คุณแม่เป็นมะเร็งหลังโพรงจมูก ระยะที่4

สวัสดีเพื่อนพี่ๆขาวจีบันทุกท่านนะคะ
เข้าเรื่องเลยนะคะเมื่อกรกฏาคมปีที่แล้วคุณแม่ไปตรวจที่โรงพยาบาลธนบุรี แล้วพบว่าเป็นมะเร็งระยะที่3
คุณหมอบอกให้รีบทำการฉายแสงและรับคีโม แต่คุณแม่่เลือกที่จะไม่ฉายและได้รักษาโดยแพทย์ทางเลือก
แพทย์ทางเลือกที่ไหนเขาว่าดีคุณแม่ไปหมดค่ะ ไม่ว่าจะเป็นสมุนไพร ยาจีนอะไรที่เค้าว่าดี คุณแม่หามาทานหมด
พูดกันตามตรงคือว่าคุณแม่ไม่เชื่อการรักษาสมัยใหม่เลย พอลูกๆคะยั้นคะยอให้ไปฉายก็โดนเหวี่ยงกลับทุกที
และไม่ยอมทีืจะรักษาท่าเดียว 
จนเวลาล่วงเรยผ่านมาสิบเดือน (คุณแม่ก็ยังเลือกที่จะรักษากับแพทย์ทางเลือก) 
เมื่อประมานสามอาทิตย์ก่อนคุณแม่มีอาการปวดหัว นอนไม่ได้ ปากชา หน้าชา
อาทิตย์ที่สี่ คุณแม่มีเลือดกำเดาไหลออกทางจมูก นิ้วมือกระตุกตอนนอนนิดหน่อย
อาทิตย์ที่ห้า คุณแม่มีการกระตุกทั้งตัว ปวดหัวปวดหลัง เจ็บแก้มเจ็บท้ายทอย
จนกระทั่งเมื่อวานซืน ได้นำคุณแม่ส่งโรงพยาบาลธนบุรี 
คุณหมอบอกว่า
.........
คุณแม่เป็นมะเร็งระยะที่สี่ และได้ลามไปยังฐานสมองแล้ว 5เซนฯ
คุณหมอบอกว่าฉายไม่ฉายมีค่าเท่ากัน(คุณหมอที่พูดเป็นคุณหมอที่มาอ่านผลแสกน ไม่ใช่คุณหมอเจ้าของไข้)
ตอนนั้น น้ำตาไหลไม่หยุดเลยค่ะ ทุก อย่าง มาถาถมกันหมดเหมือนมีภูเขานับแสนนับล้านลูกมากดทับ
เราไม่อยากเสียคุณแม่ไป เรายังเรียนไม่จบ เหลืออีกแค่ปีเดียวเท่านั้น ยังไม่ได้ทำงานทำเงินรวยๆให้แม่ใช้เรย
พอกลับมาก็เสริชหาข้อมูลว่ามีคนัป็นระยะที่สี่แล้วหายมั้ย
ก้อมีคนรักษาหายขาดและไม่หายก้อมี ส่วนใหญ่ที่หายก้อจะเป็นวิธีธรรมขาติบำบัด
แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น วันจันทร์ จขกท จะลองไปที่โรงพยาบาลจุฬาพรฯ ดู
เพราะทางโรงพยาบาลเพิ่งประกาศใช้เครื่่องThermathron ที่ใช้ความร้อนสลายก้อนมะเร็ง
แต่ทางโรงพยาบาลบอกว่าต้องยกเคสมาดูว่าเคสเราสามารถตะใช้เครืองนี้รักษาได้มั้ย
ส่วนพี่สาวก็จะยกเคสไปปรึกษาคุณหมอเจ้าของไข้ที่ รพ. ธนบุรีอีกที
เพราะทางบ้านคิดว่าคุณหมอน่าจะสามารถให้คำแนะนำการรักษาที่ดีกว่าคุณหมอที่อ่านผล

ตอนนี้คุณแม่ซึมลงมากๆค่ะ ทั้งๆที่ปากบอกว่าสู้ ทางบ้านพยายามให้กำลังใจมากๆค่ะ
แต่ก็ไม่รู้ว่าจะทำยังไงให้คุณแม่หายซึม 
วันนี้ตอนนั่งกินข้าวกับคุณแม่ๆถามว่า
"หมอได้บอกรึเปล่าว่าแม่จะอยู่ได้อีกกี่เดือน"
"หนูไม่ได้ถาม เพราะคำของหมอไม่ได้เป็นตัวลิขิตชะตาชีวิตของมี้ซักหน่อย คนที่หมอตัดสินวาาอยู่ได้กี่เดือนๆก้อมีคนหายมาแล้วตั้งเยอะ ทำวันนี้ให้ดีที่สุดดีกว่ามี้. แต่ตอนนี้มี้ต้องกินข้าวเยอะๆนะ"
แล้วแม่ก็นิ่ง นั่งพุ้ยข้าวต้มกินไป
มาถึงจุดนี้ไม่มีสมาธิอ่านหนังสือสอบมากๆค่ะ คิดแต่ว่าจะทำยังไงให้แม่หายจากโรคนี้ทำยังไงให้รักษาแม่หาย
และให้แม่อยู่กับเราไปนานๆ หากโรคภัยไข้เจ็บสามารถเป็นแทนกันได้จะขอเป็รแทนแม่ในทุกกรณี

สุดท้ายนี้อยากจะให้ปาฏิหารย์ เกิดขึ้นกับคุณแม่ของจขกท มาก ขอให้คุณแม่หายเหมือนหลายๆกระทู้ที่ได้อ่านมา
หากสาวๆมีเรื่องอยากแชร์สามารถแชร์ได้เรยนะคะ

ขอบคุณที่อ่านมาจนถึงตอนนี้ค่ะ