เครื่องสำอางค์เป็นสินค้าฟุ่มเฟื่อยจริงเหรอ

ใครมีความคิดว่ายังไงกันบ้าง ที่เค้าคิดว่าเครื่องสำอางค์เป็นสินค้าฟุ่มเฟือย ที่จริงNan คิดว่าเป็นเรื่องจำเป็นมากกว่าคนทั่วโลกก็ใช่กัน มีใครคิดเหมือนเราบ้าง เผื่อเค้าจะลดภาษีลงบ้างเนอะ เป็นการเมืองไปรึเปล่าถ้ามีผลกระทบก็ ลบมันทิ้งนะตัวเอง

Discussion (33)

เราว่าฟุ่ยเฟือยอ่ะค่ะ ใช้ไม่หมดก็ซื้ออีก แถมบางอันมีคล้ายๆกันหลายอัน =[]= ไม่ใช่ปัจจัย 4 ด้วย แต่หมดก็ต้องซื้อใหม่ - -* ส่วนใหญ่นอกจากซื้อแต่งหน้า(ซึ่งไม่จำเป็นต้องมีหลายอันเล้ยยยย) ก็ซื้อแก้เครียด 55+
เราว่าทุกอย่างบนโลกมันฟุ่มเฟือยหมด


เปรียบเทียบนะถ้าหากเสื้อผ้าเนี่ยเราจำเป็นต้องใส่ก็จริง แต่เราก็สามารถเลือกในแบบที่เหมาะสมกับเรา ไม่แพงเกินไป มันก็กลายเป็นพอดี ไม่ฟุ่มเฟือย แต่ถ้าหากเกิดอยากซื้อกระเป๋าใบละแสนเพราะบ้าแบรนด์ กลายเป็นว่าฟุ่มเฟือยแทน เพราะงั้นจะเ้ปรียบว่าเครื่องสำอางมันเป็นสิ่งฟุ่มเฟือยเลยก็ไม่ได้สำหรับเรา  เราสามารถเลือกเครื่องสำอางในแบบที่เหมาะสม พอดี กับเราได้ ในราคาที่เรามีปัญญาซื้อได้ ไม่เดือดร้อนใคร

เหมือนสร้างบ้านอ่ะ บ้านน่ารักๆ ก็บอกว่ามันดูพอดี พอสร้างบ้านใหญ่ๆ เพราะว่าอยากมีบ้านหลังใหญ่ๆ เลยกลายเป็นว่าฟุ่มเฟือย

และมันขึ้นอยู่กับสิ่งที่คนมีอำนาจมองว่ามันจำเป็นสำหรับเขาไหม เราว่านะ เค้าเลยบอกว่าสิ่งนั้นฟุ่มเฟือย (เพราะมันไม่จำเป็นสำหรับหนังหน้าผู้ชายที่แก่กันหมดแล้ว ถึงทา คสอ. ไปหน้าเหี่ยวๆก็ไม่กลับมาตึงใสแบบที่คนสมัยนี้พยายามกันทุกวี่ทุกวันหรอกนะ หึ)

ฟุ่มเฟือย คือการใช้อย่างไม่บันยะบันยัง ใช้จนเกินความจำเป็น ใช้จนเดือดร้อน ถ้าใช้อย่างพอเพียง ไม่เดือดร้อนใคร ทุกอย่างมันก็จะดี

ส่วนเราคิดว่า ผู้หญิงมันก็ต้องชอบของสวยงามอยู่แล้ว พอเจอ คสอ ใหม่ๆ ก็อยากได้อยากซื้อ ไม่รู้ทำไม แต่เป็นพฤติกรรมที่เป็นเกือบทั้งโลก เหมือนชอบสะสม ใช้ไม่หมดก็ซื้อ.....ถ้าบอกว่าฟุ่มเฟือย แสดงว่าอะไรที่คนบ้าซื้อสะสมทั้งหมดก็ฟุ่มเฟือยหมด (เช่นคนรักแสตมป์ ซื้อแสตมป์สะสมเยอะๆเป็นเล่มๆ ก็เพราะอยากได้ อยากเก็บ ถามว่าใช้มั้ย ก็ไม่ใช้ ทำไมไม่มีใครบอกว่าฟุ่มเฟือย กลับบอกว่ามันเริด ควรสะสม   เหมือน คสอ แหล่ะ เวลามีรุ่นใหม่ๆออกมาก็อยากซื้อเก็บ (ทั้งๆที่ไม่รู้ว่าจะใช้มั้ย) แต่อยากเก็บ เพราะมันมีคุณค่าทางจิตใจ (ทำให้มีความสุข ณ ตอนครอบครอง)  ทีแบบนี้กลับบอกว่าปัญญาอ่อน ซื้ออยู่ได้...............คุณค่าของการมองมันจึงไม่เหมือนกัน และคนมีอำนาจเป็นผู้ตัดสินใจในการเลือกว่าสิ่งใดคือสิ่งฟุ่มเฟือย

ป.ล.. นี่เป็นความคิดเห็นส่วนตัวนะ ไม่ได้ขัดแย้งใครนะจ๊ะ จุ๊บๆ

ก็ฟุ่มเฟือยค่ะ เพราะมีแล้วก็อยากได้อีก ไม่มีวันจบสิ้นจิงๆๆ
พอเห็นแบบใหม่ สีใหม่ก็อยากได้ ทั้งๆที่อันเดิมยังใช้ไม่หมดเลยอ่ะนะ
ค่ะ เราว่าเป็นสินค้าฟุ่มเฟือย แต่เป็นสิ่งที่ฟุ่มเฟือยแล้วมีความสุขที่ซู้ด....เลย

ถ้าในทางวิชาการมันก้แหงล่ะ...สินค้าฟุ่มเฟือย

แต่เรากลับไม่คิดอย่างงั้นเลยนะคะ

ลองคิดดูสิ ถ้าเราไม่แต่งหน้าไปทำงาน เค้าก็จะว่าเราไม่สุภาพ มันกลายเป็นความจำเป็นที่จะต้องแต่งหน้าไปทำงานอ่ะค่ะ ลองไม่แต่งไปสิคะ คงได้โดนผู้ใหญ่มองแปลกๆแน่เลย

เมื่อไหร่รัฐบาลจะเปลี่ยนนโยบายซะทีเนี่ย เครื่องสำอางค์จะได้ถูกลง

เพื่อผู้หญิงทุกคน!!!