คิดถึงความหนาว@ภูเรือ
AIRZ2คิดถึงความหนาว@ภูเรือ
อากาศร้อนๆ ของเมืองกรุง ทำให้ฉันคิดถึงอากาศหนาวๆ ของต้นปีที่ผ่านมาอย่าง ภูเรือ จ.เลย วันที่ฉันเดินทางไปถึงนั้น อุณหภูมิลดต่ำลงเหลือ 9 องศา ทั้งๆ ที่แดดเปรี้ยง คาดไม่ถึงเลยว่า
แสงแดดจะไม่สามารถสู้
ความหนาว "บนยอดภูเรือ" ได้เลย
แสงแดดจะไม่สามารถสู้
ความหนาว "บนยอดภูเรือ" ได้เลย
เราเดินทางมาถึงอุทยานแห่งชาติภูเรือกันตั้งแต่เมื่อตอนเย็น ก่อนที่ด่านจะปิด ช่วงวันหยุดปีใหม่นี้ คนหนาแน่น จนเรียกว่า แน่นหนา สองข้างทางมีรถจอดเพื่อตั้งหลักกางเต้นท์ ทำให้การจราจรด้านบนค่อนข้างมีปัญหา ทั้งๆ ที่ทางอุทยานฯ ได้มีกฏห้ามจอดสองข้างแล้วก็ตาม
แต่ด้วยปริมาณนักท่องเที่ยวเยอะจนล้น ก็ทำให้การควบคุมเป็นไปได้ยาก หากใครจะมาภูเรือ ทำใจนิดหน่อยนะคะ กับเส้นทางที่ขับยาก นอกจากจะมีรถขวางแล้ว ทางยังแคบมาก และเป็นทางลูกรัง ขับกันที หัวสั่นหัวคลอนกันเป็นแถวๆ
เมื่อขึ้นมาจนถึงลานกางเต้นท์แล้ว จับจองพื้นที่ให้เรียบร้อย ที่นี่มีห้องน้ำสะอาดไว้ให้บริการ มีร้านอาหารมากมาย และหากใครไปต่อคิวรอไก่ย่าง ก็ทำใจนิดนึงนะคะ คนรอเยอะทีเดียวค่ะ
หากไม่ได้รีบร้อนอะไรสั่งไว้ แล้วเดินเล่นภาพรูปกันไปก่อนก็ได้นะคะ ลานกางเต้นท์นี้ก็สวยเหมือนกันค่ะ
จากนั้น ใครที่จะขึ้นไปยอดภูเรือ ทางอุทยานฯ มีรถสองแถวบริการนะคะ ห้ามขับรถยนต์ขึ้นไปเองค่ะเริ่มให้บริการกันตั้งตี 5.30 น. (หากจำไม่ผิด) เพื่อไปรอชมพระอาทิตย์ขึ้นค่ะ
โดยแบ่งเป็นสองช่วงการเดินทางนะคะ ช่วงแรกจากลานกางเต้นท์ด้านใน(ที่มีต้นสนสูงๆ) ออกไปสู่ลานกางเต้นท์หลักด้านนอก รถสองแถวแรกจะส่งเราแค่นี้ค่ะ คนละ 20 บาท จากนั้น เราจะต้องมาต่อสองแถวที่สอง กันบริเวณปากทางขึ้นยอดภูเรือกันอีกคนละ 20 บาท หรือจะเดินชิวๆ ขึ้นไปเองก็ได้นะคะ แต่ไกลเอาเรื่องค่ะ
แต่ด้วยปริมาณนักท่องเที่ยวเยอะจนล้น ก็ทำให้การควบคุมเป็นไปได้ยาก หากใครจะมาภูเรือ ทำใจนิดหน่อยนะคะ กับเส้นทางที่ขับยาก นอกจากจะมีรถขวางแล้ว ทางยังแคบมาก และเป็นทางลูกรัง ขับกันที หัวสั่นหัวคลอนกันเป็นแถวๆ
