อยากปรึกษาเรื่องความรักคะ

       อยากปรึกษาเรื่องแฟนคะ เราคบกับแฟนมาหลายปี แฟนเป็นคนดีระดับนึงคะ  แต่ติดตรงที่แฟนไม่ยอมทำงานคะ
เขาจบมาหลายปี  แต่ก็ไม่มีวี่แววว่าจะหางานทำ แฟนเป็นคนติดเกมส์คะ พอมีเกมส์ก็จะเล่นจนติด  จนเราเหนื่อยใจเลย
เพราะเขานอกจากจะติดคนเดียวแล้วยังจะชวนเราไปเล่นด้วยให้ได้ ซึ่งเราเองเครียดมากๆกับการที่เขาไม่หางานทำคะและเครียดกับการที่เขาพยายามจะบังคับให้เราเล่นเกมส์  ทั้งๆที่เราต้องทำงาน  เราพยายามพูดคุยกับเขา แนะนำหลายบริษัทช่วยหางานให้ทุกทาง  แต่เขาไม่มีทีท่าจะกระตือรือร้นหรือสนใจในงานเลย
  ก่อนหน้านี้เราซื้อรถคะ ด้วยเงินของตัวเองและเงินจากทางบ้านแฟนนิดหน่อยคะ  ซึ่งเราใช้เงินคืนทางบ้านเขาไปหมดแล้ว  และตลอดเวลาที่ผ่อน เราก็เป็นคนผ่อนเองมาตลอดคะ  แฟนไม่เคยช่วยออกหรือผ่อน(เขาไม่มีเงินคะ เพราะไม่ได้ทำงาน) แต่ผลปรากฏว่า หลังๆมานี้พอเราเซ้าซี้เรื่องงาน เขาบอกว่า จะกลับไปทำงานที่บ้านต่างจังหวัด  และจะเอารถเราไปด้วย  โดยอ้างว่าจะได้มาหาเราได้  เราก็ไม่อยากให้เอาไปเพราะเป็นรถของเราคะ เราก็อยากให้ทางบ้านเราใช้บ้าง   เลยอ้างไปกับเขาว่าเราก็จำเป็นต้องใช้และบอกเขาว่าถ้าจะมาหาก็ขึ้นรถโดยสารมาหาก็ได้นิ  แต่ก็ไม่เป็นผลสำเร็จ  เพราะเขาก็เถียงว่าเราไม่ได้ใช้หรอก เอาไว้รถก็จอดอยู่เฉยๆ  เพราะเราพักอยู่ใกล้ที่ทำงาน  และเขาไม่อยากขึ้นรถโดยสารมา เขาพูดเหมือนกับจะสื่อว่าไม่อยากลำบากเหมือนเมื่อก่อน จริงๆตั้งแต่เราซื้อรถมาก็แทบไม่ค่อยได้ใช้อะคะ  เพราะเราอยากจะประหยัดเรื่องค่าน้ำมันจึงไม่ค่อยไปไหน สำคัญหรือจำเป็นจริงๆถึงจะใช้รถคะ ส่วนใหญ่มีแค่แฟนที่จะเอาไปใช้ตลอดเพราะเขาจะกลับบ้านไปหาครอบครัวที่ต่างจังหวัดเป็นครั้งคราวกับในวันสำคัญของบ้านหรือครอบครัวเขาต้องการจะไปไหน  ที่เราให้เอาไปใช้เมื่อเขากลับบ้าน เพราะว่าเราถือว่าทางบ้านเขาก็มีบุญคุณกับเราที่ช่วยให้ยืมเงินในตอนแรกที่จะซื้อรถ  แต่หลังๆมานี้ แม้แต่เราจะใช้รถไปไหนมาไหน  เขาก็ไม่ให้ใช้คะ เขาจะอ้างด้วยว่าการที่เราจะเอาไปใช้จะทำให้เปลืองน้ำมัน และอาจเกิดอุบัติเหตุได้ เขาไม่ไว้ใจให้เราขับรถ ทั้งๆที่เราไม่เคยชนหรือเฉี่ยวเลยมีแต่เขาที่เอาไปเฉี่ยว
   จึงอยากจะปรึกษาอะคะ ว่าเราจะทำยังไงกับแฟนดี ทั้งเรื่องแรกคือ เรื่องที่แฟนไม่ยอมทำงาน เราควรจะพูดยังไงให้แฟนไปหางานทำ  
  เรื่องที่สองคือถ้าพูดให้แฟนทำงานแล้วแฟนจะเอารถไปจะพูดยังไงให้แฟนไม่สามารถเอารถไปได้คะ(แบบไม่รุนแรงไปถึงขั้นต้องเลิกกันอะคะ) อยากจะทวงสิทธิ์ในรถคืนอะคะ
เรื่องสุดท้ายคะ เรื่องที่ทางบ้านเขาเคยมีบุญคุณกับเรามาก่อนที่เคยให้เรายืมเงิน ซึ่งตอนนี้เราใช้หมดแล้วอยากจะสอบถามว่าถ้าเราเอารถกลับมาใช้แล้วแฟนไปทำงานที่ต่างหวัดโดยไม่มีรถไป เราจะถือว่าเนรคุณกับทางบ้านเขาไหมคะ      
     ตอนนี้เราไม่สบายใจ อึดอัดและเครียดมากเลยคะ  ไม่รู้จะหาคำพูดหรือวิธียังไงให้เมื่อพูดแล้วเราไม่ทะเลาะกันอะคะ
เพราะหลังๆมา เมื่อพูดเรื่องงานแล้ว ถ้าเขาไม่อ้างว่าจะกลับบ้าน ก็เงียบหรือทะเลาะกับเราตลอดคะ  ส่วนใหญ่ก็จะเงียบใส่ซึ่งเราหงุดหงิดมากเพราะไม่ได้ความชัดเจนเลย จึงอยากจะขอคำปรึกษาและหาทางแก้ไขอะคะ ขอบคุณคะ

