[นอกเรื่อง] เกิดอาการช็อค จนไม่รู้จะบอกพี่สาวตัวเองอย่างไงดี

เรื่องเริ่มมาเมื่อหลายเดือนก่อน เมื่อพี่สาวเราที่แต่งงานไปอาศัยที่สหรัฐอเมริกา โทรศัพท์มาปรึกษาเราเรื่องเกี่ยวสามีชาวอเมริกันที่แต่งงานกันมานานกว่า 12 ปี เริ่มมีพฤติกรรมแปลกไปอย่างมากหลังจากเกษียณ ติดคอมพิวเตอร์เกินเหตุ และเริ่มมีความลับกับพี่สาว จนพี่สาวเองไม่สบายใจเป็นอย่างมาก ...

เราเองเลยแนะนำให้พี่สาวตามล่าสามีแบบเงียบๆ จนได้ความว่าสามีของพี่สาวนั่น ชอบเข้าใช้บริการของเวปไซต์หาคู่ AFF บ่อยมาก สองคนพี่น้องเลยวางแผนสร้าง Profile ปลอมเป็น "สาวขี้เหงาจากพัทยา" เพื่อเป็นกับดักให้สามีของพี่สาวมาติดกับ แต่ในความเป็นจริงก็ภาวนาว่า อย่าส่งข้อความมาหา Profile นี้เลย ขอให้เราสองคนเป็นผู้หญิงคิดมากซะดีกว่า ...

จนเวลาผ่านไปก็มีแต่คนอื่นส่งข้อความมาให้ โดยไม่มีสามีของพี่เขยร่วมอยู่ด้วย จนเราลืมไปแล้ว และพี่สาวก็ส่งข่าวมาบอกว่า สามีเริ่มห่างหายจากคอมพิวเตอร์แล้ว เริ่มทำตัวปกติขึ้นแล้ว และเขาขออนุญาตใช้เวลาท่องเที่ยวตามฝันแบบที่ตอนวัยรุ่นไม่เคยทำ โดยเดินทางไปกัมพูชา และจะแวะมาเยี่ยมเราที่เมืองไทย ก็ดูเป็นแผนการเดินทางปกติที่่ไม่มีอะไรผิดไปจากที่เขาเคยทำมาก่อนค่ะ แค่คราวนี้เขาเลือกเวลาเดินทางระหว่างช่วงเปิดเทอมของลูกทั้งสามคน พี่สาวเราเลยจำใจต้องอยู่บ้านดูแลลูกๆ แล้วปล่อยให้เขาเดินทางท่องเที่ยวคนเดียว ด้วยเหตุผลว่า เขาทำงานหนักมาตลอดหลายสิบปี ขอเวลาให้เขากลับไปเป็นวัยรุ่นทำอะไรตามใจ ก่อนที่เขาจะแก่จนเดินไม่ได้

ความแปลกใจมาตกที่เราอีกรอบ เพราะคราวนี้พี่เขยแวะมาเมืองไทย แต่ไม่ยอมมาพักที่บ้าน ยืนยันจะพักที่โรงแรมราคาถูกๆ ที่ไม่มีโทรศัพท์ ถ้าจะติดต่อต้องโทรเข้ามือถือเท่านั้น โดยอ้างว่า จองโรงแรมผิดและไม่อยากทิ้งเงินไปเปล่าๆ ประหยัดค่าใช้จ่าย และไม่ให้เราไปรับหรือไปส่งที่สนามบิน อ้างโน่นนี่นั่น ไม่อยากรบกวนบ้าง เราต้องทำงานบ้าง เราขับรถเร็วบ้าง ผิดวิสัยของพี่เขยเจ้าระเบียบ ผู้ดี มีมารยาท สุภาพบุรุษ มีการศึกษา คนเดิมที่เราเคยรู้จักมากตลอด 12 ปีมากๆ ค่ะ

จนเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว เราเข้าไปเคลียอีเมล์เก่าๆ ออก แล้วเห็นอีเมล์แปลกๆ ลิงค์มาจากอีเมล์กับดักที่ตั้งขึ้นมาหลอกจับพี่เขย เลยลองเข้าไปดู มีเป็นสิบอีเมล์ แต่สองฉบับที่ทำให้เรา "ช็อค" เพราะมันส่งมาจากพี่เขยเราเอง ...

