Review - THREE Foundation & Loose Powder (Glow)

ฮัลโหลๆ ทุกคนนน
หายไปนานมากกับการเขียนรีวิว base makeup 
กลับมาคราวนี้ ปอภูมิใจนำเสนอผลิตภัณฑ์ 2 ตัวที่จะทำการรีวิวนี้มากเลย
ผลิตภัณฑ์ที่ว่านี้ก็คือ 
"THREE Flawless Fluid Foundation SPF15/PA+"
และ
"THREE Diaphanous Loose Powder"
รองพื้นแล้วแป้งฝุ่นจากแบรนด์ hi-end สัญชาติญี่ปุ่นอย่าง THREE นั่นเอง
ตัวที่ปอมีและนำมารีวิวเป็นตัวเก่านะจ๊ะ บอกไว้ก่อน แต่มันไม่ต่างกับตัวใหม่เท่าไร
ยังไงปอจะเขียนเปรียบเทียบคร่าวๆ ไปด้วยในระหว่างรีวิวแล้วกันนะจ๊ะ
(ปอใช้รองพื้นเบอร์ 205 และแป้งฝุ่นรุ่น Glow เบอร์ 02)

 

Product's Reviewed
แพกเกจ (Packaging) 
    เริ่มด้วยรองพื้นก่อนล่ะกัน ตัวเก่าจะเป็นขวดแก้วสั้นๆ ดูเรียบๆ แต่แฝงด้วยความหรูของแบรนด์อยู่ เป็นหัวแบบเท ซึ่งจะต่างจากตัวใหม่นะ ที่จะเป็นขวดแก้วที่เส้นผ่านศูนย์กลางแคบลง แต่ตัวขวดยาวขึ้น และเป็นหัวปั๊ม

 

    ส่วนแป้งฝุ่น แพกเกจไม่ต่างกันเลย จริงๆ แป้งฝุ่นมันแทบจะไม่เปลี่ยนแปลงเลยด้วยซ้ำ เป็นกระปุกเหมือนแป้งฝุ่นทั่วไป แต่เส้นผ่านศูนย์กลางค่อนข้างกว้าง ถือว่าตัวกระปุกแป้งใหญ่พอสมควรเลย แพกเกจเป็นพลาสติก ฉะนั้นน้ำหนักเบา ด้านในมีพัฟมาให้ด้วย คุณภาพพัฟใช้ได้เลย นุ่มและจิกเนื้อแป้งได้ดี แต่กินเนื้อแป้งพอสมควรเช่นกัน ส่วนตัวกรองจะเป็นตะแกรงตาถี่ๆ  

ราคา (Price)
     บอกราคาพร้อมกันได้เลย เพราะราคาเท่ากัน นั่นคือ 1,950 บาท (ราคาเท่ากันทั้งรุ่นเก่าและรุ่นใหม่) ถือว่าเป็นแบรนด์ที่ราคาสูงเลยนะ แต่ปอซื้อมาตอนมันเซลล์ และได้ส่วนลดพิเศษ ซื้อในราคาลด 50% เหลือแค่ 975 บาท เท่ากับซื้อ 2 อย่างในราคาแค่อย่างเดียว คุ้มมาก!!! รองพื้นปริมาณทั่วไป 30 ml. ส่วนแป้งฝุ่น 17 g. จ้า

เนื้อสัมผัสและระดับการปกปิด (Texture & Coverage) 
    ต้องบอกก่อนว่าแบรนด์นี้เขาเน้นความเป็นธรรมชาติ เน้นโชว์ผิว ฉะนั้นรองพื้นและแป้งฝุ่นจะมีเนื้อบางเบามาก รองพื้นเนื้อเหลวมากๆ เกลี่ยง่ายและกลืนไปกับผิวมาก ที่ปอเน้นว่า "มาก" เพราะมันเป็นเช่นนั้นจริงๆ มีกลิ่นหอมอ่อนๆ สดชื่นดี ฮ่าๆ ใช้ระดับการปกปิดแบบบางเบา (Sheer Coverage) แต่ก็ยังพอลงทับเพื่อเพิ่มระดับการปกปิดให้มากขึ้นได้ แต่ก็ไม่ถึงขั้น Full Coverage นะ เต็มที่ก็ปกปิดระดับกลางๆ ถ้าใครมีปัญหาเรื่องจุดด่างดำที่เห็นชัดๆ รอยสิวที่เห็นชัดๆ ต้องพึ่งคอนซีลเลอร์แล้วล่ะ แต่ตัวนี้ดีอย่างที่ไม่ว่าจะลงกี่ชั้น ก็ยังดูเป็นธรรมชาติ ปอเคยลงมากสุดถึง 3 ชั้น แต่มันยังดูเป็นผิวมากเลย 

