KUSUMA's Reveiw: ILLAMASQUA ครอบครัวตัวดำ

>> ILLAMASQUA LONDON <<
สวัสดีค๊า สาวๆ สวัสดีวันหยุด (ของบางคน รึป่าว) เนื่องจากวันนี้เป็นหยุดของเราอีกวันนึง ก็เลยได้มีเวลานั่งเขียนกระทู้ในจีบันอย่างที่ตั้งใจสักที
วันนี้จะมาว่ากันด้วยเรื่องของ ครอบครัวตัวดำของเรา นั้นคือ  ILLAMASQUA นั้นเอง เนื่องจากเป็นแบรนด์ที่เราอยากได้มานาน แต่หาเคาร์เตอร์ยากในพื้นที่ที่เราอยู่อ่ะนะ (สาวบ้านนอกสิน่ะ)
แต่ก็ยังติดตามแบรนด์นี้มาเรื่อยๆ เลยสมัครเป็นสมาชิกของเว็บ ILLAMASQUA UK ไว้ ค่อยรับข่าวสาร
ตัวไหนใหม่อะไร ยังไง ว่างั้น
และแน่นอนค่ะ เวลาเขามีเซลเราก็จะได้เมล ซึ่งเราก็เฝ้ารอจนเขาเซล 70 เปอร์เซ็นต์
โดยที่ส่งฟรี!!! ทั่วโลก เมื่อมียอดออเดอร์ตั้งแต่ 50 ปอนด์
เมื่อคำนวณดูแล้ว เรียกว่าถูกกว่าบ้านเราเยอะเลยที่เดียว ก็เลยจัดไปเบาๆ 8 ชิ้น ตกแล้วประมาณ 2000 ปลายๆค่ะ รอประมาณ 1 อาทิตย์ของก็ถึงมือเป็นที่เรียบร้อย
ไปดูกันเลยค่ะว่ามีอะไรบ้าง...



ทั้งหมดนี้เกิดจากที่สั่งทางเว็บ และมีบางส่วนที่ซื้อในไทย แต่ราคาค่อนข้างสูงเหลือเกินเลยซื้อแค่ชิ้น 2 ชิ้นค่ะ
ในนี้ก็จะมีบลัชออนทั้งแบบฝุ่นและแบบครีมค่ะ รองพื้นชนิดครีม ลิปสติก และ Pigment ค่ะ
เริ่มที่บลัชออนก่อนแล้วกันนะคะ





1. Power Blusher สี Hussy


เป็นบลัชออนแบบฝุ่น เนือแมทค่ะ ไม่มีชิมเมอร์ผสม
น้ำหนัก 4.5 กรัม
ราคา 7.5 ปอนด์ (ลด 70%)

2. Power Blusher สี Allure


เป็นบลัชออนแบบฝุ่น แต่มีเกล็ดชิมเมอร์สีทองผสมอยู่ในเนื้อ สีสวยมากก ออกอมน้ำตาลทองค่ะ
น้ำหนัก 4.5 กรัม
ราคา 7.5 ปอนด์ (ลด 70%)

3. Cream Blusher สี Rude


เป็นบลัชเนื้อครีม เนื้อนิ่มละเอียดเกลียง่าย ให้ลุควาวๆ หลังจากเกลียแล้วค่ะ
น้ำหนัก 4 กรัม
ราคา 7.5 ปอนด์ (ลด 70%)

4.Cream Blusher สี Dixie


เป็นบลัชเนื้อครีม สีใกล้เคียงกับ Rude เลยเพียงแต่เข้มกว่านิดหน่อยเท่านั้น หลังจากเกลี่ยแล้วให้ลุควาวๆ เช่นกัน
น้ำหนัก 4 กรัม
ราคา 7.5 ปอนด์ (ลด 70%)
มาดูสีได้ของทั้ง 4 ตัวกัน




พอปาดที่แขน จะเห็นว่า สี Rude กับ สี Dixie จะต่างกันอยู่ สี Rude จะออกสีนมๆ ตุ๊กตาๆ
ส่วนบลัชออนแบบฝุ่น ต้องบอกว่าสีติดดีมาก เพราะฉะนั้นเวลาปัดต้องเบามือนิดนึงค่ะ อย่าลืมเคาะแปรงด้วยนะคะ
เด่วจะได้สีที่เยอะเกินไปจ้า


รูปนี้หลังจากเบลนสีค่ะ เราเบลนด้วยนิ้วมือเลยนะคะ ทาใช้แปรงก็จะเนียนกว่านี้อ่ะนะ
ก็จะได้สีที่เบาลงมา ปรับได้ตามลุคที่ต้องการเลยค่ะ
ถือว่าการสั่งบลัชออนทางเว็บครั้งนี้สำเร็จค่ะ ได้สีที่สามารถใช้ได้ทุกสี และไม่ผิดจากที่คาดเอาไว้
ส่วนตัวชอบสี Allure มาก สาวผิวสองสี ปัดแล้วงามเลยจ้าาาา

มาที่หมวดถัดไปกันเลย

5. Pure Pigment สี Furore


เป็นผง Pigment สีเปลือกไข่ เนื้อละเอียด สีวิบวับมาก สามารถใช้ได้ทั้งแบบเปียก และแบบแห้ง
เอาไว้ทำเป็นไฮไลท์จะสวยมากเพราะเล่นแสง ขึ้นเงาสวย หรือจะเอาไว้แตะหัวตาเพิ่มความโดดเด่นให้ดวงตาก็สวยไม่แพ้ใคร
ที่เลือกสีนี้มาเพราะสามารถเอาไปใช้ได้หลายอย่างมาก เอาผสมกับโลชั้นทาตัวเวลาออกงานกลางคืนก็เริ่ด ถือว่าคุ้มมาก
ในขนาด 1.3 กรัม


