[เห่อ] Clinique Even Better

 

ตอนนี้หายดีแล้วคะ
หลงเหลือ รอยดำ รอยแดง รอยสิว
ให้เจ็บช้ำน้ำใจ

จอยเลยมองหาผลิตภัณฑ์สำหรับลดเลือนจุดด่างดำ
และต้องการปรับให้สีผิวกลับมาสม่ำเสมอดังเดิม

ประจวบเหมาะกับได้มีโอกาสลองใช้
 Clinique even better 
ซึ่งเป็นไลน์สำหรับลดเลือนจุดด่างดำโดยเฉพาะเลยคะ !

ปกติแล้วจอยไม่ค่อยได้รีวิว skin care ซักเท่าไหร่
ส่วนมากจะเป็นเครื่องสำอางกระจุกกระจิกซะมากกว่า
เพิ่งสังเกตุ นี่ก็เป็นกระทู้ที่ 100 กว่าๆของจอยในจีบันแล้ว

 (รีวิวของมาเยอะขนาดน้านนน)

วันนี้จะมารีวิวเนื้อผลิตภัณและวิธีใช้ให้ดูนะคะ
ส่วนผลการใช้ เดี๋ยวอีก 4 สัปดาห์จะมารีวิวผลให้ดูกันจะๆเลย

จอยจะลำดับตามขั้นตอนการใช้ของจอยเลยคะ
เริ่มจากตัวแรก

Even Better Essence Lotion
(100ml/1,700บาท)

เป็นโลชั่นสูตรน้ำ ให้ความรู้สึกชุ่มชื้และบางเบา
แบ่งเป็น 2 สูตรตามสภาพผิวคะ

สูตร 1, 2 จะเป็นสูตรสำหรับผิวแห้ง
เพราะเนื้อผลิตภัณฑ์จะให้ความรู้สึกที่ข้นกว่า และไม่ใสเท่าอีกสูตร
เติมความชุ่มชื้นให้กับผิวแห้งได้อย่างเต็มที่
ทาแล้วรู้สึกเย็นสดชื่นดีคะ เมื่อตบๆเข้ากับผิว
จะซึมซาบเข้าสู่ผิว และไม่ทิ้งความมันบนผิวเลยคะ
รู้สึกว่าผิวนุ่มชุ่มชื่นมากๆ

ส่วนสูตร 3,4 จะเหมาะสำหรับผิวผสมและผิวมันคะ
เนื้อผลิตภัณฑ์ จะคล้ายกับน้ำใสๆเลยคะ
ซึมซาบเร็วมากๆ เบาสบาย
นอกจากนี้ยังช่วยปรับสมดุลของผิวและควบคุมความมันด้วยคะ

เทียบเนื้อสองสูตรให้ดูกันคะ
3,4 จะบางเบากว่าเห็นได้ชัด
(ถ่ายอยู่หลายเทค เพราะนางไหลไปหลังแขนโน้น ถ่ายไม่ทัน)

แปะกับแผ่นซับมัน 3,4 ซึมลงไปกับกระดาษเร็วมากเลยคะ

วิธีใช้
เทผลิตภัณฑ์ลงบนฝ่ามือประมาณเหรียญ 5 (2-3 หยดก็พอทั้งหน้าแล้วคะ)
ถูฝ่ามือและแตะบนใบหน้าเบาๆให้ทั่วหน้าและลำคอคะ
ใช้วันละ 2 ครั้งหลังล้างหน้า หรือหลังเช็ดโทนเนอร์

สำหรับจอยที่มีอยู่สองสูตร
เลยเลือกใช้สูตร 1,2 ในเวลากลางคืน เพราะนอนในห้องแอร์
ผิวจะได้รับความชุ่มชื้นอย่างเต็มที่
ส่วนสูตร 3,4 ใช้ในช่วงเช้า เติมความชุ่มชื้นให้กับผิว
แต่ยังคงความบางเบา และไม่ทำให้หน้ามันจนเกินไปคะ
เหมาะสำหรับอากาศร้อนๆของบ้านเรามากๆ

อีกสิ่งหนึ่งที่ประทับใจ
คือเรื่อง กลิ่น คะ 
ผลิตภัณฑ์ตัวนี้ปราศจากน้ำหอม 100% 
กลิ่นบางเบามากมากกกก
เทียบกับ mask หลอดชมพู ไลน์ Moisture Surge กลิ่นคล้ายกันเลยคะแต่แรงกว่า
คือตัวนี้ ถ้าไม่ดมใกล้ๆจะไม่ได้กลิ่นอะไรเลย ปลื้มมากๆ