     รองพื้นตัวเก่าต่างกับตัวใหม่ยังไง ที่ปอรู้สึกได้คร่าวๆ (ปอใช้แล้วทั้ง 2 ตัว) คือ ตัวใหม่เนื้อจะหนืดกว่านิดหน่อย และปกปิดมากกว่านิดหน่อย แค่นิดเดียวจริงๆ คือแทบจะไม่แตกต่าง ส่วนสีตัวใหม่จะเข้มขึ้นนิดๆ แต่เฉดสียังเหมือนเดิม ปอยังคงใช้ 205 เหมือนเดิม แต่ที่แตกต่างชัดๆ คือ รองพื้นสูตรใหม่จะมีส่วนผสมของ Essential Oil เพิ่มเข้าไปประมาณ 2-3 ตัว นอกนั้นเหมือนกันทุกอย่าง และยังคงให้ลุคที่บางเบาเป็นธรรมชาติเช่นเดิม

ดูตามภาพ แทบไม่แตกต่างกันเลยใช่ป่ะ 555+ มันดูกลืนกับผิวมากจริงๆ ใครชอบแต่งหน้าลุคใสๆ เน้นความเป็นธรรมชาติเหมาะมาก

    มาถึงแป้งฝุ่น บอกเลยว่าเลิศ!! เนื้อแป้งฝุ่นละเอียดมากกก ก็คิดดูเอาว่าที่กรองเนื้อแป้งเป็นตะข่ายตาเล็กมากๆ แต่เนื้อแป้งสามารถรอดช่องเล็กๆ นั้นออกมาได้ แสดงว่าเนื้อแป้งจะต้องมีอณูที่เล็ก ละเอียดมากๆ เช่นกัน ปอซื้อรุ่น Glow มา จะมีชิมเมอร์ละเอียดมากๆ (ถ้าไม่สังเกตจะไม่เห็น) เพื่อช่วยกระจายแสง เพื่อให้ได้ลุคตามชื่อรุ่น แต่ปอถามบีเอมาแล้ว และลองใช้รุ่น Translucent มาแล้ว มันไม่ต่างกันเลย 55+ แต่มันจะมีทริกการใช้เล็กน้อย ถ้าซื้อไพรเมอร์ของ THREE มาใช้ด้วย ไพรเมอร์ก็จะมีรุ่น Glow กับ Translucent เช่นกัน ถ้าใช้ไพรเมอร์รุ่นไหน ให้ใช้แป้งฝุ่นรุ่นที่สลับกัน มันเป็นเทคนิคที่บีเอแนะนำปอมา มันจะทำให้ได้ลุคที่สมบูรณ์แบบมากกว่า เพราะมันจะไม่วาวหรือไม่แมทท์เกินไป แต่แป้งฝุ่นปอแนะนำให้ใช้กับแปรงจะดีกว่านะ ลองใช้กับพัฟที่มันให้มาแล้ว มันก็โอดีแหละ แต่เสียดายแป้งที่ติดอยู่กับพัฟอ่ะ คืออารมณ์งก! และเทคนิคการใช้แปรงอีกอย่างคือ ใช้แปรงแตะแป้งฝุ่นแล้วอย่าปัดๆ ไปบนผิว แต่ใช้วิธีการหมุนหัวแปรงให้กลิ้งเบาๆ ไปบนหน้าจนทั่ว จะได้ลุคที่เบา และยังคงดูเป็นผิวมากกว่า

ปริมาณน้ำมันและการควบคุมความมัน (Oil Control)
    รองพื้นและแป้งฝุ่นแบรนด์นี้ ทุกรุ่นจะไม่มีคุณสมบัติควบคุมความมัน มันจะให้ลุคโกว์ลๆ หน่อย แต่ถามว่าหน้ามันไหม บอกได้เลยว่ามันมันน้อยกว่าปกติ! ยิ่งใช้กับไพรเมอร์ของทางแบรนด์ หรือไพรเมอร์เลิศๆ สักตัว ยิ่งช่วยให้หน้ามันน้อยและช้าลงเยอะ (อย่างปอเคยใช้คู่กับไพรเมอร์ Hourglass แม่เจ้า!! 4 ชม. ผ่านไปแล้วหน้ายังไม่มันเลย ทั้งที่ปกติแล้วปอเป็นคนที่หน้ามันมากๆ) ส่วนปริมาณน้ำมัน ถือว่าเยอะพอสมควรเลยนะ เท่าที่ปอทดสอบ แต่แปลกคือใช้แล้วหน้าไม่มัน