ลงบนผิวและเกลียบางๆ ใช้แบบแห้งเลย เล่นแสงสวยมากค่ะ
ชิ้นนี้ซื้อที่ไทย ราคาถ้าจำไม่ผิด ประมาณ 1000 ต้นๆนะคะ

6.Pure Pigment สี Ore




เป็น Pigment สีเทาเหลือบทอง สีสวยใช้ได้เลย ทาใช้แบบเปียกสีก็จะเข้มขึ้นอีกเยอะเลยค่ะ
แต่จะดูมีเกล็ดชิมเมอร์ใหญ่กว่าสี Furore นิดหน่อยค่ะ เอามาไว้ทำอายชาโดว์ได้งามเลย หรือจะเขียนเป็นไลเนอร์แบบเปียกก็ยังไหวค่ะ
ชอบอีกเหมือนกัน
ขนาด 1.3 กรัม
ราคา 7.5 ปอนด์ (ลด 70 %)


อันนี้เกลี่ยบางๆ ค่ะ

และตัวถัดไป
7. Lipstick สี Immodest


เป็นลิปสติก 1 ใน 2 สีที่มีลดอยู่ค่ะ ก็เลยเลือกสีชมพูมา อีกสีที่ลดคือสีม่วงเลย
คิดว่าชมพูน่าจะได้ใช่มากกว่า
ซึ่งมาในขนาด 4 กรัม
ราคา 7.5 ปอนด์ (ลด 70%)


แพคเกจก็เหมือนกับบ้านเราค่ะ สีดำเงาเรียบ ดูดี เปิดมาเป็นสีชมพูจี๊ดเลยค่ะ
สดใสดี แอบสีแรงกว่าที่คิดไว้นิดหน่อย แต่ก็ยังพอไหวค่ะ เอาไว้แต่งให้สาวๆผิวขาว จะสวยมากค่ะ


เป็นลิปสติกเนื้อแมท ตามคำล่ำลือของแบรนด์นี้เขาล่ะ ว่าลิปเนื้อแมทสวยมาก
เราชอบเนื้อนะค่ะ เป็นเนื้อแมทที่ชอบเลย
แต่อาจจะแห้งเกินไปก็ทาลิปมันช่วยได้ สีแน่นมากค่ะ และติดทนด้วยเพราะเช็ดไม่ออกเลยค่ะ
คงต้องลองหาสีอื่นมาไว้บ้าง > <

และตัวสุดท้าย

8.Cream Foundation เบอร์ CF233




เป็นรองพื้นเนื้อครีมที่มาในตลับรูปร่างเดียวกับบลัชออนและ Pigment ค่ะ แต่ขนาดใหญ่กว่า
น้ำหนัก 8 กรัม
ราคา 5 ปอนด์ (ลด 70%)


เราเลือกสีที่เหมาะกับผิวสองสีมาค่ะ เลยลองเลือกเบอร์ CF233 มา
พอเห็นของจริงเบอร์นี้ก็ยังไหวอยู่ค่ะ
ในกล่องจะมาพร้อมกับพัฟที่เอาไว้สำหรับลงรองพื้น
เนื้อรองพื้นจะมีกลิ่นหอมอ่อนๆ เหมือนช๊อคโกแลตอะไรประมาณด้วย ชอบๆเลย
มาลองปาดดูกันค่ะ


สีพอดีกับหน้าแขนเราเลย จากที่ลองปาดเนื้อดูเกลี่ยค่อนข้างยากค่ะ เนื้อหนืดอยู่เหมือนกัน
คงต้องใช้นิ้ววอมเนื้อรองพื้นสักพักจึงค่อยลงบนผิว
จะช่วยให้เกลียได้ง่ายขึ้น แต่ที่ชอบคือหลังลงเสร็จจะได้ผิวที่ดูวาวๆ แต่ไม่เหนียวเหนอะหนะนะคะ ชอบมาก
ตั้งใจไว้ว่าจะลองเล่นกับรองพื้นตัวนี้ดูก่อนเลย เพราะอาจจะเป็นรองพื้นที่ตามหาก็ได้ ได้ทั้งปกปิด แต่ดูเป็นผิว ให้ลุคผิวเงาๆ แต่ไม่เยิ้ม
สรุปก็คือ เป็นการสั่งของข้ามทวีป ที่ประสบผลสำเร็จ ได้ราคาที่ถูก สีที่ชอบ (และโชคดีที่ไม่โดนภาษีค่ะ)

เป็นอีกรีวิวที่ยาวมากกกกกก หวังว่าสาวๆจะชอบกันนะคะ
ใครที่เล็งตัวไหนไว้ ก็หวังว่ารีวิวของเราจะช่วยให้สาวๆ ตัดสินใจได้ง่ายขื้นว่าจะเสียเงินดีไหม ^ ^

ขอบคุณที่ติดตามจนจบนะคะ
บ๊าย บาย เจอกันรีวิวหน้ากับ Kusuma Makeup Lover
--------------------------------------

Discussion (0)