ลักษณะเป็นขวดพลาสติกคะ ไม่ใช่ขวดแก้ว
ใช้งานสะดวก ไม่ต้องมาพะวักพะวงกลัวตกแตก
ฝาผิดหมุนเกลียวจนได้ยินเสียง กริ๊ก !
อุ่นใจ มีตัวล็อค ไม่กลัวหกเลอะเทอะแน่นอน


มาที่ตัวต่อไปคะ 
เป็นตัวเอกของงานนี้
Clinique Even Better Clinical Dark spot Corrector
(30ml/2,600บาท - 50ml/3,700บาท)

เป็นเซรั่มที่เปิดตัวมาตั้งแต่ปีก่อนแล้วคะ
คว้ารางวัลเกี่ยวกับความงามถึง 58 รางวัล 

ตัวนี้จะเน้นประสิทธิภาพในการลดลเือนจุดด่างดำและสีผิวที่ไม่สม่ำเสมอคะ
ช่วยให้ผิวดูสว่างกระจ่างใสขึ้น โดยมีความอ่อนโยนและไม่ก่อให้เกิดการระคายเคือง

จอยลองถามพี่ที่เคาเตอร์ว่าสามารถใช้ได้กับทุกวัยเลยรึเปล่า
คำตอบคือ สามารถใช้ได้กับทุกวัยเลยคะ

คำเคลมบอกว่า ผิวจะดูดีขึ้นหลังจากใช้ไป 12 สัปดาห์
และกลุ่มอาสาสมัครบอกว่าผิวดูดีขึ้นในเวลาเพียง 4 สัปดาห์ 
เดี๋ยวจะลองใช้แล้วสังเกตว่าดูดีขึ้นภายใน 4 สัปดาห์จริงไหม

วิธีใช้
ทาวันละ 2 ครั้งคะ เช้าเย็น หลังจากที่ลงตัว lotion
กดปั้มสองปั้มแล้วทาทั่วใบหน้าเลยคะ

เนื้อผลิตภัณเป็นสีเหลืองอ่อน นวลๆคะ
texture ครีมดีมากๆ เกลี่ยง่าย ลื่นผิว
ซึมซาบเข้าสู่ผิวได้เร็วคะ ไม่รู้สึกหนักหน้า
ผิวหน้าจะนุ่ม เนียน มีความลื่นนิดๆเหมือนมีอะไรมาเคลือบไว้บางๆ
ไม่มีความมันวาว ค่อนข้างให้ความรู้สึกที่ดีทีเดียวคะ
กลิ่นบางเบาเช่นกัน
ใช้แค่ปั้มเดียวก็ทั่วทั้งหน้าแล้วคะ


ตัวต่อไปเป็น
Clinique Even Better Eyes Dark Circle Corrector
(10ml/1,650บาท)

จอยเชื่อว่าสำหรับตัวนี้ หลายๆคนอาจจะเคยใช้แล้ว
เพราะดังมาก

เป็นผลิตภัณฑ์สำหรับลดเลือนรอยคล้ำใต้ตา ช่วยให้โทนสีหม่ำเสมอขึ้น
พร้อมทั้งป้องกันการระคายเคืองที่เกิดจากความแห้ง 
ทางแบรนด์เคลมว่า จากการทดสอบ ผลคือช่วยลดเลือนรอยคล้ำใต้ตาได้ภายใน 12 สัปดาห์

ลูกเล่นที่ทำให้เสียเงินอยู่ตรงนี้คะ
มันไม่ใช่แค่ครีมหลอดบีบธรรมดา ใช้นิ้วแปะๆ
แต่มาพร้อมกับ Cooling Tip applicator
เป็นตัวนวดเพื่อเสริมเรื่องประสิทธิภาพการไหลเวียนของผิวรอบดวงตา

วิธีใช้
บีบเนื้อผลิตภัณฑ์ออกมาเล็กน้อย ปาดไว้ที่ใต้ตาบริเวณส่วนหัวต่อก่อน
จากนั้นใช้ cooling tip applcator ค่อยๆไล่จากหัวตาไปถึงหางตาคะ ทำซ้ำ 2-3ครั้ง
จากนั้นใช้นิ้วแตะๆให้ผลิตภัณฑ์ที่เหลือซึมลงสู่ผิวรอบดวงตาจนหมดคะ