    ส่วนแป้งฝุ่น ชื่อรุ่นบอกว่าโกว์ลนะ ฉะนั้นเวลาใช้กับหน้า มันจะดูวาวนิดๆ แต่ถ้าแตะบนผิวจะรู้สึกว่าผิวแมทท์ แต่ไม่ค่อยคุมมันเท่าไร 

 

ความทนทาน (Long Lasting)
     หลายคนอาจจะคิดว่า มันบางเบา มันไม่ค่อยปกปิด จะทนหรอ บอกเลยว่าทนมาก! สีรองพื้นแทบจะไม่ดร๊อปลงด้วยซ้ำ ผ่านไปหลายๆ ชั่วโมง หน้ามันขึ้น แค่ซับมัน ก็จะกลับมาเป็นเหมือนเดิม แค่จะดูฉ่ำวาวมากขึ้น แต่ถ้าใช้กระดาษทิชชูซับ อาจจะมีคราบรองพื้นติดออกมาบ้าง ส่วนแป้งฝุ่น ก็ต้องเข้าใจว่าถ้าเหงื่อออกหรือซับหน้า มันจะเป็นอย่างแรกที่จะไปก่อน อันนี้ถือว่าเป็นเรื่องปกติ แต่รองพื้นทนจริง ปอได้ทำการทดสอบมาให้ดูแล้ว

สรุป (In Conclusion)
     ไม่รู้จะบอกยัง... (ทำเสียงแบบชมพู่ด้วยนะ!) คือรองพื้นตัวนี้แตะรองพื้นก่อนหน้าที่เคยเป็น Favorite ทุกตัวของปอตกกระป๋องไปหมดเลย เพราะมันคือรองพื้นที่ปอตามหาจริงๆ ด้วยความที่ผิวปอไม่ค่อยมีปัญหาอะไรอยู่แล้ว ดังนั้นปอเลยมองหารองพื้นที่บางเบา กลืนกับผิว และเป็นธรรมชาติ แต่งแล้วเหมือนไม่แต่ง ฉะนั้นตัวนี้เลยตอบโจทย์มากๆ แต่มันอาจจะไม่เหมาะสำหรับคนที่กำลังรองพื้นที่ปกปิดแน่นๆ นะ ถ้าใครต้องการแบบนั้นคงต้องมองหาตัวอื่น แน่นอนว่าสำหรับปอซื้อต่อชัวร์ ถ้ายังคงมีสูตรเก่าขายอยู่นะ แต่ถ้าไม่มีสูตรเก่าขายอีกต่อไปแล้ว ก็ยังยืนยันว่าจะซื้อสูตรใหม่ใช้ต่อไปเช่นเดิม จนกว่าจะเจอรองพื้นที่เลิศกว่าต่อไป 

     ส่วนแป้งฝุ่น มันอาจจะยังไม่กุมหัวใจได้ทั้งหมด แต่ถามว่าชอบไหม ก็ชอบนะ ที่เขียนไปข้างต้นมันก็ดีเลยแหละ แต่สำหรับปอยังมีตัวเลือกในใจที่คิดว่าดีกว่า แถมราคายังถูกกว่าพอสมควร อาจจะไม่ซื้อต่อ ดูก่อน (ถ้าลดราคาก็ไม่แน่ 555+)

ปอไม่ขอบอกข้อดี ข้อเสียนะ เพราะความชอบและความต้องการของแต่ละคนไม่เหมือนกัน ปออาจจะชอบแบบหนึ่ง แต่อีกคนอาจจะไม่ชอบก็ได้ ดังนั้นปอว่าปอเขียนรีวิวข้างต้นไว้ละเอียดมากพอสมควร อ่านแล้วลองตัดสินใจกันดูนะจ๊ะ ปอไม่ได้ชักนำ หรือยุยงให้ใครซื้อหรือใช้ตามปอ และปอก็ไม่ได้ส่วนแบ่งหรือผลประโยชน์ใดๆ ในการรีวิวนี้ แต่ปออยากให้รีวิวของปอเป็นไกด์ไลน์ในการตัดสินใจของคนที่กำลังสนใจรองพื้นของแบรนด์นี้อยู่ หวังว่าจะมีประโยชน์นะจ๊ะ