Hual & Review : แฝดคนละฝา Urban Decay : Naked On the Run Palette & (.........) ???

Happy New Year 2015 ค่ะสาวๆ

ผ่านวันหยุดยาวมาหลายวัน....สาวๆได้ไปเที่ยว และช็อปปิ้งที่ไหนกันบ้างเอ่ย

อยากบอกว่าตั้งแต่ต้นเดือนธันวาคมที่ผ่านมา...ช่าไม่ได้ซื้อเครื่องสำอางใดๆเลย

เพราะอยากลด...ละ...เลิกมากๆ เนื่องจากของเก่าเราก็ใช้ไม่ทัน ไม่อยากทิ้งให้หมดอายุเสียก่อน

แต่ปีใหม่ที่ผ่านมา ช่าได้รับของขวัญจากพี่สาวที่รวบยอดปีใหม่และวันเกิดย้อนหลัง

เป็นของที่กรี๊ดมากตอนเปิดกล่องออกมา นั่นก็คือ Urban Decay : Naked On the Run Palette

ตอนแรกช่าไม่รู้เลยว่า Urban Decay ได้ทำพาเลต Naked On the Run Palette

ออกมาในช่วงฮอลิเดย์ที่ผ่านมา เพราะตอนนั้นช่าเข้าใจว่ามีแค่ Vice 3 ที่ออกมาล่าสุด

ตอนที่พี่สาวบอกจะส่งของขวัญเป็นอายแชร์โด ก็แบบกลัวว่า จะซื้อ Vice 3 ที่มีโทนสีฉูดฉาดส่งมาให้รึเปล่า

ถึงจะอยากได้ขนาดไหน ก็แอบกลัวจะใช้ไม่ทันเหมือนกัน

ตอนแรกที่เห็นแค่กล่องกับตลับ อยากบอกว่าสวยงาม เลอค่า ไม่อยากแตะเลยทีเดียว

ตัวตลับค่อนข้างแข็งแรง และหนัก ด้านหน้าเป็นรูปกราฟฟิกแบบลายพราง

ช่าก็แอบคิดว่า จะเป็นโทนสีแบบไหน สีเขียวขี้ม้า น้ำตาล หรือสีฉูดฉาด...???

แต่พอเปิดออกมา แอบสตั้นท์ไป 5 วิ...แล้วคิดในใจว่า "คุ้นๆๆๆแฮะ!!"

Swatch

  • Dive : สีชมพูแชมเปญ (ชิมเมอร์)
  • Fix : สีน้ำตาลตุ่นๆ (แมท)

  • Resist : สีน้ำตาลอมม่วง (ชิมเมอร์)
  • Dare : สีน้ำตาลกลาง (แมท)

  • Stun : สีน้ำตาลช็อกโกแลต (ชิมเมอร์)

  • Bronzer : บรอนเซอร์สีน้ำตาลอมส้ม (แมท)
  • Blush : บรัชออนสีชมพูเข้ม (แมท)
  • 5050 : ไฮไลท์เนื้อละเอียด (ชิมเมอร์)

Climax !!

สิ่งที่ทำให้ช่าตกใจในครั้งแรก เพราะซึ่งพาเลตนี้มันดันคล้ายกับพาเลตที่ช่ามีอยู่ที่บ้านตอนนี้...และมีมานานแล้ว

คือ Enchanted Color Palette จาก Felicite MMU แบรนด์ของคนไทยเรานี่เอง

ซึ่งช่าได้พาเลตนี้มานานมาก และพอลองเปรียบเทียบใช้ดู มันคล้ายกันมาก ช่าจึงเอามารีวิวเปรียบเทียบให้ดู