เมื่อขึ้นมาจนถึงลานกางเต้นท์แล้ว จับจองพื้นที่ให้เรียบร้อย ที่นี่มีห้องน้ำสะอาดไว้ให้บริการ มีร้านอาหารมากมาย และหากใครไปต่อคิวรอไก่ย่าง ก็ทำใจนิดนึงนะคะ คนรอเยอะทีเดียวค่ะ
หากไม่ได้รีบร้อนอะไรสั่งไว้ แล้วเดินเล่นภาพรูปกันไปก่อนก็ได้นะคะ ลานกางเต้นท์นี้ก็สวยเหมือนกันค่ะ
จากนั้น ใครที่จะขึ้นไปยอดภูเรือ ทางอุทยานฯ มีรถสองแถวบริการนะคะ ห้ามขับรถยนต์ขึ้นไปเองค่ะเริ่มให้บริการกันตั้งตี 5.30 น. (หากจำไม่ผิด) เพื่อไปรอชมพระอาทิตย์ขึ้นค่ะ
โดยแบ่งเป็นสองช่วงการเดินทางนะคะ ช่วงแรกจากลานกางเต้นท์ด้านใน(ที่มีต้นสนสูงๆ) ออกไปสู่ลานกางเต้นท์หลักด้านนอก รถสองแถวแรกจะส่งเราแค่นี้ค่ะ คนละ 20 บาท จากนั้น เราจะต้องมาต่อสองแถวที่สอง กันบริเวณปากทางขึ้นยอดภูเรือกันอีกคนละ 20 บาท หรือจะเดินชิวๆ ขึ้นไปเองก็ได้นะคะ แต่ไกลเอาเรื่องค่ะ
ขากลับก็รอสองแถว ที่เดิมนะคะ
เมื่อเราขึ้นมาถึงยอดภูเรือ เราก็รอว้าวกับวิวทิวสนสูง และฉากภูเขาสูงลูกอื่นๆ ที่อยู่ลิบๆ บางครั้งต้องให้เมฆหมอกลอยหลบไปบาง ถึงจะเห็นวิวเบื้องล่างอย่างชัดเจน
ชอบบรรยากาศแบบนี้จัง...
โอ๊ย!!! นึกแล้วฟินฝุดๆ
เราสามคน เรา แฟน และพ่อเรา :)
เรามาแวะชมวิวกันอย่างสนุกสนาน พร้อมสูดหายใจเอาออกซิเจนเย็นเจี๊ยบเข้าปิด เพื่อสำรองใช้ในหน้าร้อน (หราาาาา...)
เราเดินเล่นถ่ายภาพกันอย่างสนุกสนาน และไม่ลืมกราบพระพุทธรูปในเจดีย์สีขาว เพื่อความเป็นสิริมงคลค่ะ
เราเดินเล่นถ่ายภาพกันอย่างสนุกสนาน และไม่ลืมกราบพระพุทธรูปในเจดีย์สีขาว เพื่อความเป็นสิริมงคลค่ะ
วิวสนกับเจดีย์สีขาว ตัดกับท้องฟ้าสีเข้ม บวกกับอากาศหนาวๆ สวดยอด
ต้นสนสูงๆ กับวิวสวยๆ
เมืองไทยเรามีของดีจริงๆ
เราอยู่ที่ยอดภูเรือจนอิ่ม เราก็นั่งรถสองแถวกลับที่ไปลานกางเต้นท์ เหมือนตอนที่เรามา การจราจรยังคิงติด นักท่องเที่ยวก็เยอะ แต่ไม่ต้องเป็นกังวลไปนะคะ เจ้าหน้าที่ดูแลดีมากๆ เลยล่ะคะ
เราคิดถึงยอดภูเรือที่มีอากาศหนาวเย็น คลายร้อนกันเพียงเบาๆ
__________________________________________________________________________________
__________________________________________________________________________________
เพราะจริงๆ แล้วการเดินทางของพวกเรายังไม่หมดเพียงเท่านี้ค่ะ ....
