต่อไม่ได้ กลัวว่าเราจะเป็นอะไรไป กำลังจะให้พ่อขับรถออกมาตามที่โรงแรมที่จัดงาน
ตอนนี้พี่อายุ 28 แล้ว ที่บ้านก็ยังเหมือนเดิม แต่ดีขึ้นมาหน่อย เพราะเค้าก็รู้ว่าพี่ก็มีสังคม กินเหล้าบ้าง เที่ยวบ้าง ประชุมบ้าง แต่ไม่ได้มากมาย จุดไหนขอได้ก็บอก ขอไม่ได้ก็ไม่ไป พอแก่ตัวลง จะอยากขลุกอยู่ในบ้านกว่าจะออกไปเผชิญรถติดและฝูงชนนะหนู
บางครั้งพูดกับเค้าด้วยเหตุผล อย่างอแงใส่ บอกเลยว่าอาการดื้อมันใช้ไม่ได้ผลนะคะ ไม่อย่างนั้น น้องจะยิ่งโดนกักมากกว่าเดิม
สุดท้าย..เมื่อความเข้าใจของเค้ากับความเข้าใจของเราจูนกัน จะรู้ว่า ทุกอย่างที่พ่อแม่ทำ เพราะห่วง ถ้าจะออกไปไหน เขาไม่ไว้ใจเท่าอยู่กับเค้า เค้ายอมนอนดึก ขับรถออกมารับ แล้วถ้าเกิดอุบัติเหตุจริง เค้าขอเป็นคนที่ขับพาลูกไปเจ็บ ดีกว่าไปนั่งรถคนอื่นแล้วลูกไม่ได้กลับบ้าน เค้าเจ็บกว่าหลายเท่า
ขออภัยที่มาซะยาว แต่อยากแชร์เรื่องนี้จริงๆค่ะ ^ ^
เราอายุ 22 แม่ปล่อยให้ไปไหนมาไหนเองตั้งแต่ ป.5 ค่ะ!
เพราะเริ่มจากย้ายบ้าน บ้านอยู่ไกลโรงเรียน แม่มาส่ง 1 เทอมแล้วจากนั้นให้มาเอง จากลาดพร้่าวมาดินแดง
จากนั้นก็เริ่มมีไปเที่ยวห้าง(แบบไปเล่นของเล่นอ่ะ555) แม่ก็ไม่ว่าเพราะเป็นที่คุ้นเคยแม่พาไปบ่อย
มีคนเคยถามว่าทำไมปล่อยลูกล่ะ แม่เราคิดว่าการปล่อยให้ไปไหนมาไหนเอง ให้รู้จักใช้ชีวิตเอง ช่วยเหลือตัวเองได้ เผื่อวันนึงไม่มีใครช่วยแล้วจะทำยังไง (นี่เป็นความคิดของแม่เราอ่านะ)
นี่ขำตัวเองมากตอนอายุ15เคยพาหลานอายุขวบเดียว!! ย้ำขวบเดียว ไปหาแม่ที่สิงห์บุรี นั่งรถทัวร์ด้วย ทำไปได้ไงวะ 555 หอบหลานกะเตงๆ ดีนะหลานไม่ดื้ออ่ะ 55555555+
แต่ปัจจุบันนี้แม่ไม่ได้ห่วงเรามากเท่าไหร่เพราะแม่รู้แล้วว่าเราเอาตัวรอดได้ 55 กลายเป็นแฟนค่ะ แฟนห่วง
คือไม่อยากให้ไปค้างบ้านคนอื่นบ่อยค่ะ เที่ยวตจว.ไปได้ เที่ยวกลางคืนปกติไม่เที่ยวอยู่แล้วค่ะ