ทั้ง 2 พาเลตมีโทนสีที่คล้ายกันพอสมควร อาจไม่เหมือน 100%

สิ่งที่ชอบจากทั้ง 2 พาเลตคือกระจกบานยักษ์ เห็นหน้าชัดแจ๋ว

Swatch

  • Fairy Light เป็นสีชมพูอ่อน (เหลือบมุก )
  • Fairy Jewel เป็นสีชมพูอ่อนมาก (ชิมเมอร์)

  • Alluring Kiss สีแชมเปญอมประกายชมพู (ชิมเมอร์)
  • 90% Cocoa สีน้ำตาลเข้ม (เหลือบมุก)

  • Ruined สีน้ำตาลเข้มอมม่วงแดง (เหลือบมุก)
  • Midnight Lilac สีดำเข้ม (เหลือบมุก)

  • Fairy Spell บรัชออนสีชมพูนม (เหลือบมุก)
  • Climax บรัชออนสีชมพูอมส้ม (เหลือบมุกทอง)
  • Beach Bronze บรอนเซอร์สีน้ำตาลกลาง (เหลือบชิมเมอร์ทอง)

คล้ายกันตรงไหน???

Bronzer (Urban Decay) vs Beach Bronze (Felicite)

แต่!! สีน้ำตาลอมส้มเหมือนกัน แต่ Beach Bronze (Felicite) จะมีประกายเหลือบ

Stun (Urban Decay) vs Ruined (Felicite)

แต่!! Stun (Urban Decay) จะมีชิมเมอร์มากกว่า ในขณะที่ Ruined(Felicite) จะเหลือบมุกมากกว่า

Dive (Urban Decay) vs Alluring Kiss(Felicite)

Dive (Urban Decay) จะมีสีชมพูเข้มกว่า Alluring Kiss(Felicite)

5050 (Urban Decay) vs Fairy Light(Felicite)

ถ้าดูจากพาเลต Fairy Light(Felicite) จะเหลือบชมพูมากกว่า แต่เวลาปัดเป็นไฮไลท์แล้ว จะให้สีคล้ายกัน

แต่จะเหลือบวาวกว่า 5050 (Urban Decay)

Blush (Urban Decay) vs Fairy Spell + Climax (Felicite)

ถ้าผสม Fairy Spell + Climax (Felicite) จะให้สีเหมือน Blush (Urban Decay) แต่จะได้สีเหลือบสวยกำลังดี

Stag : 24/7 Glid-on Eye pencil vs Ruined/ Midnight Lilac (Felicite)

ใช้แปรงแตะน้ำหมาดๆ แต้มRuined เพื่อให้ได้ไลเนอร์สีน้ำตาลเข้ม หรือ Midnight Lilac เพื่อให้ได้ไลเนอร์สีดำสนิท

Mini How to : เปรียบเทียบ

ใช้บรอนเซอร์ไล้ให้ทั่วเบ้าตา เพื่อเน้นชั้นตาให้ชัดขึ้น

สร้างกระบอกตาด้วยอายแชร์โดสีน้ำตาลเข้ม

แต้มอายแชร์สีชมพูแชมเปญที่กึ่งกลางตาและหัวตา

เขียนอินเนอร์ด้วยสีดำ และปัดขนตาให้เด้งสวยงาม

ตาซ้าย : แต่งด้วย Urban Decay เขียนคิ้วด้วยสี Dare

ตาขวา : แต่งตาด้วย Felicite MMU เขียนคิ้วด้วยสี Midnight Lilac

ผลิตภัณฑ์อื่นๆในพาเลต Naked on the Run

Stag : 24/7 Glid-on Eye pencil สีน้ำตาลเข้ม

อายไลเนอร์ดินสอที่เขากล่าวขานกันว่าเริ่ด ช่ายังไม่ได้ลองจริงจัง แต่ส่วนตัวแล้วหนังตาไม่ได้มันมาก

Sesso Lip gloss : ลิปกลอสสีแดงระเรื่อสวยมาก ช่าเป็นคนริมฝีปากคล้ำ ทาแล้วดูไม่น่าเกลียด

