รีวิว Blush Hourglass (US) และ Charlotte Tilbury (UK)
Beauty Legend1511สวัสดีค่ะ เทอๆทุกท่าน พบกันอีกครั้งกับการรีวิวของหายาก (หากไม่ได้ตำจากร้านหิ้ว หรือ บินไปซื้อที่เมืองนอกโดยตรง) มาเริ่มกันเลยดีกว่าค่ะ
วันนี้จะมาพูดถึง บลัช สองแบรนด์ Hourglass (US) และ Charlotte Tilbury (UK)
วันนี้จะมาพูดถึง บลัช สองแบรนด์ Hourglass (US) และ Charlotte Tilbury (UK)
ขอพูดถึง Hourglass ambient lighting blushes ก่อนดีกว่าค่ะ
แบรนด์ Hourglass เป็นแบรนด์ระดับสูงค่ะ ที่ให้นิยามของความงาม คือ ความนัว ความเนียนละมุน สวยมีมิติแบบไม่มีที่มาที่ไปค่ะ บลัชของ Hourglass จะออกแบบมาเพื่อสอดคล้อง กับ Ambient lighting power ค่ะ โดยสีบลัชจะนวลสวย มีมิติ และดูแพงมากๆค่ะ ดิชั้นตำมาได้ 3 สี ไปดูกันเลยค่ะ
Diffused Heat สีพีชปะการัง มีชิมเมอร์ละเอียดวับวาวเป็นประกาย
Dim Infusion สีพีชสว่าง ให้ความกระจ่างอมส้มปะการังสดใส
Ethereal Glow สีชมพูอ่อน สว่างนุ่มสุขุม ให้ความเนียนและสดใสอ่อนเยาว์
Package - เป็นตลับสีทองเงาสวยมากค่ะ
เนื้อบลัช - เป็นเนื้อหินอ่อน ผสมสองสี ทุกชิ้นเกิดขึ้นจากการเซทตัวเองของ Bake powder จึงทำให้ทุกชิ้นมีลายหินอ่อนที่ไม่เหมือนกันค่ะ
ข้อดี - สามารถใช้ได้ทุกสีผิว และไม่ดูมากจนเกินไป แม้ใช้แบบไม่ระวังมือ สวยหรูดูแพงมากๆค่ะ
ข้อเสีย - หายากมากๆค่ะ และราคาค่อนข้างสูง แต่ดิชั้นคิดว่า Beauty Legend ตัวจริง ตำได้อย่างแน่นอนค่ะ อิอิ ^^,
อีกแบรนด์นึง มาจากทางฝั่งอังกฤษ ข้ามน้ำข้ามทะเลมาค่ะ
นั่นก็คือ Charlotte Tilbury Cheek to Chic Blusher
Charlotte Tilbury เป็นเมคอัพอาร์ตทิสชื่อดังที่รังสรรค์ไลน์เครื่องสำอาง ที่สวยงาม และเข้าใจในความงามเป็นอย่างมากค่ะ ผลิตภัณฑ์ต่างๆนำเสนอเพื่อ เพิ่มความงามที่อยู่ในตัวเรา ให้เราได้สวยขึ้นไปอีก โดยไม่เปลี่ยนความเป็นเราที่มีค่ะ
Cheek to Chic Blusher เก๋มากๆตรงที่ มันเป็นบลัชที่มีสองสีค่ะ โดยวงสีด้านนอก เป็นสี ชิมเมอร์ เรียกว่า swish และวงสีตรงกลางเป็นสีด้าน เรียกว่า pop โดยเวลาที่เราปัดแก้ม ให้เราวงแปรงรอบสี swish ก่อนแล้วปัดทั่วเรือนแก้ม จากนั้น ให้แตะ pop แล้วปัดที่โหนกแก้ม จะทำให้แก้มของเรา โดดเด้งมีมิติสวย เกร๋ๆค่ะ
ดิชั้นตำมาได้สองสีค่ะ
Love Glow ให้สีพื้นอมชมพูผสมชิมเมอร์สีทอง Swish สีชมพูอมทอง อบอุ่น แต่ pop สีชมพูโทนฟ้า
Esctasy ให้สีส้มปะการังผสมชิมเมอร์สีทอง Swish สี ส้มกว่า pop จะมีติงของสีชมพูมากกว่า
Package - เป็นตลับสีเลือดหมูเข้ม อักษรสีทอง เงาสวยมากค่ะ
เนื้อบลัช - เป็นเนื้อswish and pop
ข้อดี - สามารถใช้ได้ทั้งแบบ swish and pop หรือจะเลือกสีใดสีหนึ่งก็ย่อมได้ค่ะ
ข้อเสีย - หายากมากๆกว่าค่ะ และราคาค่อนข้างสูง คนรู้จักน้อยค่ะ
ทั้งสองแบรนด์นี้ หาตัวเปรียบได้ยากค่ะ โดยเล่นที่ลูกเล่นของการผสมสีสัน ไม่ใช่บลัชเฉยๆ แต่มีอะไรในตัวเอง แม้ความติดทนจะยังไม่มากเท่าบางแบรนด์ที่ใช้ก่อนหน้านี้ อาทิ Tom Ford แต่ก็ให้สีชัดเจน และสวยงามทรงคุณค่าดั่งแบรนด์ ระดับสูงจริงๆค่ะ
เพราะความสวยคือความงามที่ยิ่งใหญ่ระดับHigh Brand ค่ะ ^^,
Discussion (11)
เป้าหมายต่อไปคือต้องตำป้าชาลอต ละมุนมากกก