Discussion (8)

สวัสดีครับ
เรื่องรถ เป็นสิทธิ์ของคุณนะครับ  ไม่เรียกว่าเนรคุณ คุณยืมมาก็ใช้เงินคืนไปแล้ว ถ้าจะคิดดอกเบี้ยก็จ่ายกันไป ไม่แปลก จ่ายย้อนหลังก็ได้ครับถ้าเค้าจะทวง

แฟนคุณเป็นคนไม่รับผิดชอบและเค้ามีปัญหาที่สำคัญมากที่ทำให้โลกเราทุกวันนี้ห่วยแตก ... คือ เค้า"มักง่าย"ครับ  โลกเราห่วยเพราะคนมักง่าย  ทิ้งขยะ โกงชาติ ไม่ recycle ขโมยจากคนอื่น ขายเสียง ฯลฯ   

ถ้าแก้เค้าไม่ได้ คุณควรเลิกเสียแต่ตอนนี้ เราเจอคนแบบนี้ที่ฟิทเนสรายนึง ผ่านมา 9 ปีแล้วยังไม่หางานทำ เล่นเกมส์ แบบนี้แหละ ใช้เงินพ่อแม่ตลอด เราคุยแบบเลียบๆเคียงๆชี้แนะไปแล้ว เค้าก็ไม่เปลี่ยน  มันเป็นภาวะทางจิตครับ  อยู่ที่การเลี้ยงดูมาแต่เล็กแต่น้อยด้วย

คุณอยู่ด้วยกันไปแล้วเกิดเป้นครอบครัวขึ้นมาคุณจะยิ่งซวย และอาจซวยไปถึงลูก

ที่คุณทำน่ะถูกแล้วเรื่องการใช้รถ ใช้แบบนั้นลดโลกร้อนได้ มีประโยชน์ต่อชาวโลกดี แฟนคุณไม่เคยหาเอง เค้าไม่เข้าใจเรื่องรายจ่าย คำวิจารณ์ของเค้ามี bias และเห็นแก่ตัวครับ 