เราเปิดเข้าอีเมล์ด้วยความโกรธ ตั้งใจว่าอ่านจบจะโทรทางไกลไปอเมริกา เพื่อรายงานพี่สาว แต่ว่าอีเมล์ทั้งสองฉบับกลับทำให้เราไม่กล้ากดโทรศัพท์ไปหาพี่สาว ได้แต่อ่านซ้ำๆ ให้แน่ใจว่า เราอ่านผิดหรือเปล่า และ อยากให้เนื้อหาในอีเมล์นั่นเปลี่ยนไป แต่มันก็ไม่เปลี่ยน มันเป็นอย่างที่เราอ่าน เป็นอย่างที่เราเห็น ตอนนั้นเราทำได้แค่ร้องไห้จนแทบเป็นบ้าคนเดียว ไม่กล้าบอกใคร ...

อีเมล์ฉบับแรก ...
ส่งมาชักชวน "สาวขี้เหงาจากพัทยา" ให้มาทำความรู้จักกัน เพราะพี่เขากับเพื่อนสาวไบเซ็กชวล ชาวกัมพูชา ต้องการเพื่อนแสนดี ขี้เหงา มาร่วมกิจกรรมหรรษา และ ทั้งสองเดินทางไปท่องเที่ยวพัทยากันบ่อยๆ ถ้าสนใจอยากคลายเหงาด้วยกัน ให้ส่งเมล์ตอบกลับมา เพราะสองคนกำลังจะมาพัทยา (ซึ่งเป็นช่วงเวลาเดียวกับที่พี่เขยบอกเราและพี่สาวว่าจะท่องเที่ยวอยู่ในกัมพูชา) พร้อมกับแนบภาพถ่ายสุดเท่ห์ของเขามาให้ดูด้วย และ เป็นภาพถ่ายที่เราเองเป็นคนถ่ายภาพนี้ให้เขาเอง เมื่อครั้งที่ครอบครัวพี่สาวและพี่เขยมารวมญาติกันที่เมืองไทย โดยเขาตัดภาพพี่สาวเราออกเหลือแค่ตัวเขาคนเดียว ...

อีเมล์ฉบับที่สอง ...
ส่งมาชักชวนหนักขึ้น บรรยายถึงเหล่ากิจกรรมหรรษาที่เคยกระทำและกำลังอยากจะกระทำของทั้งสองคน พร้อมทั้งแนบรูปถ่ายมาให้ เป็นภาพแฟนสาวชาวกัมพูชาของพี่เขย ทั้งอ้วน เตี้ย ตัวดำ ฟันเหยิน ฝ้ากระเต็มหน้า ปากดำ หน้าตาน่าเกลียด มองเหมือนผู้หญิงอายุมากกว่า 40 ปี มองไม่เห็นภาพสาวกัมพูชาอายุ 35 ปี มีการศึกษา และทำงานในสนามบินเลยสักนิด รวมทั้งภาพอนาจารแบบซาดิสต์ มัดเชือก อุปกรณ์ เสือผ้า เซ็กส์ทอย อีกห้าภาพ ที่ส่งมาให้ดู (บรรยายต่อไม่ไหวค่ะ ขอแค่คราวๆ นะคะ)

ทั้งหมดนี้มันทำให้เรานอนไม่หลับมาหลายวัน เพราะไม่รู้ว่า จะทำอย่างไงต่อไปดี จะบอกพี่สาว? หรือ เก็บเงียบ? หรือ จะลุยเอง? 

พี่สาวเราเป็นภรรยาที่ดี เป็นแม่บ้านที่ดีมาตลอด 12 ปี ดูแลลูกสามคนอย่างดี ดูแลตัวเองให้สวย ให้สาวเสมอ เพื่อสามี เพื่อครอบครัว ... เราไม่เข้าใจว่า ทำไมพี่เขยถึงเลือกที่จะทำอะไรเลวร้ายลับหลังพี่สาวเราแบบนั้น ถ้าผู้หญิงคนนั่นสวยกว่า สาวกว่า น่าตื่นเต้นกว่า เรายังพอจะเข้าใจน่ะ แต่นี่เห็น "สภาพ" แล้วไม่ใช่เลย หรือ แค่เพราะลายเพิ่งมาออกตอนแก่ แล้วพี่สาวเราจะทำอย่างไง หลานๆ อีกล่ะ ... เล่นมีผู้หญิงอื่นยังไม่พอ แต่กลับมีรสนิยมซาดิสต์น่ารังเกลียดด้วย เราโคตรเกลียดเข้ากระดูกดำ ความนับถือที่มีให้หายไปหมดเลย เป็นห่วงพี่สาวกับหลานๆ ไม่เข้าใจเลยจริงๆ ว่าเกิดอะไรขึ้น ปวดหัว ปวดใจ ชะมัด!!

ใครมีคำแนะนำอย่างไง ช่วยบอกเราทีเถอะ ว่าเราควรทำอย่างไงต่อไป ขอบคุณค่ะ