++"ทิฐิ"อุทาหรณ์ของความรัก++

เป็น Fwd Mail ค่า ,, เอามาแบ่งปันให้สาว ๆ ที่กำลังมีความรักอ่านกันนะคะ ^^
(ตอนนี้ จขกท. ก็กำลังตกอยู่ในสถานภาพนั้นเหมือนกัน

หาก...คุณไม่เคยมีความรัก
หาก...คุณไม่เคยรักใคร
หาก...คุณยังไม่ได้คบกับใคร
ดังนั้น...คุณอาจจะยังไม่ต้องอ่าน e-mail ฉบับนี้ก็ได้

แต่ถ้าคุณเป็นคนที่กำลังมีความรัก กำลังคบใคร หรือแม้แต่กำลังสนใจใครอยู่
สละเวลาอ่านซักนิดนะคะ แล้วอาจจะทำให้คุณ...ไม่ต้องเสียของที่มีค่าที่สุดในชีวิตของคุณไป

พูดถึงคำว่า "ทิฐิ" เชื่อว่าคงมีอยู่ในตัวของคนทุกคน เพียงแต่ใครจะมีมากหรือน้อย
ใครเลือกที่จะแสดงหรือไม่แสดงออกมาเท่านั้นเอง
เมื่อ "ทิฐิ" มาเจอกับ "ความรัก" ก็เปรียบเสมือนกับ "ไฟ" มาเจอกับ "น้ำมัน"
ที่ทำให้ทุกสิ่งทุกอย่างระเบิด เผาไหม้ และสลายหายไปในที่สุด

เหมือนกับเรื่องราวของผู้หญิงคนนึง...

แต่ก่อน...ฉันก็ดำเนินชีวิตของฉันมาคนเดียว ฉันไม่เคยมองใคร หรือสนใจใครเป็นพิเศษ
จนกระทั่งวันนึง...ฉันได้มีความรัก ได้พบกับคนที่ฉันคิดว่า "ฉันรักเขา" มากที่สุด มาตั้งแต่ตอนนั้นมาจนกระทั่งปัจจุบันนี้
ตลอดระยะเวลาที่เราคบกัน เราไม่เคยต้องทะเลาะกันในเรื่องของมือที่สาม ทั้ง "ฉัน" และ "เขา" ต่างเป็นคนรักเดียวใจเดียว
เมื่อรักแล้วก็ไม่ได้มองใครคนอื่นอีก มองดูแล้วคู่นี้ไม่น่าจะมีปัญหาอะไร น่าจะอยู่ด้วยกันอย่างมีความสุขได้
เพียงแต่...

เราสองคนกลับทะเลาะกันบ่อยครั้ง ด้วยเรื่อง...ที่หลาย ๆ คนคิดว่าเป็นเรื่องที่ "ไม่เป็นเรื่อง" ซึ่งแทบทุกครั้งที่ทะเลาะกัน
"ฉันเป็นคนเริ่ม" และด้วยความที่เป็นคนทิฐิสูง ฉันจึงแทบไม่เคยเอ่ยปากขอโทษเขาเลยสักครั้ง มีเพียงแต่เขา
ที่คอยขอโทษฉันตลอดทุกครั้ง แม้ว่า...เขาจะไม่ได้ทำอะไรผิดเลยก็ตาม

เหตุการณ์ทุกครั้งที่ทะเลาะกันมาจาก "ความเข้าใจผิด" "ความคิดเล็กคิดน้อย" "ความคิดมาก" "ความน้อยใจ" ที่ฉันคิดขึ้นมาเอง
และการทะเลาะกันแต่ละครั้งยาวนาน เพราะ "ทิฐิ" ทำให้ฉันไม่ยอมลดราวาศอกให้กับเขา ไม่ยอมหยุด ไม่ยอมทำความเข้าใจ
ความที่ทะเลาะกันด้วยเรื่องที่ "ไม่เป็นเรื่อง" บ่อยครั้ง และทุกครั้งฉันมักจะพูดคำพูดที่ทำร้ายจิตใจเขาเสมอ
จึงกลายเป็น "สิ่งที่บั่นทอนจิตใจ" เขา ทำให้สุดท้ายเขา "หมดรัก" ในตัวฉันไป
และทำให้ฉันเสีย "คนที่ฉันรักมากที่สุด" ไปในที่สุด

คุณอาจจะคิดว่า..."ในเมื่อฉันบอกว่ารักเขา แล้วทำไมถึงไม่ยอมเปลี่ยนตัวเอง ไม่ยอมทำความเข้าใจ หรือไม่ลดทิฐิลงบ้าง"
ในตอนนั้น...ฉันเองก็ไม่รู้ว่าทำไม ทำไมตัวฉันถึงเป็นแบบนั้น ทั้ง ๆ ที่เขายอมฉันทุกอย่าง
ด้วยเหตุผลที่เขาบอกฉันว่า "เขารักฉัน" เท่านั้นเอง
เวลาทะเลาะกันฉันมักชอบพูดว่าให้เลิกกันอยู่บ่อยครั้ง ทั้ง ๆ ที่ไม่เคยอยากให้เป็นอย่างงั้นจริง ๆ สักครั้ง
อาจเป็นเพราะฉันยังไม่เคยมีความรักมาก่อน ไม่เคยต้องรู้ว่าเวลาที่เลิกกันแล้ว
มันจะเจ็บปวด ทรมาน ขนาดไหนจนกระทั่งได้เจอเองในตอนนี้

มาถึงวันนี้ วันที่ฉันเสียเขาไป ฉันจึงรู้ว่าเพราะ "ทิฐิ" ในใจฉันนั่นเอง

ฉันอยากบอกทุกคน ไม่ว่าคุณจะเป็นหญิงหรือชาย ถ้าคุณกำลังคบกับใครสักคนอยู่
และคุณเป็นเหมือนกับฉันในตอนนั้น...
พอเถอะนะคะ คุณอย่าทำร้ายจิตใจของคนที่คุณรักอีกเลย เพราะแม้ว่าเค้าจะรักคุณมากขนาดไหน
แต่ถ้าเขาโดนคุณทำร้ายจิตใจไปนานวันเข้า เขาอาจจะหายไปจากชีวิตคุณตลอดไปเลยก็ได้

คำว่า "ขอโทษ" หรือแม้แต่ "การให้อภัย" ไม่ใช่ "สิ่งที่น่าอาย" สำหรับชีวิตคู่เลย
กลับเป็นสิ่งที่ทำให้ชีวิตคู่นั้น "ยืนยาว" มากขึ้น
ฉันไม่อยากให้พวกคุณรู้ถึงสิ่งเหล่านี้ เมื่อทุกสิ่งทุกอย่างสายเกินไปแล้วเหมือนกับฉัน
ขอให้ความหวังดีจากผู้หญิงคนนึงที่เคยทำพลาดไปอย่างฉัน ได้ช่วยให้ทุกคนไม่เสียสิ่งที่มีค่าที่สุดในชีวิตไปเหมือนฉันนะคะ


3 สิ่งที่เราไม่สามารถเรียกกลับคืนมาได้ คือ "คำพูด" "เวลา" "โอกาส"


ขอให้ทุกคนมีความสุขในความรักกันทุกคนนะคะ ^^


+++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++