อย่าใจอ่อนให้รถเค้าไป หรืออย่าไปรู้สึกผิดถ้าเค้าทวงว่า "บ้านชั้นให้ยืมเงินนะ"  จ่ายดอกเบี้ยไปครับถ้าทวง  ผมว่าซัก 5% ก็พอนะ ดอกเบี้ยเงินฝากแค่ 3% เอง แล้วลูกคนให้ยืมตังค์ก็ใช้รถเราด้วยมาตั้งนาน อันที่จริง 3% ก็พอ เอหรือว่าไม่จ่ายดี หึๆๆ  
ขอบคุณคุณ jiejie มากนะคะ เราก็พยายามคุยกับเขาหลายครั้งแล้วคะในส่วนของเรื่องงาน ซึ่งแรกๆเขาก็รับปากจะปรับปรุงแต่ในทุกครั้งก็กลับมาเหมือนเดิม เราก็ยอมรับว่า เลิกกับเขายากคะ ถึงแม้จะรู้สึกไม่ดีเรื่องที่คบกันมาหลายปีแต่เขาไม่ยอมออกไปหางานทำ แต่เรื่องที่เขาเป็นแฟนที่ดี เอาใจใส่และไม่เคยนอกใจเป็นเรื่องที่เขาเป็นมาตลอดคะ จึงทำให้เราเลิกไม่ได้มาหลายปี แต่สำหรับเราในตอนนี้ เหมือนกับที่ คุณ mtfnmtfn บอกอะคะ เรารู้สึกว่า เราควรจะอยู่คนเดียวได้แล้ว เพราะเขาไม่ได้นึกถึงอนาคตในข้างหน้าของเราสองคนเลย และเราไม่เด็ดขาดกับเรื่องงานเขาพอคะ แต่ยังไง เราจะเอาทุกความคิดเห็นไปคิดอย่างรอบคอบนะคะ และจะลองปรับความเข้าใจและคุยดูกับเขาอีกครั้งคะ ขอบคุณทุกความเห็นมากนะคะ
ไม่ค่อยอยากแนะนำให้เลิกเลยอ่ะ กว่าจะรักกันมาได้ก็นานอ่า เรื่องอะไรไม่เข้าใจก็เคลียกันเลยสิคะ ถ้ามันไม่ไหวจริงๆค่อยเลิก แต่อยากให้เข้าใจอยากให้เคลียกันก่อน มันมีสองทางคือเคลียและเข้าใจกัน ก็เปลี่ยนแปลงตัวเองทั้งคู่ หันมาจูนกัน อีกทางนึงคือเข้าใจกันแล้วแต่คาดว่าจะอยู่ด้วยกันไม่ได้แน่นอน อันนี้ก็ได้จบดีด้วยไม่มีอะไรติดค้าง เรื่องบุญคุณผู้ใหญ่ฝ่ายนู้นคงไม่คิดอะไรหรอกค่ะเพราะว่าเราก็คืนเงินไปแล้ว แต่ถ้าต้องเลิกกันจริงๆก็ควรที่จะไปเยี่ยมเยียนบ้านเขาบ้างในฐานะเพื่อนคนนึง ถ้าเค้าเป็นคนดีเราว่าก็โอเค สมัยนี้หาผู้ชายดียาก เพราะว่าเวลารักแล้วไม่มีความผิดใดยิ่งใหญ่ไปกว่าการนอกใจกัน แต่ถ้าเค้าไม่มีก็ขึ้นกับคุณว่ารับได้ไหมที่เค้าเป็นแบบนี้ เคลียร์ได้ไหมจะได้เข้าใจกันมากขึ้น ตอนนี้เราว่าเคลียดีกว่าค่ะ แบบมีสตินะคะ
ขอบคุณทุกความเห็นมากนะคะ จากทุกความเห็นทำให้เรามองเห็นตัวเองว่าเราไม่เด็ดขาดพอในเรื่องเขาคะ  ทั้งเรื่องรถและเรื่องงานของเขา เราเห็นด้วยกับทุกความคิดเห็นนะคะว่าเขาไม่มีอนาคตพอที่จะเลี้ยงดูเราและลูกในอนาคตแล้วคะ(ในกรณีถ้าเราจะแต่งงานมีครอบครัวกับเขาอะคะ)  ซึ่งเราต้องการจะเลิกกับเขาคะ  แต่ติดตรงที่ทางบ้านเขาคะ เรากลัวว่าทางบ้านจะคิดว่า เราเนรคุณอะคะ เพราะทางบ้านเขาดีกับเรามากๆเลยคะ  และเราเพิ่งผ่อนรถหมดคะ  รถเป็นชื่อเราตั้งแต่แรกคะ เพราะเราตั้งใจจะซื้อให้ตัวเองอยู่แล้วคะ  และทางบ้านเขาก็ทราบเรื่องนี้คะ  เราคงพลาดจริงๆที่ไปรับเงินเขามาด้วยความคิดสั้นๆ  จึงต้องมานั่งกังวลใจอยู่อย่างนี้  เราจึงอยากจบกับเขาแบบดีที่สุดอะคะ  เพื่อไม่ต้องเกลียดกันและทั้ง 2 ฝ่ายจะเข้าใจตรงกันว่า เรา 2 คนเลิกเพราะไปกันไม่ได้ไม่ใช่  เพราะเราเนรคุณ