การเดินทางของเรา เริ่มมาจากนอนหนาวที่ "เขาใหญ่" ขอบอกว่า ที่เขาใหญ่ หนาวประมาณ 12 องศาในช่วงเดือนธันวาคมที่ผ่านมา หนาวจนควันออกปาก นอนในเต้นท์แถบหลับไม่ลง เพราะนอนริมน้ำตกที่ "ลานกางเต้นท์ลำตะคอง" นอนๆ อยู่มีกวางแม่ลูกสองตัวเดินผ่านเต้นท์ข้ามลำน้ำ หายไปในป่าฝั่งตรงข้ามซะงั้น
จากนั้นออกไปส่องสัตว์ ทั้งๆ ที่หนาวจนหน้าชา แต่สุดท้ายได้ "เจอฝูงช้างกินโป่ง" อยู่ไกลๆ แต่พอมองเห็น เพียงเท่านี้ ก็หลับลงแล้วล่ะคะ ...
การเดินทางของเรา เริ่มมาจากนอนหนาวที่ "เขาใหญ่" ขอบอกว่า ที่เขาใหญ่ หนาวประมาณ 12 องศาในช่วงเดือนธันวาคมที่ผ่านมา หนาวจนควันออกปาก นอนในเต้นท์แถบหลับไม่ลง เพราะนอนริมน้ำตกที่ "ลานกางเต้นท์ลำตะคอง" นอนๆ อยู่มีกวางแม่ลูกสองตัวเดินผ่านเต้นท์ข้ามลำน้ำ หายไปในป่าฝั่งตรงข้ามซะงั้น
จากนั้นออกไปส่องสัตว์ ทั้งๆ ที่หนาวจนหน้าชา แต่สุดท้ายได้ "เจอฝูงช้างกินโป่ง" อยู่ไกลๆ แต่พอมองเห็น เพียงเท่านี้ ก็หลับลงแล้วล่ะคะ ...
"เจอฝูงช้างกินโป่ง" @ เขาใหญ่
รุ่งเช้าออกมากินข้าวที่โรงอาหารของเขาใหญ่ แล้ววางแผนกันใหม่ว่าจะไปไหนต่อกันดี เรากางแผนที่ แล้วหลับตาจิ้ม โดยที่จ.เลย (ดีนะที่ยังใกล้) ก็เลยพุ่งเป้าไปที่ "ภูเรือ" ทั้งนี้ จนเกิดการรีวิวที่เที่ยว คิดถึงความหนาวกันในวันนี้
หลังจากนั้น เราก็หันหัวรถกลับไปเที่ยวต่อที่ "เขาค้อ จ.เพชรบูรณ์" นอนเต้นท์หลังสน.เขาค้อ วิวสวยมากกกกกกกกกกกกก แล้วเปลี่ยนไปนอนบ้านเพื่อนอีกกันอีก 1 คืน สะใจ! ก่อนกลับกรุงเทพฯ ด้วยสภาพสะบักสะบอม เพราะป่วยติดเชื้อโรคจากผู้คนกลับมา...
หลังจากนั้น เราก็หันหัวรถกลับไปเที่ยวต่อที่ "เขาค้อ จ.เพชรบูรณ์" นอนเต้นท์หลังสน.เขาค้อ วิวสวยมากกกกกกกกกกกกก แล้วเปลี่ยนไปนอนบ้านเพื่อนอีกกันอีก 1 คืน สะใจ! ก่อนกลับกรุงเทพฯ ด้วยสภาพสะบักสะบอม เพราะป่วยติดเชื้อโรคจากผู้คนกลับมา...
บ้านเล็กสีเหลืองในป่าใหญ่ @ หมู่บ้านเพชรดำ จ.เพชรบูรณ์
หลังบ้านเป็นวิวภูเขาหัวโล้น สลับทุ่งเข้าโล้น ข้างบ้านเป็นทิวสน อิจฉา!
จบข่าว สวัสดีค่ะ :)
Discussion (0)