[Review] Fin กันวันหยุดกับ “Vanilla Spa” and “Wil's Kitchen HAWAII”

น่าไปมากๆเลยค่ะ ขอบคุณที่นำมารีวิวน๊า >_< จะละลายกับแพนเค้ก ...

แพนเค้กน่ากินจัง

          ระหว่างดูเมนูไปเรื่อย ๆ นั้น พนง.ซึ่งเป็นชาวญี่ปุ่น ก็เอาน้ำเปล่ามาเสิร์ฟให้ เมื่อเราสั่งเสร็จเป็นที่เรียบร้อย เพื่อเป็นการฆ่าเวลาก็ถ่ายเมนูอาหารมาฝากค่ะ แต่นี่เป็นแค่ส่วนหนึ่งนะคะ จริง ๆ ยังมีอีก แต่อาหารมาพอดีเลยหยุดไว้เท่านี้

          และเมนูที่สั่งมาทานก็คือ Berry Berry Pancake น่าตาน่าทานมาก ๆ เลยละคะ ส่วนรสชาติฟินมากกกกก ไม่ต่างจากตอนนวด เพราะความหวานของเบอร์รี่ ตัดกับความเปรี้ยวของสตอเบอรรี่ได้ลงตัวมาก เนื้อแป้งก็นุ่ม พิมพ์ไปก็นึกถึงรสสัมผัสนั้น จานที่ได้มาค่อนข้างใหญ่ แต่สุดท้ายก็หมดค่ะ ><

          หมดไปสำหรับความฟินในวันหยุด หวังว่าความฟินครั้งนี้ของเรา จะทำให้ใครหลาย ๆ คนใช้วันหยุดกับการหยุดพัก รักษาร่างกายกันจริง ๆ บ้างนะคะ ไม่ใช่วันหยุดแล้วยังหอบงานมาทำกันอีกนะคะ



 

           หลังฟินกาย สบายใจแล้ว ต่อด้วยฟินท้องกันเสียหน่อย เพราะเล็งแล้วว่าจะต้องทานขนมหวานจากคาเฟ่ต์ข้างล่างให้ได้ ราคาอาหารและเมนู ก็เท่า ๆ กับร้านอื่น ๆ ที่เคยได้ทานค่ะ

 

ระหว่างรอนวด ก็ขอถ่ายแบบรอบตัวมาให้ดูค่ะ ว่าร้านจัดสีสันสมชื่อวนิลาแค่ไหน

ถ่ายได้รูปเดียว พนง.ก็เรียกให้ขึ้นไปนวดด้านบนค่ะ

          ขึ้นไปด้านบนจะพบล๊อคเกอร์เก็บรองเท้า ซึ่งที่นี่จะเอาสลิปเปอร์มาให้เปลี่ยน แล้วหยิบรองเท้าไปเก็บให้ค่ะ

          พอเก็บรองเท้าอะไรเสร็จ พนง.ก็พาขึ้นไปชั้นที่ 3 ซึ่งเป็นโซนคนที่นวดตัว เค้าจะมีตะกร้าใส่ของ เสื้อผ้าไว้ให้เราได้เปลี่ยน รวมถึง แผ่นป้ายแปลภาษา น่ารักดีนะคะ อยากนวดหนักเบา ชาวนวดคนไทยก็รับรู้ และบอกกันผ่านป้ายนี้ได้

          การนวดไทยของที่นี่เน้นไปที่คลายเส้น สมกับที่อยากนวดมาก ๆ ค่ะ เพราะทำงานมาทั้งวัน นั่งอย่างเดียวแทบไม่ได้เดิน หรือออกกำลังกายยืดแขน แข้งขา ได้ที่นี่กด ๆ นวด ๆ คลึง ๆ ให้ก็สบายตัว ฟินนนนน สุด ๆ