Naked mascara : ช่าชอบหัวแปรงแบบนี้มาก ปัดแล้วขนตาจะฟูมาก แต่ตัวนี้ปัดเดี่ยวๆไม่เวิร์ก

เพราะขนตาจะตกทันที แต่ช่ายังไม่ได้ลองแบบปัดon top มาสคาร่าที่มีอยู่แล้ว

สรุป

โทนสี : Enchanted Color Palette และ Naked on the run มีโทนสีคล้ายกันประมาณ 70% คือ สามารถใช้แทนกันได้ในแต่ละโอกาสต่อจากนี้ไป เพราะความบังเอิญจากของขวัญชิ้นนี้ แต่ Enchanted Color Palette จะไม่มีสีแมทสนิทเหมือน Naked on the run แต่สำหรับช่า บางสีที่มีชิมเมอร์ก็ไม่ได้วิ้งค์เว่อร์เกินไป

แพ็คเก็จ : Enchanted Color Palette และ Naked on the run มีแพ็กเก็จที่แข็งแรง ทนทานทั้งคู่ แต่ Naked on the run จะมีขนาดใหญ่และหนากว่าเท่าตัว Enchanted Color Palette

ราคา

Naked on the run : 2,200 บาท

Enchanted Color Palette : 1,320 บาท

การลงทุน

Naked on the run :ได้อายแชร์โด 5 สี มีแมทสนิทและชิมเมอร์ ,บรัชออน บรอนเซอร์ ไฮไลท์ อย่างละ 1 สี นอกจากนี้ก็จะได้ลองของใหม่อื่นๆ เช่น Stag : 24/7 Glid-on Eye pencil, Naked Lip gloss , Naked mascara พาเลตสวยงาม แต่ยากแก่การพกพา

Enchanted Color Palette : เน้นใช้งาน ได้อายแชร์โดสีที่ใช้ได้ทุกวัน 6 สี ไม่มีสีแมทสนิท แต่ชิมเมอร์ไม่ได้เยอะจัดทุกสี บรัชออน 2 สี บรอนเซอร์ 1 และอายแชร์โดสี Fairy light สามารถใช้เป็นไฮไลท์ได้ สี Ruined และสี Midnight lilac ใช้แปรงแต้มน้ำหมาดๆ สามารถใช้เป็นอายไลเนอร์ได้ ขนาดตลับพกพาง่าย และราคาถูกกว่า และอาจจะเป็นอีก 1 ทางเลือกสำหรับสาวๆงบน้อย แต่อยากได้ของคล้ายกัน และคุณภาพดีเหมือนๆกัน

สุดท้ายนี้ช่าปลื้มและเห่อ Naked on the run ที่ได้เป็นของขวัญมากๆ และคิดว่าจะใช้สลับกัน เพราะ Enchanted Color Palette จะเอาไว้พกพาเวลาเดินทาง

รีวิวนี้้ทำขึ้นใช้ประกอบวิจารณญาณแก่สาวๆในการตัดสินใจซื้อพาเลตให้เป็นของขวัญตัวเองอีก 1 ทาง เผื่อใครอยากลงทุนสักชิ้นจะได้มีของดีๆราคาตามแต่กำลังทรัพย์ที่สาวๆมี Naked on the run มีขายที่ Sephora สาขาต่างๆในไทย แต่ช่าไม่แน่ใจว่าจะมีของอยู่หรือไม่

Enchanted Color Palette มีขายในเว็บไซด์ La freya ลองค้นหาใน google.com ดูนะค่ะ

ขอบคุณที่เข้ามาอ่านกันค่ะ

Discussion (5)

จะปรับปรุงค่ะ
รีวิวละเอียดมาก แต่ขออนุญาตติตรงแสงไฟในห้องที่ใช้เหลืองเกิน ทำให้เห็นสีเพี้ยนไปจากของจริงมากอะค่ะ