ปรึกษาเรื่องเเฟนและอนาคตของเราคะ
Maesaznh3ขอคำปรึกษาค่ะ
คือเราคบกับเเฟนมาเกือบ7เดือนเเล้วคะ แล้วเขาเป็นเเฟนคนเเรกคะ เราให้เขาทุกอย่างไม่ว่าเรื่ออะไรเรายอมหมดคะ
แล้วเขาคนนี้เป็นคนประมาณว่าเรางอลไม่ง้อ ใจร้อน วู้วาม เเต่เรารู้ว่าเรื่องอื่นเขาไม่มีอะไร(เรื่องผู้หญิง)
ทุกครั้งที่เราต้องทำธุระสำคัญ เขามักเป็นเหมือนอุปสรรคของเราคะ เช่น มีอยู่ครั้งนึงที่ต้องไปประกวดร้องเพลงคะ แล้วเขาก็ยื้อเหมือนประมาณว่าไปไม่ทันเเล้วจะไปทำไม เราต้องไปก่อนหกโมงซึ่งตอนนั้น5โมงคะ คือไปไปทัน เราก็จะไปคะ เขาก็ไม่อยากไปส่งคะ เหมือนยื้อไปยื้อมา สุดท้ายทำให้เราไปประกวดร้องเพลงไม่ทัน แทนที่เขาจะเสียใจนะคะ เเต่กลับทำหน้าตานิ่งเฉยไม่พูดอะไรเลยเเม้เเต่คำขอโทษ แล้วซึ่งถ้าเป็นเวทีอื่นคงไม่เท่าไหร่เเต่นี่เวทีสำคัญคะ เรารอคอยมาตลอดระยะเวลา1ปี ตั้งเเต่เรื่องนั้นเราเสียใจมากคะ
เราเป็นคนที่เครียดง่ายบวกกับร่างกายอ่ออนเเอเป็นทุนเดิม เราเลยจำเป็นต้องกินยาเเก้เครียดคะ มีอยู่ครั้งนึงทะเลาะเเล้วงานที่จำเป็นต้องส่งโปรเจคก็ยังไม่เสร็จ เราก็กินยามากกว่าที่หมอสั่ง(ปกติกินเเค่1/2แต่เรากิน2เม็ดครึ่งคะ) เราก็เห็นว่าคนอื่นกินไม่เป็นไร เเต่เรากลับโดนหามส่งโรงพยาบาลทำให้ต้องดรอปเรียนเลยคะ คือเราพอเครียดทำอะไรไม่ได้เลย
บางทีเราคิดว่าเราควรเลิกกับผู้ชายคนนี้ดีมั๊ย เพราะเขาเป็นปัจจัยหนึ่งที่ทำให้เราเป็นเเบบนี้ แล้วเขาคนนี้ไม่ทำให้สบายใจในหลายๆครั้ง นัดแล้วให้เรานั่งรอ4-5ชม หลายรอบ เรารู้สึกไม่ดีเลยคะ เราไม่รู้ว่าเราควรจะทำยังไง ตอนนี้ก็กำลังจะสอบเข้าเรียนอีกที่หนึ่ง เป็นเหมือนช่วงหัวเรี่ยวหัวต่ออีกครั้ง เราเคยบอกเลิกเขาคะเเต่เขาไม่เลิก เราก็ทำใจลำลากคะเพราะเรารักเขามาก เพื่อนๆพี่ๆช่วยเเนะนำหน่อยนะคะ ขอบคุณคะ
คือเราคบกับเเฟนมาเกือบ7เดือนเเล้วคะ แล้วเขาเป็นเเฟนคนเเรกคะ เราให้เขาทุกอย่างไม่ว่าเรื่ออะไรเรายอมหมดคะ
แล้วเขาคนนี้เป็นคนประมาณว่าเรางอลไม่ง้อ ใจร้อน วู้วาม เเต่เรารู้ว่าเรื่องอื่นเขาไม่มีอะไร(เรื่องผู้หญิง)
ทุกครั้งที่เราต้องทำธุระสำคัญ เขามักเป็นเหมือนอุปสรรคของเราคะ เช่น มีอยู่ครั้งนึงที่ต้องไปประกวดร้องเพลงคะ แล้วเขาก็ยื้อเหมือนประมาณว่าไปไม่ทันเเล้วจะไปทำไม เราต้องไปก่อนหกโมงซึ่งตอนนั้น5โมงคะ คือไปไปทัน เราก็จะไปคะ เขาก็ไม่อยากไปส่งคะ เหมือนยื้อไปยื้อมา สุดท้ายทำให้เราไปประกวดร้องเพลงไม่ทัน แทนที่เขาจะเสียใจนะคะ เเต่กลับทำหน้าตานิ่งเฉยไม่พูดอะไรเลยเเม้เเต่คำขอโทษ แล้วซึ่งถ้าเป็นเวทีอื่นคงไม่เท่าไหร่เเต่นี่เวทีสำคัญคะ เรารอคอยมาตลอดระยะเวลา1ปี ตั้งเเต่เรื่องนั้นเราเสียใจมากคะ