เนื้อผลิตภัณฑ์บางเบาคะ มีความเหลวอยู่พอสมควร
รู้สึกว่าใช้ง่ายกว่าผลิตภัณฑ์รอบตัวตาแบบครีม
เกลี่ยง่าย ซึมซาบเร็ว
ต้องกะปริมาณ ไม่ให้เยอะมากคะ ไม่งั้นตาอาจจะมันได้
(ในกรณี ทาก่อนแต่งหน้าช่วงเช้า)
แต่ที่ฟินสุดๆ คือความเย็นของหัว applicator ทาๆปาดๆ
ฟินนน ไหนๆ ขออีกรอบซิ 5555 รู้สึกได้สปาตาไปในตัว
ด้วยความเย็นนี้ ยังช่วยลดอาการบวมของผิวรอบดวงตา ตอนตื่นมาช่วงเช้าๆได้อีกด้วยคะ


มาถึงตัวสุดท้ายกันแล้วคะ
Clinique Even Better Dark Spot Defense SPF 45/PA++++
(30ml/1,700บาท)

มีสองสีให้เลือก คือสีขาว - sheer และสีเนื้อ sheer tint คะ
สำหรับจอยได้เป็นสีเนื้อ sheer tint มาคะ

หลังจากที่เราบำรุงผิวกันมาสุดชีวิต ทุกวิถีทาง
หากมาตกม้าตายเอาตรงที่ไม่ทากันแดด
ต่อให้ครีมบำรุงดีเลิศขนาดไหนก็เจ้งคะ ผิวเจ้ง
เหมือนแต่งตัวซะสวยเริศในวันฝนตก แต่ไม่กางร่ม
(จะยังสวยไหมล่ะ)

ต้นเหตุจากรอยหมองคล้ำและจุดด่างดำที่เกิดขึ้น
ก็มีส่วนมาจากแสงแดดที่เราต้องเผชิญทั้งวัน
กันแดดสูตรนี้ คิดค้นออกมาให้ป้องกันผิวจากรังสียูวีเอและยูวีบีในระดับสูง
ในขณะเดียวกันก็ช่วยทำให้ผิวดูเรียบเนียนอย่างเป็นธรรมชาติ

เนื้อครีมกันแดดบางเบา อ่อนโยน เหมาะกับผิวบอบบาง ไม่ทำให้ผิวแห้ง
ปราศจากน้ำมัน เหมาะกับผิวทุกสภาพสี เกลี่ยง่ายและซึมซาบเร็ว
สบายผิวและไม่เหนียวเหนอะหนะ ช่วยให้ผิวดูสว่างขึ้นอย่างทันที

วิธีใช้ 
เขย่าขวดทุกครั้งก่อนใช้ ก่อนแต่งหน้า สามารถลงบริเวณรอบดวงตาได้เลยคะ

ความรู้สึกหลังใช้
อยากแรกรู้สึกว่าราคาค่อนข้างแพงเมื่อเทียบกับปริมาณ 555
เพราะครีมกันแดด เป็นสิ่งที่เราต้องใช้ให้ทั่วใบหน้าและลำคอ
และใช้ในปริมาณที่เพียงพอด้วย ห้ามเขียม 

เนื้อครีมสีเนื้อ เกลี่ยง่าย ไม่เหลวมากนัก
แต่พอปาดลงบนผิวแล้วซึมซาบลงบนผิวอย่างรวดเร็ว ให้ความรู้สึกชุ่มชื้น
กลิ่นบางเบา ไม่ทิ้งความมันไว้เลยคะ ตรงจุดๆนี้ดีมาก
เพราะกันแดดส่วนใหญ่ จะทำให้หน้าค่อนข้างมัน
ใครมีปัญหาหน้ามัน จอยว่ากันแดดตัวนี้ตอบโจทย์มากๆ


ครบแล้วค้า
ขอบคุณทาง Clinique ที่มอบผลิตภัณฑ์ให้มาทดลองนะคะ
พบกันกระทู้หน้า หรือสามารถติดตามจอยได้ที่เพจเฟส loveberry joyjee blog นะคะ
ในเร็วๆนี้ กระซิบว่าทาง clinique ใจดีมีของแจกให้แฟนเพจเฟสจอยด้วยนะคะ