review&swatch SLEEK palette รุ่น au naturelและsnapshot และmakeup removerในดวงใจ

สภาพผิวจขกท:ผิวคล้ำออกแดง แห้ง makeupติดง่าย ไม่ค่อยมีปัญหาเรื่องเยิ้มหรือเครื่องสำอางหลุด

1.มาเริ่มที่ SLEEK makeup i-divine รุ่น au naturel ก่อนค่ะ
 

            เป็นสีแนว earth tone แต่งได้สบายๆทุกวันเพราะเป็นสีออกครีม เบจ น้ำตาล หรือถ้าจะจัด smoky eye ก็จัดได้ด้วยpaletteนี้เพราะมีพวกสีดำ สีน้ำตาลเข้มหลายเฉด paletteนี้ดีตรงที่มีถึง12เฉดสีทั้งเข้มและอ่อน ทั้งเนื้อmatteและshimmerค่ะ
            โดยส่วนตัวแพรวว่ารุ่นนี้ส่วนของshimmerทำได้ดีกว่า เนื้อสัมผัสนุ่มแบบกำมะหยี่ เม็ดสีแน่น shimmerเห็นชัด วิ๊งจริงอะไรจริงทั้งสีเข้มและอ่อน แต่ตัวmatteพวกสีอ่อนๆถ้าสังเกตจากที่swatchจะไม่ค่อยติดสีบนแขนแพรวแต่ถ้าสีเข้มๆก็โอเคค่ะ แต่จะดูเป็นผงๆเล็กน้อยต้องระวังเลอะค่ะแต่เม็ดสีก็ชัดพอสมควร
 
ให้คะแนน (เต็ม5)
ความแน่น+ชัดของเม็ดสี: matte- 

 

          บอกตรงๆเลยค่ะว่าเห็นสีนี้แล้วรีบสั่งเลย เพราะจี๊ดจ๊าดสดใสมาก ที่สั่งเพราะมีสีแนวearth toneอยู่เยอะพอสมควร เลยอยากได้แนวสดใสบ้าง หวังว่าจะได้ใช้(หรอ?) เผื่อว่าจะได้แต่งหน้าแบบแฟนซีบ้างอะไรบ้าง555
          แพรวรักpaletteนี้มากจริงๆนะ ทั้งๆที่ยังไม่ได้ลองใช้แต่งหน้าจริงๆ แบบว่าเม็ดสีแน่นมากทั้งmatteและshimmerสีสันแบบสดใสเหมือนอยู่ในwonderland โดยเฉพาะสีHUMMINGBIRD(5จากบน)มันจะเป็นฟ้าสดใสแล้วshimmerแบบออกสีทองดูแบบมีลูกเล่นมาก สีอื่นก็ชอบค่ะ สวยทุกสีเลย ไว้มีโอกาสจะใช้paletteนี้แต่งตาแน่นอน

ให้คะแนน (เต็ม5)
ความแน่น+ชัดของเม็ดสี:

ปั๊ม2ทีใส่สำลีนะคะ แล้วเช็ดปื้ดๆก็ออกหมดทั้งแขนไม่เหลือร่องรอยอะไรเลยค่ะ ^^
ชอบcleansing lotionตัวนี้มากค่ะ เป็นน้ำ ใช้ง่าย ไม่เหนียวเนอะหนะ ทำความสะอาดหมดจด ตา-ปากแพรวก็ใช้ตัวนี้ค่ะ     แพรวใช้สูตรmoistเพราะเป็นคนผิวหน้าแห้ง ใช้แล้วก็รู้สึกว่าทำให้ผิวหน้าชุ่มชื้นค่ะ แถมปริมาณมาก ราคาน่ารัก คุ้มสุดๆ
ก่อนหน้านี้เคยใช้ cleansing milk ของ clinique ค่ะขวดสีม่วงๆ ใช้ดีเหมือนกันนะคะ แต่ราคาแอบสูงใช้ไป3ขวดแล้วพอหมดก็ลองซื้อตัวBIFESTAมาใช้ดู ผลออกมาคือชอบเหมือนกันนะ คุณภาพพอกันเลยค่ะสำหรับแพรว(อาจจะเพราะไม่ได้เป็นคน sensitive skin) แถมราคาถูกกว่าเยอะ เลยใช้มาเป็นขวดที่2แล้วค่ะ แนะนำเลย

จบแล้วค่ะreviewวันนี้ ขอบคุณที่เข้ามารับชมกันนะคะ ;)