เราเป็นคนที่เครียดง่ายบวกกับร่างกายอ่ออนเเอเป็นทุนเดิม เราเลยจำเป็นต้องกินยาเเก้เครียดคะ มีอยู่ครั้งนึงทะเลาะเเล้วงานที่จำเป็นต้องส่งโปรเจคก็ยังไม่เสร็จ เราก็กินยามากกว่าที่หมอสั่ง(ปกติกินเเค่1/2แต่เรากิน2เม็ดครึ่งคะ) เราก็เห็นว่าคนอื่นกินไม่เป็นไร เเต่เรากลับโดนหามส่งโรงพยาบาลทำให้ต้องดรอปเรียนเลยคะ คือเราพอเครียดทำอะไรไม่ได้เลย
บางทีเราคิดว่าเราควรเลิกกับผู้ชายคนนี้ดีมั๊ย เพราะเขาเป็นปัจจัยหนึ่งที่ทำให้เราเป็นเเบบนี้ แล้วเขาคนนี้ไม่ทำให้สบายใจในหลายๆครั้ง นัดแล้วให้เรานั่งรอ4-5ชม หลายรอบ เรารู้สึกไม่ดีเลยคะ เราไม่รู้ว่าเราควรจะทำยังไง ตอนนี้ก็กำลังจะสอบเข้าเรียนอีกที่หนึ่ง เป็นเหมือนช่วงหัวเรี่ยวหัวต่ออีกครั้ง เราเคยบอกเลิกเขาคะเเต่เขาไม่เลิก เราก็ทำใจลำลากคะเพราะเรารักเขามาก เพื่อนๆพี่ๆช่วยเเนะนำหน่อยนะคะ ขอบคุณคะ
Discussion (3)
ไม่รู้จะให้คำแนะนำยังไงดี ถ้าเค้าดีทุกอย่างยกเว้นเรื่องที่ว่ามา ก็คงต้องคุยกันค่ะว่าทำไมเค้าถึงไม่อยากให้ประกวด เรื่องโปรเจ็คที่ส่งไม่ทันเค้าได้มีทีท่าว่าพยายามจะช่วยมั้ยคะ คืออยากให้รักตัวเองก่อนที่จะไปรักคนอื่น คนรักกันควรจะสนับสนุนกันไปในทางที่ดี จากที่อ่านเหมือนจขกท.ก็ไม่ได้รักเค้ามากนักนะ เพราะจขกท.บอกว่าเค้าเป็นอุปสรรค เรื่องอื่นๆในชีวิตที่เป็นเป้าหมายใหญ่เค้าได้ให้การสนับสนุนบ้างมั้ยหรือว่าแค่เรื่องนี้เรื่องเดียวที่เค้าขัดขวาง
พี่อยากให้น้องลองอ่านที่คุณหนูดี เค้าเคยเขียนไว้ เป็นบทความที่ดีมากๆเลย อ่านเสร็จแล้วลองตัดสินใจดูนะคะว่าคนที่น้องคบ ดีพอสำหรับน้องหรือยัง
อันนี้คัดลอกมาจากพันธุ์ทิพย์ค่ะ
--------
การที่ผู้หญิงไม่เห็นค่าตัวเอง
คิดว่า
เราต้อง "ยอม" เพื่อให้ผู้ชายมารัก
...ผู้ชายที่รักเราจริง
จะไม่ทำให้เราสูญเสียความเป็นตัวเอง
จะไม่ทำให้เราเสียเกียรติ
จะไม่ลบหลู่ความเป็นผู้หญิงของเรา
มี 3 สิ่งที่บอกได้ง่ายๆ ว่า
ผู้ชายคนนั้น จริงจัง และจริงใจแค่ไหน ในการคบกับเรา
ครูหนูดีสอนสมัยเรียน ครอบครัวศึกษา (ปริญญาตรีของหนูดีค่ะ) เรียกว่า 3 P's
คือ Protect, Profess, Provide
หนูดีจำแม่นเชียว ...เอาไว้สอดส่องพฤติกรรมคนที่เข้ามา
นั่นคือ
1. Protect รักจริง ต้องพร้อมปกป้อง ทั้งร่างกาย จิตใจ เกียรติยศ ศักดิ์ศรีของเรา ...ผู้ชายบางคน อย่าว่าแต่ปกป้องเราจากคนอื่นเลย มีแต่เรานั่นล่ะ ที่ต้องปกป้องตัวเองจากเขา อืม นี่คือ รัก...จริงหรือเปล่านี่
............
2. Profess นั่นคือ พร้อมประกาศกับโลกใบนี้ว่า เราคือแฟน คือคู่หมั้น หรือ คือ ภริยา ...ตามแต่ที่ตกลงกัน ดังนั้น ชายคนไหน เก็บเราไว้ในเงามืด ไม่ยอมออกสื่อ ไม่ยอมบอกเพื่อน ขอให้คบกันแล้วเก็บเป็นความลับ นั่นคือ เขาไม่รักเราค่ะ ...ไม่ต้องหาเหตุผลให้มาก อย่าหาข้ออ้างให้ชาย ถ้าเขาแอบเราไว้คือ เขาไม่รัก จบข่าว ...ใครโดนแบบนี้ ท่องเลยค่ะ เขาไม่รักๆๆๆๆ และหาทางเลิกอย่างด่วน อย่าจมชีวิตอันมีค่า กับผู้ชายที่ไม่เห็นค่าเราพอที่จะประกาศก้องกับโลกว่า "นี่คือผู้หญิงของฉันนนนน" ใครรักเราจริง เขาต้องดีใจเนื้อเต้นที่ได้เป็นแฟนเรา และรีบประกาศให้ทุกคนในโลกของเขาและของเรารับรู้สิคะ ถูกต้องไหมเอ่ย
...............
3. Provide คือ ให้ ค่ะ ให้ความรัก ให้เวลา ให้เงิน ให้ทรัพยากร ฯลฯ ชายที่รักเราจริง จะไม่งกกับเราค่ะ ถ้าไปเดตกันและขอให้ 50/50 ส่วนใหญ่ มักมองเราเป็นตัวเลือก เพราะผู้ชายที่รักจริง ต่อให้จนแค่ไหน จะอยากแสดงความแมนด้วยการดูแลเราให้ครบถ้วน ไม่กินแพงก็ได้ แต่ผมไม่ยอมให้คุณควักกระเป๋าแน่
.................
3 ข้อง่ายๆ ลองนำไปสังเกตดูนะคะ
หนูดีพบว่า ผู้ชายที่มาจีบหนูดีแบบไม่จริงใจ มักมีอย่างน้อยหนึ่งในสามข้อเสมอ ...สามข้อนี้ ทำให้หนูดีรอดมาได้เยอะค่ะ เวลาจับได้ที จะแอบขำกับตัวเอง และหวนไปขอบคุณอาจารย์เสมอ
ที่ทำให้ลูกศิษย์คนนี้ ไม่อกหักกับผู้ชายไม่จริงใจ
ผู้หญิงทุกคนในโลกนี้ ไม่จำเป็นต้องมีแฟนค่ะ หากจะมี ต้องมีให้ดีกว่าอยู่คนเดียว
หนูดีเอง เห็นด้วยกับการมีแฟนที่ดี แต่งงาน และมีครอบครัวที่มีคุณภาพ วันหนึ่ง หนูดีเองก็คงแต่งงานมีครอบครัวเช่นกัน
แต่ไม่เห็นด้วย กับการที่ผู้หญิงคิดว่า "ต้องมีแฟน"
เราไม่ต้องมีหรอกค่ะ แต่หากผู้ชายพิสูจน์ตัวเองว่า "มีค่าพอ" เราก็ค่อยพิจารณา ดูกันนานๆ อย่างน้อยให้เกิน 1 ปีค่อยตัดสินใจ ส่วนใหญ่ คนเรา "เฟค" ได้ไม่เกินปีก็เห็นธาตุแท้แล้ว
ไม่ค่อยได้แชร์เรื่อง "Family Studies" เลย แต่เห็นช่วงหลังๆ สาวๆ อกหักกันเยอะ เลยขอเอาวิชาโปรดมาแชร์มั่งนะคะ
มันช่วยชีวิตหนูดีมาตลอดค่ะ ความรู้ด้านนี้
ด้วยรัก
หนูดี
--------------
ยาวหน่อย ขอโทษที ^_^'
เป็นกำลังใจให้นะคะ
ความรักมันทำให้ตาบอด จนลืมรักตัวเอง
ต้องเจ็บตัว เจ็บใจซ้ำๆ เพราะรักเขามากกว่าตัวเอง
บอกเลิก เขาก็ไม่ยอมเลิก เราเองก็ตัดไม่ขาด เพราะใจอ่อน
วันหนึ่ง เราก็ได้เจอคนที่ดีกว่า จึงตัดสินใจบอกเลิกอีกครั้ง
แล้วเราก็หายตัวไป ไม่ติดต่อกับเขาได้หนึ่งอาทิตย์
จากที่เขาเป็นคนหยิ่งๆ ก็เริ่มมาตื๊อ มาขอโทษทุกสิ่งทุกอย่าง
แต่มันสายไปแล้ว เพราะเราตัดใจได้แล้วจิงๆ
ทุกวันนี้ เรารู้สึกรักตัวเองมากขึ้น รู้สึกมีความสุข
มานึกย้อนไป รู้สึกว่าเสียดายเวลาที่อดทนมาตั้ง 3 ปีกว่า
รู้งี้ เลิกกับมันให้เร็วกว่านี้ซะก็ดี